นายกฯ อังกฤษเผยนโยบายต่างประเทศและกองทัพ ยืนยันรัสเซียเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 เล็งเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์ และพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร เผยแพร่รายงานนโยบายต่างประเทศและกองทัพของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ในวันอังคารที่ 16 มี.ค. 2564 ระบุว่า รัสเซียเป็นความท้าทายทางความมั่นคงระดับสูงสุดของประเทศ และอังกฤษจะผลิตหัวรบนิวเคลียร์เพิ่ม รวมทั้งจะขยายบทบาทของประเทศในเรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงเกี่ยวกับอวกาศและระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว นายจอห์นสันบอกว่า รัฐบาลอังกฤษจะเพิ่มงบประมาณกลาโหมอีก 2.4 หมื่นล้านปอนด์ตลอดช่วง 4 ปีข้างหน้า และจะลงทุนเงินหลายหมื่นล้านปอนด์ในด้านอื่นๆ รวมถึง 1.5 หมื่นล้านปอนด์สำหรับการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสนาและเทคโนโลยี, 1.7 หมื่นล้านปอนด์สำหรับการต่อสู้กับภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และอีก 1.3 หมื่นล้านปอนด์เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19
รายงานดังกล่าวยังย้ำจุดยืนว่า การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและกลาโหมระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก และพวกเขาจะรับผิดชอบอย่างแรงกล้าต่อกลุ่มพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แต่ในขณะเดียวกันก็จะขยายบทบาทของอังกฤษไปทั่วโลก โดยโน้มเอียงไปทางภูมิภาค อินโด-แปซิฟิก ในช่วงทศวรรษหน้า
รายงานความยาว 116 หน้าฉบับนี้ ยังระบุถึงความท้าทายจากประเทศจีนด้วยว่า “อำนาจที่เพิ่มพูนและการกล้าแสดงออกต่อนานาชาติของจีน อาจเป็นปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีนัยสำคัญที่สุดในช่วงทศวรรษที่ 2020” และระบุด้วยว่า จีนเป็นภัยใหญ่หลวงที่สุดต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของ UK
ด้าน นายกฯ จอห์นสัน กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาหลังเผยแพร่รายงานนโยบายต่างประเทศฯ โดยเขาวิพากษ์วิจารณ์จีนที่จับกุมชาวอุยกูร์จำนวนมากในเขตปกครองตนเองซินเจียง และตำหนิในสิ่งที่จีนปฏิบัติต่อฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง แต่ก็ยอมรับว่า UK ต้องทำงานร่วมกับจีน เพื่อแก้ปัญหาระดับโลก
รายงานของนายจอห์นสันยังวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียอย่างหนัก ว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดในภูมิภาค และเรียกร้องให้กลุ่มนาโตร่วมมือเพื่อการป้องปรามนิวเคลียร์ และภัยคุกคามอื่นที่มีต่อความมั่นคงของพวกเขา โดยส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์เพื่อการป้องปรามดังกล่าว UK จะเพิ่มจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่พวกเขาครอบครองเป็น 260 ลูก ขยับขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ 180 ลูก
กองทัพเรืออังกฤษจะเตรียมเรือดำน้ำที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธพลังนิวเคลียร์ได้เอาไว้ 4 ลำ เพื่อให้แน่ใจว่า มีเรือดำน้ำอย่างน้อย 1 ลำพร้อมปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลา และกองเรือดำน้ำของอังกฤษจะได้เรือ ลำใหม่ เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 2030 เป็นเรือดำน้ำชั้น เดรดนอธ เพื่อมาแทนที่เรือดำน้ำชั้น แวนการ์ด ที่ใช้มาตั้งแต่ยุค 90
นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังมีแผนขยายปฏิบัติการนอกอวกาศ โดยกองทัพจะก่อตั้งกองบัญชาการอวกาศขึ้นมา เพื่อรับประกันว่า กองทัพมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะยกระดับผลประโยชน์ของประเทศทั้งบนโลกและในอวกาศได้ ภายในฤดูร้อนปีนี้ ขณะที่ UK จะพัฒนาเทคโนโลยีให้ประเทศมีความสามารถ ปล่อยดาวเทียมเพื่อการพาณิชย์ขึ้นสู่อวกาศจากสกอตแลนด์ได้
ในด้านของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รายงานระบุว่า ตอนนี้ UK เป็นมหาอำนาจทางไซเบอร์ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก ซึ่งพวกเขาจะพยายามใช้ประโยชน์จากขุมอำนาจนั้น ในหน่วยงานใหม่ที่ชื่อว่า กองกำลังไซเบอร์แห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ผสมผสานกันระหว่างการเป็นขุมกำลังทางทหารและหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้าย
——————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 17 มี.ค.2564
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2051591