รวบหนุ่มเท็กซัสวางแผนทำลายล้างระบบอินเทอร์เน็ตสหรัฐ

Loading

      หนุ่มหัวรุนแรงชาวเท็กซัสซื้อระเบิดเตรียมโจมตีศูนย์ข้อมูลของ Amazon Web Services สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เข้าจับกุมนายเซธ แอรอน เพนดลีย์ (Seth Aaron Pendley) วัย 28 ปี จากเมืองวิชิตาฟอลส์ ในรัฐเท็กซัส พร้อมตั้งข้อหาพยายามทำลายอาคารจากการวางแผนระเบิดศูนย์ข้อมูลของ Amazon Web Services (AWS) ในรัฐเวอร์จิเนีย โดยเพนดลีย์ได้เปิดเผยต่อสายของเจ้าหน้าที่ถึงแผนการใช้วัตถุระเบิดพลาสติก C-4 ในการโจมตีศูนย์ข้อมูลของ Amazon เพื่อทำลายระบบอินเทอร์เน็ตกว่า 70% ตลอดจนการปกครองแบบคณาธิปไตยในสหรัฐ เนื่องจากตนเชื่อว่าศูนย์ข้อมูลดังกล่าวให้บริการแก่ FBI, CIA และหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ ซึ่งหากการโจมตีครั้งนี้สำเร็จจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีอีกหลายแห่ง รวมถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศจะขัดข้อง และการจับกุมครั้งนี้นับเป็นการช่วยชีวิตคนงานด้านเทคโนโลยีในสหรัฐจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้เพนดลีย์กล่าวบนเว็บไซต์ MyMilitia.com ซึ่งระบุว่าเครือข่ายสำหรับผู้รักชาติชาวอเมริกันที่เป็นการรวมกลุ่มกันของกลุ่มคนหัวรุนแรงและสนับสนุนการก่อการร้าย โดยเพนดลีย์ใช้นามแฝงว่า “Dionysus” พร้อมระบุว่าตนกำลังวางแผนที่จะ “ทำการทดลองเล็กๆ น้อยๆ ที่จะดึงความร้อนออกมามาก และเป็นอันตราย” เมื่อถูกถามว่าผลลัพธ์ที่ต้องการของการทดลองคืออะไรเขาตอบว่า “เสียชีวิต” นอกจากนี้เพนดลีย์ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสมาชิกหัวรุนแรงในสหรัฐที่ทำการบุกรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมาอีกด้วย…

เผยผลสำรวจผู้บริหารระดับสูงถึง 58% พบปัญหาความล้มเหลวในการสำรองข้อมูล สะท้อนถึงความท้าทายในการป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กร และเป็นข้อจำกัดในเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล

Loading

    จากรายงาน Veeam Data Protection Report ประจำปี 2021 พบว่าสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่โลกสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) องค์กรทั่วโลกถึง 40% มองว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเป็นอุปสรรคสำคัญในอีก 12 เดือนข้างหน้า และหนึ่งในสามขององค์กรต่างชะลอหรือเลือกที่จะหยุดกระบวนการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไว้ก่อนในช่วงปีที่ผ่านมา ความท้าทายในการป้องกันข้อมูลกำลังบั่นทอนความสามารถขององค์กรทั่วโลกในการเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่โลกดิจิทัล (Digital Transformation, DX) อ้างอิงผลการสำรวจในรายงาน Veeam® Data Protection Report 2021 พบว่าองค์กรถึง 58% ไม่สามารถสำรองข้อมูลได้สำเร็จหรือปล่อยข้อมูลไว้โดยไม่ได้รับการป้องกัน รายงานการสำรวจนี้จัดทำขึ้นโดย Veeam Software ผู้นำด้านโซลูชั่นสำรองข้อมูลในรูปแบบการจัดการข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ Cloud Data Management™ ซึ่งพบว่า หลังจากที่โลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรถึง 40% ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คืออุปสรรคครั้งใหญ่ในการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลในช่วง 12 เดือนจากนี้ ระบบการป้องกันข้อมูลที่ไม่แข็งแกร่ง ผนวกกับความท้าทายเรื่องความอยู่รอดของธุรกิจ ได้กลายมาเป็นความกังวลที่แพร่ไปในหลายองค์กร จนถึงขั้นที่จำเป็นต้องเลือกที่จะชะลอกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลไว้ก่อน    …

‘ทูตอาเซียน’ ส่งหนังสือถึง ‘บลิงเคน’ ห่วงเหยียดชาติเอเชียในสหรัฐแรง

Loading

    เอกอัครรราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำกรุงวอชิงตัน ร่วมส่งหนังสือถึง “แอนโทนี บลิงเคน” ห่วงสถานการณ์เหยียดชาติเอเชียในสหรัฐรุนแรง กระทบคนไทยอยู่ยาก ด้าน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ย้ำทุกคนในสหรัฐจะได้รับคุ้มครองและศักดิ์ศรีเท่าเทียม เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงและการเหยียดเชื้อชาติต่อชาวเอเชียในสหรัฐ ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้รับทราบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตระหนักถึงผลกระทบต่อคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ร่วมกับเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำสหรัฐ ในนามคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงวอชิงตัน (ASEAN Committee in Washington : ACW) ได้ร่วมกันสะท้อนข้อห่วงกังวลต่อเหตุการณ์นี้ไปยังรัฐบาลสหรัฐ โดยเอกอัครราชทูตมาเลเซียในฐานะประธาน ACW ได้มีหนังสือลงนามถึงนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงและการเหยียดเชื้อชาติชาวเอเชียในสหรัฐที่เกิดเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา       กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้มีหนังสือตอบกลับเมื่อวันที่ 6 เมษายน…