อิสราเอลโจมตีทางอากาศ สังหารเหล่าแกนนำกลุ่มฮามาส

Loading

  เมื่อวันพุธ กลุ่มฮามาสและทางการอิสราเอลระบุว่า ผู้บังคับบัญชาของกลุ่มฮามาสหลายนายถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซา ระหว่างที่การปะทะระหว่างสองฝ่ายทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น กลุ่มฮามาสระบุในแถลงการณ์ว่า บาสเซม อิสซา หัวหน้าปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มฮามาสในเมืองกาซา และเจ้าหน้าที่ทางทหารอาวุโสของกลุ่มหลายคน ถูกสังหารระหว่างการโจมตีดังกล่าว ทางด้านหน่วยงานความมั่นคงภายในของอิสราเอลก็ยืนยันเช่นกันว่า อิสซาและผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนอื่น ๆ ของกลุ่มฮามาส รวมทั้งหัวหน้าวิศวกรและหัวหน้าด้านสงครามไซเบอร์และการพัฒนาจรวด ถูกสังหารจากการโจมตีครั้งนี้ บุคคลระดับสูงของกลุ่มฮามาสถูกสังหารหลังอิสราเอลโจมตีกาซาทางอากาศเมื่อเช้าวันพุธ โดยพุ่งเป้าไปที่ที่ทำการของตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง การโจมตีดังกล่าวยังสร้างความเสียหายอย่างหนักต่ออาคารที่พักอาศัยและที่ทำการหลังหนึ่ง แม้จะไม่มีผู้อยู่ในอาคารระหว่างการโจมตีก็ตาม ทั้งนี้ การปะทะระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและนครเยรูซาเล็มทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่วันจันทร์ กระทรวงสาธารณสุขของกาซาระบุว่า การโจมตีทางอากาศทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48 คน รวมถึงเด็ก 13 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 300 คน โดยกองทัพอิสราเอลระุบว่า การโจมตีทางอากาศนี้พุ่งเป้าไปที่ฐานยิงจรวดของกลุ่มติดอาวุธ สำนักงานข่าวกรองและที่พักของบรรดาแกนนำกลุ่มฮามาส   ความตึงเครียดทวีคูณขึ้น ทางสาธารณสุขระบุว่าชาวอิสราเอลหกคนถูกสังหารจากการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาสเมื่อวันอังคารและเช้าวันพุธ รวมถึงชาวอิสราเอลสองคนในเมืองอัชเคลอน โดยกลุ่มฮามาสยิงจรวดหลายลำไปยังเมืองเทลอาวีฟและบริเวณชานเมืองมาตั้งแต่วันจันทร์ รวมถึงยิงขีปนาวุธ 130 ลูกเมื่อคืนวันอังคารเพื่อเป็นการตอบโต้ การโจมตีตอบโต้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์และกองกำลังของอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามในกาซาเมื่อปีค.ศ. 2014 การโจมตีครั้งนี้มีชนวนเหตุมาจากการจลาจลในนครเยรูซาเล็ม และการที่ชาวยิวพยายามเข้าครอบครองพื้นที่ในชุมชนของชาวอาหรับ ความตึงเครียดนี้ขยายตัวเข้าไปยังเขตเวสต์แบงค์ ชาวอาหรับหลายร้อยคนประท้วงข้ามคืนติดต่อกันเพื่อต่อต้านการใช้กำลังของกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ เช่น เมื่อวันอังคาร มีชายชาวปาเลสไตน์วัย 26 ปี…

สหรัฐฯ พบ จีนทุ่มเงินนับสิบล้านผ่านกิจการสื่อเพื่อขยายอิทธิพลในหมู่ชาวอเมริกัน

Loading

รายงานล่าสุดจากหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลสหรัฐฯ ชี้ว่า จีนได้ทุ่มงบประมาณสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เพื่อลงทุนในธุรกิจกระจายเสียงและกิจการสื่อต่างๆ ของตน เพื่อขยายอิทธิพลในสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา รายงานการตรวจสอบภายใต้กฎหมาย Foreign Agents Registration Act (FARA) ของสหรัฐฯ ที่รวบรวมโดย Center for Responsive Politics ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยอิสระไม่หวังผลกำไรในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า สถานีโทรทัศน์ China Global Television Network (CGTN) ซึ่งรัฐบาลกรุงปักกิ่งเป็นเจ้าของ ทุ่มงบจำนวนกว่า 50 ล้านดอลลาร์เพื่อขยายการปฏิบัติการในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว โดยงบนี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายของรัฐบาลจีนในการสร้างอิทธิพลต่อความคิดเห็นของชาวอเมริกันและนโยบายของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ CGTN เริ่มออกอากาศในสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2012 สถานีโทรทัศน์จีนแห่งนี้ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขเม็ดเงินที่ลงทุนในสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์นัก และรายงานการใช้จ่ายบางส่วนที่ประมาณ 43 ล้านดอลลาร์สำหรับปี ค.ศ. 2019 อย่างไรก็ดี การเปิดเผยตัวเลขที่ครบถ้วนที่ใช้จ่ายในปีที่แล้วออกมาของ CGTN ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ทำให้ทีมงานผู้รวบรวมข้อมูลสรุปได้ว่า จีนใช้เงินเกือบ 64…

‘ฮ่องกง’ผ่านกม.รักชาติ ใครไม่จงรักภักดีต่อ’จีน’ต้องถูกปลด-ห้ามลงสมัครเลือกตั้ง

Loading

  ‘ฮ่องกง’ผ่านกม.รักชาติ ใครไม่จงรักภักดีต่อ’จีน’ต้องถูกปลด-ห้ามลงสมัครเลือกตั้ง 13 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กฎหมายฉบับใหม่ของฮ่องกงที่ทดสอบ “ความรักชาติ” ในหมู่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแล้วเมื่อวันพุธ จะเริ่มบังคับใช้ทันทีในเดือนนี้ ซึ่งจะให้อำนาจรัฐบาลปลดหรือห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งหากพบว่าบุคคลนั้น “ไม่จงรักภักดี” ต่อทางการฮ่องกงหรือจีน รัฐบาลฮ่องกงเสนอร่างฉบับนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จำเป็นต้องมีบทบัญญัติที่สร้างความมั่นใจว่า มีแต่ “คนรักชาติ” เท่านั้นที่ได้บริหารฮ่องกง รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า การลงมติของสภานิติบัญญัติฮ่องกงที่ปราศจากฝ่ายค้านเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มีสมาชิกเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ 40 คน และมีเพียง 1 คนงดออกเสียง กฎหมายฉบับนี้บังคับว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนจะต้องให้ “คำสัตย์ปฏิญาณจงรักภักดี” ที่จะต้องปฏิบัติตามตลอดสมัยดำรงตำแหน่ง ผู้ที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายนี้มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐ คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาและสภานิติบัญญัติ หรือกระทั่งผู้พิพากษา สมาชิกสภาเขตมากกว่า 470 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นเพียงตำแหน่งเดียวที่ชาวฮ่องกงสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไปในการเลือกผู้แทนของตน ก็อยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ด้วย โดยมีรายงานว่าสมาชิกไม่ต่ำกว่า 26 คน ลาออกในช่วงไม่เดือนที่ผ่านมา บางคนเป็นเพราะไม่ต้องการเอ่ยคำสัตย์ปฏิญาณ และมีอีกหลายคนโดนจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ กฎหมายฉบับใหม่นี้จะให้อำนาจรัฐมนตรียุติธรรมของฮ่องกงดำเนินการกับนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูเหมือนละเมิดคำสัตย์ปฏิญาณ ตาม “รายการเชิงลบ” ที่บรรยายถึงพฤติการณ์ไม่รักชาติไว้อย่างกว้างๆ มีตั้งแต่การดูหมิ่นธงชาติ…