ชาวนาเผาซังข้าว จุดระเบิดสนั่นค่ายทหารในอิเควทอเรียลกินี ดับอย่างน้อย 20 เจ็บ 600

Loading

  ชาวนาเผาซังข้าว จุดระเบิดสนั่นค่ายทหารในอิเควทอเรียลกินี ดับอย่างน้อย 20 เจ็บ 600 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 8 มีนาคมว่า เกิดเหตุระเบิดมากถึง 4 ครั้งที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในเมืองบาตา ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศอิเควทอเรียลกินี ในทวีปแอฟริกา ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 600 คน นอกจากนี้แรงระเบิดยังส่งผลให้บ้านเรือนโดยรอบเสียหายทั้งหมด     สถานีโทรทัศน์ทีวีจีอีของทางการ เผยให้เห็นภาพไฟกำลังไหม้อาคารหลายหลัง บ้านเรือนโดยรอบค่ายทหารพังทลายเป็นวงกว้างและมีควันสีดำพวยพุ่งขึ้นปกคลุมท้องฟ้า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถูกช่วยออกมาจากกองซากปรักหักพัง ในขณะที่โรงพยาบาลแน่นขนัดไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขทวีตเตือนว่า อาจมีประชาชนอีกมากที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง       ประธานาธิบดีเตโอโดโร โอเบียง อึงเกมา อึมบาโซโก ระบุว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดจากเกษตกรในพื้นที่เผาตอซังข้าว แต่ไฟลุกลามจนไปไหม้คลังแสงเก็บวัตถุระเบิด ซึ่งรวมถึงระเบิดไดนาไมต์ และกระสุนปืน ที่จัดเก็บไว้ในค่ายอย่างหละหลวม นอกจากนี้ประธานาธิบดีโอเบียง อึงเกมา ได้ร้องขอให้ประเทศอื่นเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้ประเทศกำลังประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ เนื่องจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศตกลง และยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19อีกด้วย ประเทศอิเควทอเรียลกินี ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา และเคยเป็นประเทศในอาณานิคมของสเปน   —————————————————————————————————————————————————–…

กลุ่มกบฏฮูตียิงโดรน-ขีปนาวุธโจมตีแหล่งอุตสาหกรรมน้ำมันซาอุฯ แต่ถูกสกัดได้ทัน

Loading

  กลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนได้ยิงโดรนและขีปนาวุธโจมตีแหล่งอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโค อย่างไรก็ดี กองทัพซาอุดีอาระเบียสามารถยิงสกัดการโจมตีดังกล่าวได้ทัน ซึ่งทำให้แหล่งผลิตน้ำมันไม่ได้รับความเสียหาย กระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น มีโดนรลำหนึ่งบินขึ้นจากทะเลและพุ่งเป้าโจมตีถังเก็บน้ำมันที่ท่าเรือรัสทานูราซึ่งหนึ่งในเมืองท่าน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก แต่กองทัพซาอุดีอาระเบียได้ยิงสกัดเอาไว้ได้ทันและทำลายโดรนลำดังกล่าวก่อนที่โดรนจะเคลื่อนตัวถึงเป้าหมาย จากนั้นไม่นาน พบขีปนาวุธที่พยายามเล็งมายังพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมน้ำมันของบริษัทอารามโคซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดาห์ราน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีพนักงานและครอบครัวของพนักงานพักอาศัยอยู่ แต่กองทัพซาอุดีอาระเบียได้ยิงสกัดไว้ทันเช่นกัน และพบชิ้นส่วนแหลมคมของขีปนาวุธตกใกล้กับพื้นที่ในนิคมของอารามโค     ด้านกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ว่า การโจมตีทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่จะพุ่งเป้าทำลายซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของอุปทานพลังงานโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ถึงสงครามเยเมนที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ระหว่างกลุ่มกบฎฮูตี และรัฐบาลเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย แม้สหรัฐพยายามเรียกร้องให้สองฝ่ายยุติการเป็นศัตรูกันก็ตาม   ————————————————————————————————————————————————— ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์     / วันที่เผยแพร่   8 มี.ค. 2564 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/69781

ชาวสวิตเซอร์แลนด์ลงประชามติสวมผ้าคลุมหน้าผิด กม. แต่ไม่พาดพิงมุสลิม

Loading

  ข้อเสนอของพวกขวาจัดที่ต้องการห้ามสวมผ้าปกคลุมใบหน้าในสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับชัยชนะอย่างฉิวเฉียดในศึกประชามติแบบมีพันธะผูกพันเมื่อวันอาทิตย์ (7 มี.ค.) โดยการทำประชามติครั้งนี้เกิดขึ้นตามแรงกระตุ้นของคนกลุ่มเดียวกันที่เคยเสนอโหวตห้ามก่อสร้างหอคอยสุเหร่ามาแล้วในปี 2009 จากผลประชามติอย่างเป็นทางการในเบื้องต้นพบว่า มาตรการแก้ไขรัฐธรรมนูญของสวิตเซอร์แลนด์ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนอย่างฉิวเฉียด 51.2% ต่อ 48.8% ข้อเสนอภายใต้ระบบประชาธิปไตยโดยตรงของสวิตเซอร์แลนด์ ยังมีเป้าหมายหยุดความรุนแรงบนท้องถนนจากฝีมือพวกผู้ประท้วงสวมหน้ากาก และไม่ได้พาดพิงของอิสลามโดยตรง แต่กระนั้นก็มีพวกนักการเมืองท้องถิ่น สื่อมวลชนและนักเคลื่อนไหวบางส่วน ให้สมญานามมันว่าเป็น “บูร์กาแบน” “ในสวิตเซอร์แลนด์ วัฒนธรรมของเราคือคุณต้องโชว์ใบหน้า มันเป็นสัญญาณของเสรีภาพขั้นพื้นฐาน” วอลเตอร์ ว็อบมันน์ ประธานคณะกรรมการประชามติและสมาชิกรัฐสภาจากพรรคสวิส พีเพิลส์ กล่าวก่อนการโหวต เขาบอกต่อว่า “การปกปิดใบหน้าเป็นสัญลักษณ์อิสลามการเมืองอันสุดโต่ง ที่เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆในยุโรป ซึ่งไม่ควรปรากฏอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์” กลุ่มมุสลิมต่างๆ ประณามประชามติครั้งนี้ และบอกว่าพวกเขาจะเดินหน้าคัดค้านถึงที่สุด “การตัดสินใจในวันนี้เป็นการเปิดแผลเก่า รังแต่ขยายหลักการความไม่เท่าเทียมทางกฎหมาย และส่งสารอย่างโจ่งแจ้งแห่งการกีดกันชนกลุ่มน้อยมุสลิม” สภากลางมุสลิมในสวิตเซอร์แลนด์ระบุ พวกเขาสัญญาว่าจะยื่นคัดค้านทางกฎหมายต่อกฎหมายทั้งหลายที่บังคับใช้มาตรการห้ามสวมผ้าปกคลุมใบหน้า และจะดำเนินการระดมทุนไว้คอยช่วยเหลือบรรดาผู้หญิงที่ถูกปรับเงินจากฐานความผิดดังกล่าว “การบรรจุกฎระเบียบด้านการแต่งกายไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่กัดกร่อนสิทธิความเท่าเทียมของผู้หญิง แต่มันยังเป็นการก้าวถอยหลังสู่อดีต” สหพันธ์องค์กรอิสลามในสวิตเซอร์แลนด์กล่าว พร้อมระบุว่าค่านิยมแห่งความเป็นกลาง อดทนอดกลั้นและผู้ประนีประนอมของสวิตเซอร์แลนด์กำลังถูกบั่นทอนจากประเด็นถกเถียงนี้ ฝรั่งเศสห้ามสวมผ้าคลุมทั้งใบหน้ายามอยู่ในที่สาธารณะมาตั้งแต่ปี 2011 ส่วนเดนมาร์ก ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์และบัลแกเรีย ก็ห้ามสวมผ้าคลุมทั้งใบหน้าหรือบางส่วนในที่สาธารณะแล้วเช่นกัน ขณะที่ในสวิตเซอร์แลนด์เอง มีอยู่ 2…

ระวังPhishing รูปแบบใหม่ผ่านจดหมาย Voucher ขโมยรหัสผ่าน e-banking

Loading

ระวัง Phishing รูปแบบใหม่ผ่านจดหมาย Voucher ส่งทางทางไปรษณีย์ แต่แปลก ขอรหัสธนาคารออนไลน์ ลงเว็บไซต์ url แปลก หากหลงกลอาจเสียเงินทั้งหมดในบัญชี จากที่ผ่านมา Phishing มาในรูปแบบลิงก์บนอีเมล แจ้งเตือนธุรกรรมผิดปกติ ให้เปลี่ยนรหัสผ่านตามลิงก์ที่กำหนดให้ หวังผู้ที่เป็นเหยื่อคลิกแล้วกรอกรหัสบนเว็บไซต์ธนาคารปลอม แต่รอบนี้มาในรูปแบบเอกสารสำคัญส่งทางไปรษณีย์ถึงบ้าน เป็นจดหมาย EMS และออกแบบเอกสารได้เหมือนเรื่องจริงเลยทีเดียว     ระวัง Phishing รูปแบบใหม่ผ่านจดหมาย ของจริง ทำซะน่าเชื่อถือ แต่ความจริงคือหลอก     โดยข้างในซองจดหมาย EMS เป็นใบ gift voucher มูลค่า 10,000 บาท พร้อมกับข้อมูลขั้นตอนการใช้ Gift Voucher คงน่าตื่นเต้นไม่น้อยที่เราจะได้ซื้อของแล้วได้ส่วนลด 1 หมื่นบาท แต่ทว่า มีข้อสังเกตคือ ทำไมต้องใส่ password แถมใน gift card ข้อ 2 บอกว่าต้องใส่…

องค์กรสหรัฐ 3 หมื่นแห่งถูกแฮกเกอร์จีนเจาะข้อมูล

Loading

องค์กรสหรัฐ 3 หมื่นแห่งถูกแฮกเกอร์จีนเจาะข้อมูล ผ่านซอฟท์แวร์ไมโครซอฟท์ KrebsOnSecurity.com รายงานในวันศุกร์ (5 มี.ค.) ว่า องค์กรของสหรัฐอย่างน้อย 30,000 แห่งได้ถูกจารกรรมข้อมูลผ่านจุดบกพร่องต่างๆ (bug) ในซอฟท์แวร์อีเมลของไมโครซอฟท์ นอกจากนี้ องค์กรอีกหลายหมื่นแห่งในเอเชียและยุโรปก็ได้รับผลกระทบจากการถูกแฮกข้อมูลผ่านช่องทางดังกล่าวด้วยเช่นกัน องค์กรต่างๆ ทั่วสหรัฐอย่างน้อย 30,000 แห่งซึ่งรวมถึงหน่วยงานรัฐบาลและบริษัทด้านการค้าได้ถูกแฮกข้อมูลโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่ในประเทศจีนซึ่งใช้ซอฟท์แวร์ Exchange Server ของไมโครซอฟท์เพื่อเจาะเข้าสู่เครือข่ายขององค์กรเหล่านั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เปิดเผยกับ KrebsOnSecurity ว่า กลุ่มแฮกเกอร์ชาวจีนได้เข้าควบคุม Exchange Servers ของไมโครซอฟท์จำนวนหลายแสนเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ด้านไมโครซอฟท์ระบุว่า ทางบริษัทได้ทำการอัปเกรดระบบความปลอดภัยแล้ว เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับซอฟต์แวร์ Exchange Server ของบริษัทซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับให้บริการด้านอีเมลและปฏิทิน โดยซอฟร์แวร์ดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเซิร์ฟเวอร์อีเมลเป็นของตนเอง อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบัญชีอีเมลส่วนบุคคล หรือบริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์เหล่านี้ซึ่งมีชื่อว่า “Hafnium” สามารถใช้ bug เพื่อหลอกให้ Exchange Server อนุญาตให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูล และสร้างวิธีการควบคุมเซิร์ฟเวอร์จากทางไกล เพื่อที่จะจารกรรมข้อมูลจากเครือข่ายขององค์กร ไมโครซอฟท์เชื่อว่า กลุ่มแฮกเกอร์เหล่านี้มีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศจีน และดำเนินงานจากเซิร์ฟเวอร์เอกชนที่เช่าไว้ในสหรัฐเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับ…