สายลับก็มา! “ซีไอเอ” เปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานหน่วยข่าวกรอง

Loading

  สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA หวังกระตุ้นคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรที่ทันสมัยและเข้าถึงหมู่คนหนุ่มสาวและคนหลากหลายเชื้อชาติมากกว่าที่เป็นอยู่ โปสเตอร์ภาพหญิงสาวสวย ผมดำขลับ หน้าตาคม ที่มุมหนึ่งเหมือนกับมีเชื้อสายฮิสแปนิก แต่อีกมุมเหมือนชาวตะวันออกกลาง พร้อมกับข้อความเชิญชวนให้เข้าร่วมงานกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA เป็นหนึ่งในแคมเปญที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายในการจ้างคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาร่วมทีมมากขึ้น ในเว็บไซต์ของ CIA ระบุว่า เราจะมอบสิ่งแวดล้อมสำหรับคนทำงานที่ชาญฉลาด มุ่งเน้นที่บุคลากรที่มีภูมิหลัง ความสนใจ ประสบการณ์ และมุมมองที่หลากหลาย พนักงานของเราจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศอย่างทั่วถึง การปรับโครงสร้างขององค์กรข่าวกรองระดับชาติ ที่มีชื่อเล่นเรียกว่า แลงก์ลีย์ (Langley) ตามสถานที่ของสำนักงานใหญ่ในรัฐเวอร์จิเนียครั้งนี้ มุ่งเป้าไปกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2018 ในยุคของจีนา ฮาสเพล (Gina Haspel) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ เพื่อจ้างชาวอเมริกันรุ่นใหม่ที่ดีที่สุดและเก่งที่สุด โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเพศสภาพ เชื้อชาติ หรือพื้นเพด้านวัฒนธรรมใดๆ ภาพลักษณ์ใหม่บนโลกออนไลน์ของ CIA เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อ 4 มกราคมที่ผ่านมา ตั้งแต่การเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ที่ทันสมัยเป็นปัจจุบัน ที่สร้างความแตกต่างจากเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั่วไป เมื่อเทียบกับหน่วยงานที่ใกล้เคียงกันอย่างสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ที่เป็นภาพถ่ายบุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุดในสหรัฐฯ นอกจากการดึงดูดคนรุ่นใหม่มาร่วมงานผ่านการประกาศรับสมัครแล้ว…

ไบเดนประณาม “อาชญากรรมจากอคติ” ต่อคนเชื้อสายเอเชีย

Loading

    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า “การก่ออาชญากรรม” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา “ไม่ใช่นิสัยพื้นฐานของความเป็นอเมริกัน” และ “ต้องยุติ” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสหรัฐมีอัตราการเกิด “อาชญากรรมจากอคติ” หรือ “อาชญากรรมจากความเกลียดชัง” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งในรูปแบบของการประทุษร้ายโดยตรงต่อร่างกาย การใช้วาจาเหยียดหยามดูหมิ่น และการโยนความผิดให้อีกฝ่าย “เป็นแพะรับบาป” ผู้นำสหรัฐกล่าวต่อไปว่า อเมริกาเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 มานาน 1 ปีแล้ว ทุกฝ่ายร่วมกันต่อสู้ด้วยความอดทน โดยเฉพาะบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า ที่จำนวนไม่น้อยมีเชื้อสายเอเชีย แต่ทุกคนพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อช่วยเหลือชาวอเมริกันทั้งประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้ โดยไม่หวั่นเกรงว่า ตัวเองคือกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ   Biden calls out the rise in hate crimes against Asian Americans during…

จีนผ่านกฎหมายแก้ระบบเลือกตั้งฮ่องกงคัดกรองผู้แทน’รักชาติ’

Loading

  สภาผู้แทนประชาชนจีนลงมติท่วมท้น 2,895 เสียง ต่อ 0 เสียง รับรองร่างกฎหมายเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งของฮ่องกง ลดสัดส่วนผู้แทนจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและเสนอกลไกที่จะคัดกรองผู้แทนจากความรักชาติและความภักดีต่อปักกิ่ง        กฎหมายที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนประชาชนจีน (เอ็นพีซี) ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของจีนเพื่อรวบรวมอำนาจปกครองเหนือฮ่องกงให้กระชับมั่นยิ่งขึ้น ตามหลังกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ออกมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายน ที่นักวิจารณ์กล่าวกันว่าเป็นเครื่องมือใช้บดขยี้ผู้เห็นต่างจากรัฐ ตอบโต้การชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในฮ่องกงเมื่อปี 2562        ร่างกฎหมายนี้ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภา 2,895 คน โดยไม่มีผู้คัดค้าน แต่มี 1 คนงดออกเสียง        แคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง กล่าวในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลฮ่องกงและตัวเธอสนับสนุนอย่างแข็งขันและขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้ฮ่องกง “กลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง”        การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เท่ากับกำจัดความเป็นไปได้ที่ฝ่ายค้านจะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งในเขตปกครองพิเศษของจีนแห่งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวกันด้วยว่า การกำหนดคุณสมบัติเรื่อง “ความรักชาติ” ยังเพิ่มความเสี่ยงที่นักการเมืองจะแข่งขันกันว่าใครจงรักภักดีต่อรัฐบาลปักกิ่ง มากกว่าการเสนอความคิดว่าควรบริหารฮ่องกงอย่างไรดี        เอริก จ้าง รัฐมนตรีด้านกิจการแผ่นดินใหญ่และรัฐธรรมนูญของฮ่องกง…

ตีกรอบ 9 ข้อมูลทางออนไลน์ “ต้องห้ามโพสต์” ของตำรวจ

Loading

  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน 9 ข้อมูลและข้อความต้องห้าม “โพสต์” บนโซเชียลของตำรวจ ที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างไม่ตั้งใจ ระบุยังไม่เคยมีใครถูกลงโทษ แต่ปรามต้องคิดก่อนโพสต์ วันนี้ (11 มี.ค.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอตสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรถนะ หัวหน้าจเรตำรวจ ร่วมกันแถลงเปิดตัว “โครงการจัดทำแนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของข้าราชการสำรวจ” เพื่อคู่มือแนะนำข้าราชการตำรวจทุกระดับให้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่เกิดประโยชน์และถูกต้อง หลังพบว่ามีข้าราชการตำรวจใช้สื่อสังคมออนไลน์ไม่เหมาะสม เช่น ล้อเลียน กลั่นแกล้ง แสดงกิริยาขบขันจนเกินขอบเขต ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือจากสังคม รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์ละเมิตบุคคลอื่น หรือกระทำผิดกฎหมายจนเกิดความเสียหายขึ้น สำหรับประเภทข้อมูลข่าวสารที่ไม่ควรเผยแพร่ ในรูปแบบข้อความ รูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว มี 9 ข้อ ดังนี้ ข้อมูลที่มีเนื้อหาพาดพิง หรือ ส่งในทางลบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ข้อมูลที่มีลักษณะยั่วยุ เสียดสี บิดเบือนโฆษณา ชวนเชื่อ สร้างความแตกแยกต่อหน่วยงาน…

เปิดรับร้องเรียนตำรวจทางออนไลน์ “ปิดความลับ”คนแจ้ง

Loading

  มิติใหม่! สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดระบบ JCoMS รับร้องเรียนจเรตำรวจทางออนไลน์ แจ้งเบาะแสโดยตรงทางแอปพลิเคชัน ช่วยลดเวลาไม่น้อยกว่า 3 วัน ส่งตรงผู้รับผิดชอบ แถมปิดตัวตนผู้ร้อง หลังปีก่อนสถิติสูง 3,267 เรื่อง ตรวจแล้วเสร็จ 1,364 เรื่อง วันนี้ (11 มี.ค.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอตสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรถนะ หัวหน้าจเรตำรวจ ร่วมกันแถลงเปิดตัวโครงการระบบบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนของจเรตำรวจทางออนไลน์ หรือโครงการ JCoMS ซึ่งเป็นโครงการที่ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้จเรตำรวจแห่งชาติ คิดค้นและพัฒนาระบบบริหารการร้องเรียนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเข้าถึง และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม พบว่าปี 2563 จเรตำรวจรับเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 3,267 เรื่องดำเนินการเสร็จ 1,364 เรื่องยังอยู่ระหว่างดำเนินการ 1,903 เรื่อง เนื่องมาจากระบบการรับเรื่องทางเอกสารที่มีขั้นตอนมากล่าช้า ไม่ทันต่อความเดือดร้อนของประชาชน     ช่วยลดเวลาส่งตรงผู้รับผิดชอบทันที สำหรับเรื่องที่ร้องส่วนใหญ่ 5 อันดับสูงสุด…