สหรัฐขับไล่จนท.ทูต-คว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่

Loading

  รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศขับไล่นักการทูตรัสเซีย 10 คน ออกนอกประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมกับคว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคลรัสเซีย อีกกว่า 30 ราย เพื่อเป็นการลงโทษ การแทกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว และการเจาะล้วงข้อมูลหลายหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า การขับไล่นักการทูตและคว่ำบาตรรัสเซีย ของรัฐบาลสหรัฐ เป็นไปตามความคาดหมาย ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และนับเป็นมาตรการตอบโต้เครมลินครั้งแรก ต่อการเจาะล้วงข้อมูล ซึ่งเชื่อกันว่าทีมแฮกเกอร์รัสเซีย สามารถเข้าถึงข้อมูลลับ ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอย่างน้อย 9 แห่ง นอกเหนือจากการเจาะล้วงข้อมูลแล้ว เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อนุมัติปฏิบัติการ เพื่อช่วยเหลืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียหรือใครอื่น เปลี่ยนแปลงผลคะแนน หรือพลิกผลการเลือกตั้ง     มาตรการที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี รวมถึงการคว่ำบาตรธุรกิจรัสเซีย 6 บริษัท ที่สนับสนุนปฏิบัติการโจมตีไซเบอร์ บุคคลและนิติบุคคล…

ฝรั่งเศสแนะพลเมืองเร่งอพยพออกจากปากีสถาน หลังกระแสต่อต้านชาวเมืองน้ำหอมนับวันยิ่งรุนแรง

Loading

  ฝรั่งเศสแนะพลเมืองเร่งอพยพออกจากปากีสถาน หลังกระแสต่อต้านชาวเมืองน้ำหอมนับวันยิ่งรุนแรง เมื่อวันที่ 15 เมษายน สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศปากีสถาน ประกาศแนะนำให้พลเมืองชาวฝรั่งเศสและบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส อพยพออกจากปากีสถาน หลังจากกระแสประท้วงต่อต้านฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้ถูกโหมกระพือรุนแรงหนักมากขึ้นในปากีสถาน จนทำให้ในหลายพื้นที่กลายเป็นอัมพาต ในอีเมลของสถานทูตฝรั่งเศสที่ส่งถึงพลเมืองฝรั่งเศสที่พำนักอยู่ในปากีสถานระบุว่า เนื่องจากมีการคุกคามต่อผลประโยชน์ฝรั่งเศสในปากีสถานอย่างร้ายแรง จึงขอแนะนำให้พลเมืองและบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสอพยพออกจากปากีสถานไปก่อนเป็นการชั่วคราวด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ที่ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ความรู้สึกต่อต้านฝรั่งเศสในปากีสถานทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ได้ออกมาแสดงความสนับสนุนสิทธิเสรีภาพสื่อของนิตยสารฉบับหนึ่ง ที่กระทำการตีพิมพ์ซ้ำภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวมุสลิมส่วนใหญ่ต่างรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนาอิสลาม   ————————————————————————————————————————————————————- ที่มา : มติชนออนไลน์     /  วันที่เผยแพร่  15 เม.ย.2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2674819

บริษัท ‘ไอที’ ก็แพ้ให้ ‘แรนซัมแวร์’

Loading

  ผ่านมามีบริษัททางด้านไอทีที่น่าจะมีความรู้ และเครื่องมือระดับสูงในการป้องกันภัยคุกคาม พลาดท่าถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์โจมตี เหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นว่าทุกบริษัทล้วนมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามได้เสมอ [บทความนี้ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 เขียนโดยนักรบ เนียมนามธรรม คอลัมน์ Think Secure หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ]   คงไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัททางด้านไอทีที่น่าจะมีความรู้ และเครื่องมือระดับสูงในการป้องกันภัยคุกคามจะพลาดท่าถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์โจมตี แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแทบทั้งโลกก็ต้องตะลึง หลังบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากไต้หวันออกมายอมรับว่า ถูกแรนซัมแวร์โจมตีสำเร็จซึ่งบริษัทนี้คนไทยส่วนใหญ่รู้จักและใช้คอมพิวเตอร์ที่เขาผลิตเสียด้วยครับ เรื่องเริ่มจากกลุ่ม REvil นักเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ได้ออกมาอ้างว่า ทางกลุ่มต้องการค่าไถ่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านดอลลาร์จากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากไต้หวันที่ตกเป็นเหยื่อ โดยราคานี้เป็นราคาที่กลุ่ม REvil รับได้ถ้าเหยื่อยอมจ่ายตามที่เรียกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถือเป็นค่าไถ่ที่แพงมากกว่าปกติอยู่ดีเพราะค่าไถ่สูงสุดที่กลุ่มนี้เรียกจากเหยื่อรายอื่นเมื่อเดือนที่ผ่านมายังอยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์ บทสนทนาระหว่างตัวแทนของบริษัทและกลุ่ม REvil ถูกเปิดเผยว่า มีการต่อรองให้ลดราคาค่าไถ่ลงมาประมาณ 20% ถ้าบริษัทยอมจ่ายเงินภายในวันที่กำหนด และถ้าไม่มีความคืบหน้าต่อจากนี้ภายใน 8 วัน จะต้องจ่ายค่าไถ่สูงขึ้นเป็นเงินถึง 100 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว   นี่คือวิธีการที่กลุ่ม REvil ใช้กระตุ้นให้บริษัทที่ตกเป็นเหยื่อร้อนรน หลังจากที่เจาะเข้าระบบของบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อได้พวกเขาก็จะเริ่มสูบข้อมูลลับหรือข้อมูลสำคัญ จากนั้นก็เปิดประมูลเพื่อขายข้อมูลของเหยื่อที่ขโมยมาในเว็บใต้ดินของกลุ่มต่อ โดยจะมีการนำไฟล์ข้อมูลบางส่วนมาแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ขโมยมามีฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัท รวมถึงหมายเลขบัญชี…