สหรัฐแบน 5 บริษัทเทคโนโลยีจีน “เป็นภัยความมั่นคง”

Loading

  รัฐบาลวอชิงตันขึ้นบัญชีดำบริษัทด้านเทคโนโลยี 5 แห่งของจีน หนึ่งในนั้นคือหัวเว่ย “ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่าคณะกรรมาธิการการสื่อสารกลางของสหรัฐ ( เอฟซีซี ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ เรื่องการขึ้นบัญชีดำบริษัทด้านเทคโนโลยี 5 แห่งของจีน “ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” เป็นการอาศัยอำนาจตามความในคำสั่งฝ่ายบริหาร ลงนามเมื่อเดือน พ.ค. 2562 ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉินด้านเทคโนโลยี” เพื่อพิทักษ์ระบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศของสหรัฐจาก “การรุกรานโดยศัตรู”   The list includes five Chinese companies that produce telecommunications equipment and services that have been found to pose an unacceptable risk to U.S.…

พบระเบิดซุกรถที่รามันหนักกว่า 50 กก. เชื่อกลุ่มในพื้นที่อยากแสดงศักยภาพ

Loading

  คืบหน้าปล้นรถส่งของ แล้วเอาไปซุกระเบิดกว่า 50 กก.ตั้งเวลาทำเป็นคาร์บอมบ์ หวังบึม สภ.รามัน ด้าน รอง ผบช.ภ.9 ชี้ เป็นคนร้ายกลุ่มเดิมในพื้นที่ ที่ต้องการแสดงศักยภาพ ในช่วงครบรอบสถาปนา BRN จากกรณีที่คนร้ายจำนวน 5 คน ปล้นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บฉ 3897 ยะลา ของบริษัทบริษัทขนส่งชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วนำไปประกอบระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊สปิกนิก จำนวน 2 ลูก และบรรจุระเบิดไว้ในกระป๋องสเปรย์ จำนวน 1 ลูก นำไปจอดทิ้งไว้ ด้านหลัง สถานีตำรวจภูธรรามัน ถนนจรูญวิถี ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรยะลา จะสามารถเข้าเก็บกู้ได้ทันอย่างปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มี.ค.64 มีรายงานจากชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี)…

สายลับก็มา! “ซีไอเอ” เปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานหน่วยข่าวกรอง

Loading

  สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA หวังกระตุ้นคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรที่ทันสมัยและเข้าถึงหมู่คนหนุ่มสาวและคนหลากหลายเชื้อชาติมากกว่าที่เป็นอยู่ โปสเตอร์ภาพหญิงสาวสวย ผมดำขลับ หน้าตาคม ที่มุมหนึ่งเหมือนกับมีเชื้อสายฮิสแปนิก แต่อีกมุมเหมือนชาวตะวันออกกลาง พร้อมกับข้อความเชิญชวนให้เข้าร่วมงานกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA เป็นหนึ่งในแคมเปญที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายในการจ้างคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาร่วมทีมมากขึ้น ในเว็บไซต์ของ CIA ระบุว่า เราจะมอบสิ่งแวดล้อมสำหรับคนทำงานที่ชาญฉลาด มุ่งเน้นที่บุคลากรที่มีภูมิหลัง ความสนใจ ประสบการณ์ และมุมมองที่หลากหลาย พนักงานของเราจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศอย่างทั่วถึง การปรับโครงสร้างขององค์กรข่าวกรองระดับชาติ ที่มีชื่อเล่นเรียกว่า แลงก์ลีย์ (Langley) ตามสถานที่ของสำนักงานใหญ่ในรัฐเวอร์จิเนียครั้งนี้ มุ่งเป้าไปกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2018 ในยุคของจีนา ฮาสเพล (Gina Haspel) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ เพื่อจ้างชาวอเมริกันรุ่นใหม่ที่ดีที่สุดและเก่งที่สุด โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเพศสภาพ เชื้อชาติ หรือพื้นเพด้านวัฒนธรรมใดๆ ภาพลักษณ์ใหม่บนโลกออนไลน์ของ CIA เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อ 4 มกราคมที่ผ่านมา ตั้งแต่การเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ที่ทันสมัยเป็นปัจจุบัน ที่สร้างความแตกต่างจากเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั่วไป เมื่อเทียบกับหน่วยงานที่ใกล้เคียงกันอย่างสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ที่เป็นภาพถ่ายบุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุดในสหรัฐฯ นอกจากการดึงดูดคนรุ่นใหม่มาร่วมงานผ่านการประกาศรับสมัครแล้ว…

ไบเดนประณาม “อาชญากรรมจากอคติ” ต่อคนเชื้อสายเอเชีย

Loading

    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า “การก่ออาชญากรรม” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา “ไม่ใช่นิสัยพื้นฐานของความเป็นอเมริกัน” และ “ต้องยุติ” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสหรัฐมีอัตราการเกิด “อาชญากรรมจากอคติ” หรือ “อาชญากรรมจากความเกลียดชัง” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งในรูปแบบของการประทุษร้ายโดยตรงต่อร่างกาย การใช้วาจาเหยียดหยามดูหมิ่น และการโยนความผิดให้อีกฝ่าย “เป็นแพะรับบาป” ผู้นำสหรัฐกล่าวต่อไปว่า อเมริกาเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 มานาน 1 ปีแล้ว ทุกฝ่ายร่วมกันต่อสู้ด้วยความอดทน โดยเฉพาะบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า ที่จำนวนไม่น้อยมีเชื้อสายเอเชีย แต่ทุกคนพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อช่วยเหลือชาวอเมริกันทั้งประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้ โดยไม่หวั่นเกรงว่า ตัวเองคือกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ   Biden calls out the rise in hate crimes against Asian Americans during…

จีนผ่านกฎหมายแก้ระบบเลือกตั้งฮ่องกงคัดกรองผู้แทน’รักชาติ’

Loading

  สภาผู้แทนประชาชนจีนลงมติท่วมท้น 2,895 เสียง ต่อ 0 เสียง รับรองร่างกฎหมายเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งของฮ่องกง ลดสัดส่วนผู้แทนจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและเสนอกลไกที่จะคัดกรองผู้แทนจากความรักชาติและความภักดีต่อปักกิ่ง        กฎหมายที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนประชาชนจีน (เอ็นพีซี) ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของจีนเพื่อรวบรวมอำนาจปกครองเหนือฮ่องกงให้กระชับมั่นยิ่งขึ้น ตามหลังกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ออกมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายน ที่นักวิจารณ์กล่าวกันว่าเป็นเครื่องมือใช้บดขยี้ผู้เห็นต่างจากรัฐ ตอบโต้การชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในฮ่องกงเมื่อปี 2562        ร่างกฎหมายนี้ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภา 2,895 คน โดยไม่มีผู้คัดค้าน แต่มี 1 คนงดออกเสียง        แคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง กล่าวในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลฮ่องกงและตัวเธอสนับสนุนอย่างแข็งขันและขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้ฮ่องกง “กลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง”        การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เท่ากับกำจัดความเป็นไปได้ที่ฝ่ายค้านจะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งในเขตปกครองพิเศษของจีนแห่งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวกันด้วยว่า การกำหนดคุณสมบัติเรื่อง “ความรักชาติ” ยังเพิ่มความเสี่ยงที่นักการเมืองจะแข่งขันกันว่าใครจงรักภักดีต่อรัฐบาลปักกิ่ง มากกว่าการเสนอความคิดว่าควรบริหารฮ่องกงอย่างไรดี        เอริก จ้าง รัฐมนตรีด้านกิจการแผ่นดินใหญ่และรัฐธรรมนูญของฮ่องกง…

ตีกรอบ 9 ข้อมูลทางออนไลน์ “ต้องห้ามโพสต์” ของตำรวจ

Loading

  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน 9 ข้อมูลและข้อความต้องห้าม “โพสต์” บนโซเชียลของตำรวจ ที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างไม่ตั้งใจ ระบุยังไม่เคยมีใครถูกลงโทษ แต่ปรามต้องคิดก่อนโพสต์ วันนี้ (11 มี.ค.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอตสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรถนะ หัวหน้าจเรตำรวจ ร่วมกันแถลงเปิดตัว “โครงการจัดทำแนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของข้าราชการสำรวจ” เพื่อคู่มือแนะนำข้าราชการตำรวจทุกระดับให้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่เกิดประโยชน์และถูกต้อง หลังพบว่ามีข้าราชการตำรวจใช้สื่อสังคมออนไลน์ไม่เหมาะสม เช่น ล้อเลียน กลั่นแกล้ง แสดงกิริยาขบขันจนเกินขอบเขต ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือจากสังคม รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์ละเมิตบุคคลอื่น หรือกระทำผิดกฎหมายจนเกิดความเสียหายขึ้น สำหรับประเภทข้อมูลข่าวสารที่ไม่ควรเผยแพร่ ในรูปแบบข้อความ รูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว มี 9 ข้อ ดังนี้ ข้อมูลที่มีเนื้อหาพาดพิง หรือ ส่งในทางลบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ข้อมูลที่มีลักษณะยั่วยุ เสียดสี บิดเบือนโฆษณา ชวนเชื่อ สร้างความแตกแยกต่อหน่วยงาน…