การปลุกระดมให้เกิดการล้มล้างรัฐบาลและรัฐธรรมนูญ “ถือเป็นกบฏ” เนื่องจากเป็นลักษณะความผิดที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารเมียนมายังกำหนดลักษณะความผิดอาญาด้านความมั่นคงอีกหลายรูปแบบ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่าคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐเผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับการแก้ไขบางมาตราของประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วย “พฤติการณ์เข้าข่ายก่อสงครามต่อสหภาพเมียนมา” ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงภายในประเทศ ให้ครอบคลุมถึงการปลุกระดม การสนับสนุนหรือสมคบคิดกับกลุ่มบุคคลใด โดยมีเป้าประสงค์เพื่อล้มล้างรัฐบาลและอำนาจตามรัฐธรรมนูญ “ถือเป็นความผิดร้ายแรง ฐานเป็นกบฏต่อแผ่นดิน”
Anti-coup protesters rally outside National League for Democracy party (#NLD) offices in #Yangon#Myanmar pic.twitter.com/Eba1b11VJ4
— Ruptly (@Ruptly) February 15, 2021
Protesters in Myanmar continued to demand for the release of ousted civilian leader Aung San Suu Kyi and an end to military rule, but crowds were smaller after the junta deployed armored vehicles and more soldiers on the streets https://t.co/2CmqdVJ0yq pic.twitter.com/kHds32aRaA
— Reuters (@Reuters) February 15, 2021
นอกจากนั้น “การสร้างความเกลียดชัง” และ “การดูหมิ่น” ต่อรัฐบาลทหาร และคณะผู้นำ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะด้วยวาจา ตัวอักษร ภาพ หรือการแสดงกิริยาท่าทาง มีมีบทลงโทษจำคุกขั้นต่ำสุด 7 ปี และนานสูงสุด 20 ปี หรือการปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่บุคคลซึ่ง “ก่อความรุนแรง” ด้วยการสร้างความเสียหาย เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานด้านความมั่นคง อาจต้องรับโทษจำคุกขั้นต่ำสุด 10 ปี และนานสูงสุด 20 ปี หรือชำระค่าเสียหาย หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้านบุคคลซึ่ง “รบกวน” การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่รัฐ อาจต้องรับโทษจำคุกนานถึง 7 ปี หรือปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ
Aung San Suu Kyi and Win Myint will appear in court on February 17 by video link, their lawyer says. Meanwhile, the junta has amended the Penal Code to broaden the definitions of incitement, sedition and high treason. #WhatsHappeningInMyanmar
Read more: https://t.co/3I5sZ5Pxb4 pic.twitter.com/2nZJLZpzDi— Frontier Myanmar (@FrontierMM) February 15, 2021
นอกจากนี้ ผู้ใดก็ตามที่ “เจตนาสร้างความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกในสังคม” ซึ่งรวมถึงการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมต่อเจ้าหน้าที่รัฐ อาจต้องรับโทษจำคุกนานสูงสุด 3 ปี หรือปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประกาศดังกล่าวของรัฐบาลทหารเป็นการให้รายละเอียดเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ของสื่อสังกัดกองทัพ ที่เผยแพร่แนวทางของบทลงโทษใหม่ออกมาก่อนหน้านี้ ท่ามกลางการประท้วงของประชาชนซึ่งยังคงเกิดขึ้นรายวัน นับตั้งแต่พล.อ.มิน อ่อง หล่าย นำกองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา.
——————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 16 ก.พ.64
Link : https://www.dailynews.co.th/foreign/825662