มากาวา “หนูดมหากับระเบิด”ในกัมพูชา ถึงเวลาเกษียณ เป็นหนูตัวแรกที่ได้เหรียญกล้าหาญ

Loading

    เอเอฟพี รายงานว่า มากาวา หนูยักษ์แอฟริกันที่ได้รับการฝึกให้ “ดมหากับระเบิด” และถูกใช้งานให้ดมหาทุ่นระเบิดในพื้นที่ชนบทของกัมพูชามานาน 5 ปี กำลังจะได้รับการปลดเกษียณ ให้ไปพักผ่อนได้กินกล้วย และถั่วลิสงซึ่งเป็นของโปรด หลังจากทำงานหนักมาตลอด และโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมกระทั่งเป็นหนูตัวแรกที่เคยได้รับรางวัลเหรียญทอง เชิดชูความกล้าหาญจากองค์กรการกุศลชื่อ PDSA ที่ตั้งมา 77 ปีและที่ผ่านมามีสัตว์หลายชนิดทั้ง สุนัข แมว หรือแม้แต่ นกพิราบ ที่เคยได้รางวัลจากองค์กรนี้     มากาวา เป็นหนูเพศผู้จากประเทศแทนซาเนีย ซึ่งได้รับการฝึกให้ดมหากับระเบิดโดยองค์กรการกุศลชื่อว่า APOPO ที่ช่วยฝีกมากาวา ให้ช่วยกำจัดทุ่นระเบิดจากพื้นที่ 225,000 ตารางเมตร หรือเท่ากับสนามฟุตบอล 42 สนาม ตลอดเวลา 5 ปีที่ทำหน้าที่นี้ โดยสามารถตรวจจับทุ่นระเบิดได้ 71 รายการ และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ระเบิด 38 รายการ “เขาเหนื่อยแล้ว สิ่งดีที่สุดคือให้เขาได้พัก ” ไมเคิล ฮีแมน ผู้จัดการโครงการของ APOPO ในกัมพูชาบอกกับเอเอฟพี…

เรียนรู้ที่จะอยู่กับเฟคนิวส์

Loading

  เฟคนิวส์ กับ สื่อดิจิตัล หรือสื่อโซเชียล สื่อออนไลน์ แล้วแต่จะเรียก ดูจะเป็นของคู่กัน ไม่ใช่ว่าสื่อยุคก่อนไม่มีเฟคนิวส์ จริงๆแล้วมีเช่นเดียวกัน แต่สื่อขณะนั้นเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ ที่ไม่รวดเร็ว กว้างไกล แบบสื่อดิจิตัล และสื่อพวกนี้มีจรรยาบรรณที่ยึดถือ “ เสรีภาพพร้อมความรับผิดชอบ” แต่โลกสมัยใหม่ที่คนสื่อสารผ่านสื่อดิจิตัล คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว กว้างขวาง และง่ายขึ้น ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงสื่อดิจิตัล พร้อมเสรีภาพในการแสดงออก แต่ไม่เคยพูดถึงความรับผิดชอบ ปัจจุบัน ทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างก็มีโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อถึงกันและรับข้อมูลข่าวสาร เฟคนิวส์จึงถูกใช้ผ่านสื่อนี้มากขึ้น   คำว่า “เฟค นิวส์” เราใช้เป็นคำรวมเรียกข่าวที่ไม่จริง ไม่ว่าจะเป็นข่าวปลอม ข่าวปล่อย ข่าวลวง ข่าวหลอก ข่าวลือ ฯลฯ สรุปแล้วคือข่าวที่ไม่จริงนั่นเอง หรือข่าวบิดเบือน หรือจริงบางส่วน เท็จบางส่วน คงไม่มีใครปล่อยข่าวเท็จทั้งหมดจนคนรู้ทัน คนที่ปล่อยเฟคนิวส์มีความมุ่งหมายที่จะทำให้คนเข้าใจผิดและกระทำการในสิ่งที่ตนต้องการ เช่น สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ก่อการจลาจล ต่อต้านรัฐบาล หลงด่ารัฐบาล หรือทำลายสถาบันหลักของชาติ ฯลฯ   สภาพสังคมไทยปัจจุบัน…

ไนจีเรียยัน กลุ่มมือปืนลักพาตัวเด็กกว่าร้อยชีวิตในรร.ไปเรียกค่าไถ่

Loading

  เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นในไนจีเรียออกมายืนยันว่าเกิดเหตุกลุ่มมือปืนลักพาตัวเด็กนักเรียน 136 คนไปจากโรงเรียนสอนศาสนาในเมืองเทกินา รัฐไนเจอร์ของไนจีเรียจริง โดยกลุ่มมือปืนพากันขี่มอเตอร์ไซด์มาและกราดยิงไม่เลือกหน้าในเหตุอุกอาจลักพาตัวหมู่ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในไนจีเรียเมื่อวันอาทิตย์(30 พ.ค.)ที่ผ่านมา โฆษกตำรวจรัฐไนเจอร์ เปิดเผยว่า กลุ่มอาชญากรได้สังหารชาวบ้านเสียชีวิตไป 1 ราย และทำให้บาดเจ็บอีก 1 ราย ก่อนจะลักพาตัวเด็กจำนวนมากไปจากโรงเรียนอิสลามซาลิฮูแทงโก ซึ่งทางการรัฐไนเจอร์ยืนยันแล้วว่ามีเด็กนักเรียนถูกลักพาตัวไป 136 คน ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี ของไนจีเรีย ประณามการก่อเหตุลักพาตัวดังกล่าวและสั่งการให้กองกำลังความมั่นคงและหน่วยข่าวกรองเร่งช่วยเหลือเด็กๆ ให้ได้รับการปล่อยตัวออกมาในทันที ที่ผ่านมาแก๊งอาชญากรในไนจีเรียพุ่งเป้าโจมตีโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่มีเด็กนักเรียนประจำอาศัยอยู่ในหอพักนักเรียนซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยไม่เข้มงวดมากพอ แล้วลักพาตัวเด็กเข้าไปในป่าเพื่อเรียกค่าไถ่ ทั้งนี้นับจากเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนและนักศึกษาในประเทศไนจีเรียแล้วมากกว่า 700 คน ที่ถูกกลุ่มมือปืนลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่   —————————————————————————————————————————————————– ที่มา : มติชนออนไลน์       / วันที่เผยแพร่   3 มิ.ย.2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2757618

ทำไปได้!สหรัฐฯขอโทษขอโพย ทหารซ้อมรบพลาดบุกจู่โจมโรงงานบัลแกเรีย(ชมคลิป)

Loading

  กองทัพสหรัฐฯรุดออกถ้อยแถลงขอโทษในวันอังคาร(2มิ.ย.) หลังทหารทำพลาดบุกจู่โจมโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งผลิตเครื่องจักรแปรรูปน้ำมันมะกอก ในบัลแกเรีย โดยไม่ตั้งใจ ระหว่าการซ้อบรบเมื่อเดือนที่แล้ว ทหารสหรัฐฯประจำกองพลพลร่มที่ 173 ทำการซ้อมรบปฏิบัติการยึดและคุ้มกันสนามบินเชชเนจิโรโวในบัลแกเรียเป็นเวลาหลายวัน ในนั้นรวมถึงภารกิจเคลียร์ที่กำบังทั่้วสนามบิน จากถ้อยแถลงของกองทัพสหรัฐฯประจำภาคพื้นยุโรปและแอฟริกาที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร(2มิ.ย.) ถ้อยแถลงระบุว่าระหว่างการซ้อบรบเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ทหารเข้าเคลียร์อาคารแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับสนามบิน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ซ้อมรบ แต่ข้อเท็จจริงคือมันเป็นอาคารพลเรือนบัลแกเรียที่มีธุรกิจเอกชนแห่งหนึ่งเป็นเจ้าของ “ไม่ได้มีการยิงออกไป” กองทัพสหรัฐฯชี้แจง “ทหารสหรัฐฯจริงจังกับการซ้อมรบ และให้ความสำคัญลำดับต้นๆกับความปลอดภัยของทหารของเขา พันธมิตรของเราและพลเมือง เราขอโทษด้วยความจริงใจต่อภาคธุรกิจดังกล่าวและลูกจ้างของพวกเขา” กองทัพสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง   US special forces mistakenly storm a factory producing machinery for olive oil during #NATO drills in #Bulgaria. The owner has filed a law suit pic.twitter.com/3NRM558Q7g — Dilyana Gaytandzhieva (@dgaytandzhieva)…

โรงแรมยูโรปา ในเบลฟาสต์ โรงแรมที่ถูกระเบิดมากสุดในยุโรป

Loading

  คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน : โรงแรมยูโรปา ในเบลฟาสต์ โรงแรมที่ถูกระเบิดมากสุดในยุโรป ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โรงแรมยูโรปา ในกรุงเบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นที่รองรับ “นักข่าว” มากกว่ารองรับ “นักท่องเที่ยว” อันเนื่องมาจาก เป็นโรงแรมที่เกิดระเบิดบ่อยครั้งที่สุดในยุโรป โดยถูกระเบิดมากถึง 33 ครั้ง จากฝีมือของกองทัพสาธารณรัฐไอแลนด์ หรือ ไออาร์เอ จนได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมที่ถูกระเบิดโจมตีมากที่สุดในยุโรป   โดยโรงแรมยูโรปาแห่งนี้ มีทั้งตกเป็นเป้าโจมตี และที่หลบภัยของนักข่าว ในช่วงเหตุนองเลือดในไอร์แลนด์เหนือ เมื่อช่วงทศวรรษ 1970 , 1980 และ 1990 ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่โรงแรมนี้กลายเป็นเป้าหมายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสื่อระดับโลก และผู้สื่อข่าว ที่มาคอยทำรายงานข่าวเรื่องความขัดแย้งรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือ   โรงแรมยูโรปา ถือเป็นสัญลักษณ์ของสุขนิยมและความทันสมัยของกรุงเบลฟาสต์ ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ก่อนจะกลายเป็น “เป้าหมาย” ของการโจมตีของกลุ่มไออาร์เอ “อีกครั้ง” เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม สหภาพโปรเตสแตนท์ ที่ต้องการให้ไอร์แลนด์เหนือยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร กับกลุ่มสาธารณรัฐคาทอลิก ซึ่งเป็นกลุ่มน้อย…

บึ้ม 2 รถโดยสาร ชาวอัฟกันดับ 12 ราย

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 มิถุนายน เกิดเหตุระเบิดรถโดยสาร 2 คันที่กรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย โดยย่านที่เกิดเหตุอยู่ทางตะวันตกของกรุงคาบูล เป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นนิกายที่มีผู้นับถือในอัฟกานิสถานไม่มากนัก และตกเป็นเป้าของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง Ferdaws Faramarz โฆษกกรมตำรวจคาบูลระบุว่า รถโดยสารทั้งสองคันบรรทุกผู้โดยสารมาขณะที่เกิดระเบิด จึงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนต่อไป ระเบิดริมถนน ระเบิดแม่เหล็กขนาดเล็กที่ติดอยู่ใต้ท้องรถและการโจมตีอื่นๆ มีเป้าหมายที่จะทำร้ายกองกำลังรักษาความปลอดภัย ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักเคลื่อนไหว และนักข่าวในช่วงหลายเดือนมาในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตามยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติรัฐบาลมักจะโทษกลุ่มทาลิบันว่าเป็นผู้ก่อเหตุเช่นนี้ แต่ล่าสุดทางกลุ่มได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้เหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ เกิดบ่อยมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศว่าวางแผนที่จะถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานภายในวันที่ 11 กันยายนนี้   —————————————————————————————————————————————————— ที่มา : มติชนออนไลน์       / วันที่เผยแพร่  2 มิ.ย.2564 Link…