หน่วยความมั่นคงไซเบอร์เยอรมนีเตือนโรงพยาบาลอาจเป็นเหยื่อแฮกเกอร์รายต่อไป

Loading

    นายอาร์น เชินโบห์ม ผู้อำนวยการสำนักงานสหพันธรัฐเพื่อความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ (BSI) ของเยอรมนีประกาศเตือนว่า โรงพยาบาลในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีโดยกลุ่มแฮกเกอร์ หลังจากในเดือน พ.ค. มีการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นมากมาย เช่น การโจมตีระบบสาธารณสุขของไอร์แลนด์และท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คลินิกในเยอรมนีถูกโจมตีทางไซเบอร์อยู่บ่อยครั้ง นายเชินโบห์มเปิดเผยกับสำนักข่าวไซต์ ออนไลน์ของเยอรมนีว่า โรงพยาบาลอาจมีความเสี่ยงถูกโจมตีในระดับที่สูงกว่า นอกจากนี้ นายเชินโบห์มยังระบุว่า ธุรกิจต่างๆ ในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ เนื่องจากมีการให้พนักงานทำงานจากบ้านในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด และได้กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้บริษัทต่างๆ มีความจำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้านได้โดยเร็ว จึงอาจทำให้ระบบไอทีของหลายบริษัทมีจุดอ่อนให้โจมตีได้   —————————————————————————————————————————————————————— ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์     / วันที่เผยแพร่   23  พ.ค.2564 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/89865

อิสราเอล-ปาเลสไตน์ : ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะนำมาซึ่งสันติภาพถาวรหรือเปล่า ?

Loading

  อิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกันบริเวณฉนวนกาซา การสู้รบกันต่อเนื่อง 11 วัน ประกอบไปด้วยการยิงจรวด 4,000 ลูกของกลุ่มติดอาวุธ และกองทัพอิสราเอลที่โจมตีทางอากาศไปยัง 1,500 เป้าหมายในกาซา ทางการปาเลสไตน์บอกว่า ที่กาซา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 243 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็กมากกว่า 100 ราย ขณะที่อิสราเอลบอกว่าสังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธไปอย่างน้อย 225 ราย ด้านอิสราเอลบอกว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศ 12 ราย เป็นเด็ก 2 ราย   รายละเอียดของการหยุดยิง   การหยุดยิงเป็นเพียงการประกาศจากสองฝ่ายว่าจะหยุดสู้รบ อาจจะอย่างไม่มีกำหนด หรือแค่ช่วงหนึ่ง     หากดูจากประวัติศาสตร์การเผชิญหน้าระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่ก็เคยบรรลุข้อตกลงหยุดยิงมาแล้ว มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะกลับมาสู้รบกันอีกครั้ง ในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเมื่อเวลา 02.00 น. เวลาท้องถิ่นเมื่อวันที่ 21 พ.ค. แต่ก่อนจะถึงกำหนดเวลาดังกล่าว มีรายงานว่าต่างฝ่ายก็โหมโจมตีกันและกัน   เงื่อนไขข้อตกลง   มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงหยุดยิงต่อสาธารณะน้อยมาก โดยผู้มีส่วนร่วมในการเจรจาประกอบไปด้วยชาติมหาอำนาจในภูมิภาคนั้นอย่างอียิปต์และกาตาร์ รวมถึงสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ด้วย…

ส่องานเข้า คนขับรถไฟชิงกันเซ็งแวบเข้าห้องน้ำ ปล่อยรถวิ่ง 150 กม./ชม.

Loading

  คนขับรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นอาจถูกลงโทษ หลังเขาออกไปเข้าห้องน้ำนานหลายนาที ในขณะที่รถไฟวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันที่ 21 พ.ค. 2564 ว่า บริษัท ‘เซ็นทรัล เจแปน เรลเวย์’ หรือ ‘เจอาร์ เซ็นทรัล’ ผู้ให้บริการรถไฟออกมาแสดงความขอโทษ หลังจากคนขับรถไฟความเร็วสูงของพวกเขา ลุกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่รถกำลังวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. แล้วให้พนักงานซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถไฟควบคุมรถแทน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนรถไฟชิงกันเซ็งสายฮิคาริ หมายเลข 633 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค. ซึ่งในเวลานั้นบรรทุกผู้โดยสาร 160 คน โดย เจอาร์ เซ็นทรัล เผยว่า ขณะที่รถไฟกำลังเดินทางในจังหวัดชิซุโอกะ จู่ๆ คนขับรถไฟวัย 36 ปี ก็ปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำโดยด่วน เขาจึงเรียกพนักงานรถไฟคนหนึ่งเข้ามาในห้อง แล้วออกไปเข้าห้องน้ำนานประมาณ 3 นาที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของรถไฟสายฮิคาริ หมายเลข 633 อย่างไรก็ตาม เจอาร์…

“แอร์อินเดีย” ถูกแฮกเกอร์เจาะระบบขโมยข้อมูลลูกค้า 4.5 ล้านรายทั่วโลก

Loading

  แอร์อินเดียซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของอินเดียเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้ทำการขโมยข้อมูลลูกค้าของแอร์อินเดียราว 4.5 ล้านรายทั่วโลกในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งล่าสุด แอร์อินเดียระบุในแถลงการณ์ที่เปิดเผยในวันศุกร์ (21 พ.ค.) ว่า ชื่อ, หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลเกี่ยวกับพาสปอร์ตของลูกค้าได้ถูกขโมยโดยกลุ่มแฮกเกอร์ แอร์อินเดียระบุว่า บริษัทกำลังดำเนินการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกโจมตี และใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงกำลังประสานงานกับทางบริษัทบัตรเครดิต แอร์อินเดียประกาศในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้รับแจ้งจากซิต้า (Sita) ซึ่งเป็นบริษัทประมวลผลข้อมูลของแอร์อินเดียในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเจาะนั้นเป็นข้อมูลที่มีการลงทะเบียนระหว่างเดือนส.ค. 2554 ถึงเดือนก.พ. 2564 “เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณการสนับสนุนและความไว้วางใจที่มีมาอย่างต่อเนื่องจากผู้โดยสารของเรา” แอร์อินเดียระบุ ทั้งนี้ สายการบินจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการแฮกข้อมูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยสายการบินบริติชแอร์เวย์ของอังกฤษถูกปรับถึง 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว หลังจากที่ข้อมูลของลูกค้า 400,000 รายสูญหายไปจากการโจมตีทางไซเบอร์ในปี 2561 ส่วนคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ถูกปรับเป็นเงิน 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากข้อมูลของลูกค้า 9 ล้านคนสูญหายไปในปี 2561 ขณะที่อีซี่เจ็ตซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับอีเมลและรายละเอียดการเดินทางของลูกค้าราว 9 ล้านราย   ———————————————————————————————————————————————————————- ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์       …

‘จีน’ ห้ามจอด ‘เทสลา’ ในอาคารรัฐบาล หวั่นสอดแนม

Loading

  “จีน” สั่งห้าม เจ้าหน้านี้นำรถยนต์เทสลาเข้าจอดในอาคารของรัฐบาล กังวลกล้องสอดแนม รัฐบาลจีน ได้สั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ของบริษัทเทสลา เข้ามาจอดภายในบริเวณอาคารสำนักงานของรัฐบาล เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับกล้องหลายตัวที่ติดตั้งมากับรถยนต์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลอย่างน้อย 2 คนในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า ห้ามนำรถยนต์ของเทสลาจอดในอาคารสำนักงาน อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ขณะนี้มีรถยนต์ของเทสลาจำนวนกี่คันที่ถูกสั่งห้ามจอดในขณะนี้ แม้ว่าระบบเซ็นเซอร์และกล้องในรถยนต์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่รถยนต์ แต่แหล่งข่าวระบุว่า มาตรการเข้มงวดล่าสุดนี้ได้ถูกนำมาใช้เฉพาะกับรถยนต์ของเทสลาเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรถยนต์ของเทสลามีกล้องหลายตัวติดตั้งอยู่ภายนอกตัวรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในเรื่องการจอดรถ การเปลี่ยนเลน และการอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์ของเทสลาได้ถูกสั่งห้ามเข้าไปจอดในศูนย์บัญชาการทหารบางแห่งในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากทางการจีนกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับกล้องที่ติดมากับรถยนต์ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้ออกมาชี้แจงว่า หากเทสลาใช้รถยนต์เป็นเครื่องมือสอดแนมในจีนหรือในประเทศอื่นๆ โรงงานของเทสลาก็คงต้องถูกปิดกิจการไปนานแล้ว   ———————————————————————————————————————————————— ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ        / วันที่เผยแพร่ 21 พ.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/939367

สกัดข่าวปลอม Google สร้างเครื่องมือใหม่ ให้ผู้ใช้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง

Loading

  Google สร้างเครื่องมือใหม่ ให้ผู้ใช้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง   ผลกระทบจากข่าวปลอมบนเว็บไซต์และโซเชียล ทำให้ Google ในฐานะผู้นำ Search engine ออกมาพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบ Fake news หรือข่าวลวงบนออนไลน์ที่เปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากเรื่องที่แต่งขึ้นได้ ล่าสุด Google ได้แบ่งปันเคล็ดลับในการตรวจสอบข้อมูลที่เป็นเท็จ ที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ ผ่านโครงการ GNI University Verification Challenge ร่วมกับนักศึกษาวารสารศาสตร์ทั่วเอเชีย รวมถึงสำนักข่าวต่างๆ พร้อมเผยเคล็ดลับสังเกตข้อมูลปลอม ข่าวลวงบนโซเชียล แบบง่ายๆ ที่ทำได้เอง ผ่าน 5 เครื่องมือนี้   1. ตรวจสอบข้อเท็จด้วย Fact Check Explorer หากไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันมาบนโซเชียลเป็นเรื่องจริงหรือจ้อจี้ ให้ลองค้นหาด้วย Fact Check Explorer เครื่องมือตรวจสอบข้อเท็จจริง มากกว่า 100,000 รายการ จากผู้เผยแพร่ที่เชื่อถือได้ทั่วโลก แค่เข้าไปเช็คที่ Fact Check Explorer https://toolbox.google.com/factcheck/explorer  …