ภัยจาก ‘มือที่สาม’
44% ขององค์กรถูกละเมิดความปลอดภัยช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เป็นเรื่องปกติที่การจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้ให้น้อยที่สุดเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดกับอุปกรณ์หรือข้อมูลที่สำคัญของบริษัท แต่ในบางครั้งเราต้องให้บุคคลที่สาม (Third Party) เข้ามาในระบบเพื่อช่วยแก้ไขหรือเพื่อทำงานบางอย่างร่วมกัน นี่จึงเป็นสาเหตุให้การเข้าถึงจากระยะไกลโดยบุคคลที่สาม (Third-party Remote Access) กลายเป็นจุดอ่อนขององค์กรที่แฮกเกอร์อาจเข้ามาโจมตี ไม่กี่วันที่ผ่านมาสถาบันการวิจัยด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูล และผู้ให้บริการการเข้าถึงจากระยะไกลของบุคคลที่สามได้ออกรายงานฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า “วิกฤติในการรักษาความปลอดภัยการเข้าถึงจากระยะไกลของบุคคลที่สาม” ซึ่งเผยให้เห็นความไม่สอดคล้องกันของความเข้าใจที่องค์กรมีเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มาในรูปแบบของการเข้าถึงจากบุคคลที่สาม และมาตรการการป้องกันที่องค์กรได้กำหนดไว้ นักวิจัยพบว่า องค์กรต่างๆ กำลังทำให้ระบบเครือข่ายเกิดความเสี่ยงโดยการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด และไม่ลดความเสี่ยงจากการเข้าถึงของบุคคลที่สาม จากรายงานพบว่า 44% ขององค์กรถูกละเมิดความปลอดภัยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในบรรดาองค์กรเหล่านี้ 74% กล่าวว่า การละเมิดเกิดขึ้นจากการให้บุคคลที่สามเข้าถึงระบบเครือข่ายด้วยสิทธิพิเศษมากเกินไป นอกจากนี้องค์กรต่างๆ ไม่ได้ทำการตรวจสอบความปลอดภัยที่จำเป็น ก่อนแบ่งปันการเข้าถึงข้อมูลกับบุคคลที่สาม โดย 51% ขององค์กรกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ประเมินการปฏิบัติด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามทั้งหมด ก่อนที่จะอนุญาตให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลสำคัญและเป็นความลับ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นว่า การอนุญาตให้มีการเข้าถึงระยะไกลจากบุคคลที่สาม โดยไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันความปลอดภัยที่เหมาะสม จะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมไปถึงการละเมิดข้อมูลที่สำคัญและเป็นความลับ นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรจะต้องประเมินแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามที่สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายของตน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขามีสิทธิ์เข้าถึงเพียงพอที่จะปฏิบัติงานตามที่กำหนดไว้ และไม่สามารถทำอย่างอื่นนอกเหนือไปจากนั้นได้ การค้นพบที่สำคัญอื่นๆ คือ 54% ขององค์กรไม่มีข้อมูลที่ครอบคลุมบุคคลที่สามทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายของตนได้ และ 65%…