‘ไบเดน’ เรียกร้องผลักดันมาตรการควบคุมปืน หลังเหตุยิงกราดโคโลราโด

Loading

    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องคองเกรส ผลักดันมาตรการควบคุมปืน หลังเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ต ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด คร่าชีวิต 10 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้านตำรวจเมืองโบลเดอร์ตั้งข้อหาฆาตกรรมกับมือยิงกราด 10 กระทง ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารก่อนเดินทางไปรัฐโอไฮโอ แสดงความเสียใจต่อเหตุยิงกราดในซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด และให้ลดธงครึ่งเสาที่ทำเนียบขาวและอาคารสถานที่ราชการ เพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงกราดครั้งล่าสุดนี้     ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ผลักดันการปฏิรูปกฏหมายครอบครองปืน และห้ามซื้อขายปืนกลกึ่งอัตโนมัติทั่วประเทศ โดยระบุว่า ตนไม่ต้องการจะรอไปอีกแม้เพียงนาทีหรืออีกชั่วโมง เพื่อทำสิ่งที่ควรทำในการรักษาชีวิตของผู้คนเอาไว้ และเรียกร้องให้สมาชิกสภาสหรัฐฯ ให้ความสำคัญและเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้วุฒิสภา ลงมติในมาตรการที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยการอุดช่องโหว่ทางกฏหมาย เรื่องการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะซื้อปืนในสหรัฐฯ ระหว่างที่ในวันอังคาร คณะกรรมาธิการตุลาการของวุฒิสภาสหรัฐฯ จะรับฟังและหารือถึงหนทางในการลดความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ หลังเหตุยิงกราด 2 ครั้งในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา   Less than a week after the horrific…

สนามบินดูไบเริ่มใช้วิธี ‘ตรวจม่านตา’ แทนหนังสือเดินทาง

Loading

    ที่สนามบินดูไบ ผู้โดยสารสามารถใช้ม่านตาเพื่อยืนยันตัวตนโดยไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารใดๆ ระบบดังกล่าวเปิดตัวขึ้นในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังคงต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด -19 ซึ่งรัฐบาลยกให้โครงการนี้เป็นเครื่องมือในการช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เพราะวิธีดังกล่าวช่วยให้ผู้โดยสารไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ระบบสแกนม่านตานี้ใช้ biometric หรือชีวมิติ ซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลทางชีวภาพที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลเพื่อระบุตัวตน ทั้งนี้ระบบจดจำใบหน้าก็เป็นการใช้ไบโอเมตริกรูปแบบหนึ่ง ระบบดังกล่าวใช้วิธีการคล้ายกับที่ใช้ในเทคโนโลยีการพิมพ์ลายนิ้วมือ สนามบินดูไบใช้อุปกรณ์ในการสแกนม่านตาซึ่งเป็นส่วนที่มีสีของดวงตา โดยการให้ผู้โดยสารมองตรงเข้าไปในกล้องเพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลทางชีวภาพได้ การใช้ระบบสแกนม่านตานั้นแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ไบโอเมตริกของม่านตาถือว่าเป็นระบบที่เชื่อถือได้มากกว่าระบบที่สแกนใบหน้าของผู้คนจากระยะไกล ในสนามบินดูไบซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลกสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ผู้โดยสารจะเดินเข้าเครื่องสแกนม่านตาหลังจากเช็คอินแล้ว หลังจากที่มองเข้าไปในกล้องพวกเขาก็จะสามารถผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทางได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยที่ไม่ต้องพกบัตรเดินทางกระดาษหรือใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ เจ้าหน้าที่ในดูไบกล่าวว่าการสแกนดังกล่าวนี้จะเชื่อมต่อข้อมูลม่านตาของบุคคลกับฐานข้อมูลการจดจำใบหน้าของ UAE ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องใช้เอกสารในการเดินทาง ระบบนี้เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทสายการบิน Emirates และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของดูไบ เจ้าหน้าที่กล่าวอีกว่าระบบจะช่วยให้ผู้โดยสารผ่านกระบวนการอัตโนมัติตั้งแต่การเช็คอินไปจนถึงการขึ้นเครื่องบินได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย พลตรี Obaid Mehayer Bin Suroor รองอธิบดีกองอำนวยการทั่วไปด้านถิ่นที่อยู่และกิจการต่างประเทศของดูไบบอกกับ The Associated Press ว่าการสแกนม่านตานี้เป็นระบบอัจฉริยะที่ใช้เวลาเพียงห้าถึงหกวินาที อย่างไรก็ตาม ผู้คนยังหวั่นเกรงว่าเทคโนโลยีนี้จะทำให้สูญเสียความเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกันกับระบบจดจำใบหน้า ทั้งนี้ UAE ได้เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการสอดส่องนักข่าวและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ในคำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบไบโอเมตริก Emirates ระบุไว้ว่าทางสายการบินเชื่อมโยงใบหน้าของผู้โดยสารกับข้อมูลระบุตัวบุคคลอื่นๆ รวมถึงหนังสือเดินทางและข้อมูลเที่ยวบิน นอกจากนี้ยังเสริมว่าข้อมูลดังกล่าวสามารถเก็บไว้ได้ตราบเท่าที่มีความจำเป็นตามสมควรสำหรับวัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ในเว็บไซต์ของ Emirates ยังระบุด้วยว่าข้อมูลไบโอเมตริกที่รวบรวมทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ในสารบบ…

จีนคุม ‘แอปฯ มือถือ’ ห้ามเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้เกินจำเป็น เริ่มพ.ค. นี้

Loading

  จีนคุม ‘แอปฯ มือถือ’ ห้ามเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้เกินจำเป็น เริ่มพ.ค. นี้ สำนักกำกับดูแลไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีน (CAC) รายงานว่าทางการจีนออกแนวปฏิบัติห้ามผู้ให้บริการแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็นอย่างผิดกฎหมาย แนวปฏิบัติดังกล่าวระบุว่าแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือไม่สามารถปฏิเสธการเข้าถึงบริการของผู้ใช้ได้ หากผู้ใช้ปฏิเสธจะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็น ขอบเขตข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ 39 ประเภท เช่น แอปพลิเคชันนำทางอาจเข้าถึงตำแหน่งที่อยู่ ต้นทางและปลายทางของผู้ใช้ หรือแอปพลิเคชันส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ บัญชีการส่งข้อความ และบัญชีของผู้ติดต่อ ทั้งนี้ สำนักฯ เผยว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวมีเป้าหมายควบคุมการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ เพื่อรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป ข้อมูลจาก สำนักข่าวซินหัว ——————————————————————————————————————————————- ที่มา : thebangkokinsight           / วันที่เผยแพร่ 23 มี.ค.2564 Link : https://www.thebangkokinsight.com/579175/

Acer ถูกแรนซัมแวร์โจมตีพร้อมเรียกค่าไถ่ถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Loading

Acer บริษัทยักษ์ใหญ่ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม โน๊คบุ๊ค แล็ปท็อป และจอมอนิเตอร์ ได้ถูกแรนซัมแวร์เข้าเล่นงาน แถมยังโดนเรียกค่าไถ่สูงมากถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามรายงานข่าวพบว่าคนร้ายได้เผยแพร่หลักฐานของการเข้าถึงระบบผ่านเว็บไซต์ ซึ่งมีภาพของข้อมูลส่วนที่เป็น เอกสารการเงิน และข้อมูลเกี่ยวกับธนาคาร โดยข้อมูลเบื้องต้นจากหลายแห่งคาดว่าจะเป็นแรนซัมแวร์สายพันธุ์ REvil (บริษัทยังไม่ได้แถลงเหตุการณ์อย่างเป็นทางการแต่บอกว่ากำลังสืบสวนอยู่) อย่างไรก็ดีจากข้อมูลแชทที่ปรากฏคาดว่า Acer น่าจะถูกโจมตีวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ช็อเพราะราคาค่าไถ่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากนั้นคนร้ายเสนอที่จะลดราคาให้ 20% หากจ่ายในเวลาที่กำหนด และสัญญาจะให้ตัวแก้ รายงานช่องโหว่ และไฟล์ที่ถูกขโมยไป พอมาถึงจุดนึงคนร้ายก็ขู่ว่าอย่าให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับ SolarWinds เลย (ไม่รู้ว่ามีนัยยะแฝงอะไรหรือเปล่า)     การเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ถือว่าทำลายสถิติของแรนซัมแวร์สายพันธุ์ REvil จากการเรียกค่าไถ่ Dairy Farm ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้มีแหล่งข่าวชี้ว่าการโจมตีครั้งนี้อาจสำเร็จได้เพราะช่องโหว่ Microsoft Exchange ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ ซึ่ง TechTalkthai เองก็ได้นำเสนอข่าวเตือนผู้ใช้ไปหลายครั้งแล้วนะครับ (https://www.techtalkthai.com/microsoft-patches-4-zero-days-for-exchange-server/) ที่มา : https://www.bleepingcomputer.com/news/security/computer-giant-acer-hit-by-50-million-ransomware-attack/…

ผู้เชี่ยวชาญเตือนระวังช่องโหว่บน F5 กำลังถูกใช้โจมตีจริงแล้ว

Loading

        เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเราได้เตือนการออกแพตช์ของช่องโหว่บน F5 ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง วันนี้มีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง NCC Group และ Bad Packets แล้วว่าพบการสแกนหาช่องโหว่และมีกรณีที่ประสบความสำเร็จบ้างแล้ว ช่องโหว่ครั้งนั้นประกอบด้วย 4 รายการ (https://www.techtalkthai.com/f5-patches-4-critical-vulnerabilities-in-big-ip-iq-mar-2021/) โดยส่งผลกระทบกับทั้ง BIG-IP และ BIG-IQ ซึ่งทาง F5 เองได้เตือนให้ผู้ใช้งานอัปเดตทันที ต่อมาก็มีการเผยโค้ดสาธิตช่องโหว่จากนักวิจัย และต่อมาก็พัฒนาเป็นการพบการโจมตีบน Honeypot ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญพบการใช้ช่องโหว่ CVE-2021-22986 ที่ช่วยให้คนร้ายที่ยังไม่พิสูจน์ตัวตนสามารถเข้ามาลอบรันคำสั่งได้ หากทำได้สำเร็จจะสามารถแทรกแซงระบบได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนคืบคลานเข้าสู่ระบบเครือข่ายและลอบดักจับทราฟฟิคที่วิ่งผ่าน ในปีก่อนเคยมีช่องโหว่ร้ายแรงลักษณะนี้ใน F5 ที่ตกเป็นเป้าของกลุ่มคนร้ายมากมาย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องออกโรงเตือนอยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุนี้เองเราจึงขอเตือนผู้เกี่ยวข้องให้เร่งอัปเดตอีกครั้งด้วยความหวังดีครับ ที่มา : https://www.bleepingcomputer.com/news/security/critical-f5-big-ip-vulnerability-now-targeted-in-ongoing-attacks/   ————————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :  TechTalkThai    / วันที่เผยแพร่  22 มี.ค.2564 Link : https://www.techtalkthai.com/experts-warn-about-f5-cve-2021-22986-exploit-attempt/

ผู้ใช้ chrome เปลี่ยนไปใช้ duckduckgo หลัง Chrome เก็บข้อมูลส่วนตัวเพียบ

Loading

ผู้ใช้ Chrome เปลี่ยนไปใช้ duckduckgo แล้ว หลังทราบข้อมูลจากทาง App Store บน iOS14 ที่ออกแบบมาใหม่และเริ่มใช้ในช่วงมิถุนายนปี 2020 โดยแต่ละแอปบน App Store ต้องแสดงข้อมูลความเป็นส่วนตัวแบบละเอียด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ iOS ได้รับความโปร่งใสและเข้าใจมากขึ้นว่าแอพอาจเก็บรวบรวมข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับเรา ผู้ใช้ chrome เปลี่ยนไปใช้ duckduckgo หลังผวา Chrome แอบสอดแนมเก็บข้อมูลเพียบ   หากเปิดข้อมูลแอป chrome บน App Store ปรากฎว่าเว็บเบราว์เซอร์ chrome ได้แอบเก็บข้อมูลไว้เยอะมากเมื่อเทียบกับเว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ ตามดังภาพ นอกจากนี้หากลองดูส่วนอื่นของแอป Google นั้นก็มีการเข้าถึงและเก็บข้อมูลผู้ใช้หลายอย่างเช่นกัน เชื่อว่าผู้ใช้ที่ไม่อยากให้ Google แอบเก็บข้อมูลส่วนตัวนั้นไว้คงมีความกังวลไม่น้อย     ขณะที่ฝั่ง duckduckgo browser ซึ่งได้จัดทำเว็บเบราว์เซอร์นั้นกลับไม่มีส่วนไหนที่จะเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้เลย     ดังนั้นหากต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ Google แอบสอดแนมตามเราละก็ลองใช้เว็บเบราว์เซอร์และเครื่องมือค้นหาจาก duckduckgo…