เรือรบฟริเกตของเยอรมนีลำหนึ่งเตรียมล่องเข้าสู่ทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรกในรอบราวๆ 2 ทศวรรษ ส่วนหนึ่งของภารกิจยาวนาน 6 เดือน ตามคำมั่นสัญญาของเบอร์ลินที่มีต่อพันธมิตรและต่อเสรีภาพแห่งการเดินเรือ
บาเยิร์น (บาวาเรีย) หนึ่งในเรือฟริเกตชั้นบรันเดินบวร์ค จากทั้งหมด 4 ลำของเยอรมนี เดินทางออกจากฐานทัพเรือวิลเฮมส์ฮาเฟิน เมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) ในพิธีที่มี อันเนเกรต ครัมป์-คาร์เรนบาวเออร์ รัฐมนตรีกลาโหมเข้าร่วมด้วย
ข้อมูลจากกองทัพเรือเยอรมนีระบุว่า เรือรบลำนี้บรรทุกตอร์ปิโดต่อต้านเรือดำน้ำ 46 ลูก ติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือและอาวุธต่อต้านอากาศยาน มันจะใช้เวลาอยู่กลางทะเลเป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างนั้นคาดหมายว่าจะล่องเฉียดใกล้จะงอยแอฟริกา ออสเตรเลียและญี่ปุ่น รวมถึงล่องผ่านทะเลจีนใต้ ภูมิภาคที่ความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งพุ่งสูง
“ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร เยอรมนีต้องการปรากฏตัวมากขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” ถ้อยแถลงของกองทัพเรือระบุ
น่านน้ำต่างๆ ในทะเลจีนใต้เป็นจุดเดือดมาช้านานเกี่ยวกับข้อพิพาททางทะเลในภูมิภาค ปักกิ่งยืนกรานว่ามีสิทธิทางประวัติศาสตร์เหนือน่านน้ำดังกล่าว แต่คำกล่าวอ้างว่าพวกเขามีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลแห่งนี้ถูกปฏิเสธโดยศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในเมืองเฮก ที่ตัดสินเข้าข้างฟิลิปปินส์
กองทัพสหรัฐฯได้ปรากฏตัวในภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้ภายใต้คำกล่าวอ้างที่ว่า เพื่อธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและปกป้องเสรีภาพของการเดินเรือ และเมื่อเร็วๆ นี้วอชิงตันพูดเป็นนัยว่าพวกเขายืนหยัดอยู่เคียงข้างเหตุผลของพันธมิตรในทะเลจีนใต้ โดย แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าประเทศของเขาจะอยู่ข้างประเทศอื่นๆ ที่กำลังถูกจีนข่มขู่บีบบังคับ
ถ้อยแถลงของกองทัพเรือเยอรมนีไม่ได้พาดพิงจีนหรือเอ่ยชื่อทะเลจีนใต้โดยตรง แต่พวกเขาระบุว่า พื้นที่อินโด-แปซิฟิก คือภูมิภาคที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากที่สุดบนโลกใบนี้ ซึ่งการตัดสินใจสำคัญๆ นั้นเกี่ยวข้องกับเสรีภาพ สันติภาพ และความรุ่งเรือง
นอกจากนี้ ถ้อยแถลงยังระบุด้วยว่า รัฐบาลเยอรมนีมีเป้าหมายจะเพิ่มการปรากฏตัวทางนาวีในภูมิภาคแห่งนี้ ในนั้นรวมถึงยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ สนับสนุนพันธมิตรท้องถิ่นบางชาติ และธำรงไว้ซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อยของการเดินเรือบนพื้นฐานของกฎระเบียบต่างๆ
“มันเป็นเรื่องของการชักธงขึ้น และแสดงออกบริเวณนั้นว่าเยอรมนีอยู่เคียงข้างพันธมิตรนานาชาติที่มีค่านิยมเดียวกับเกี่ยวกับเสรีภาพในการล่องเรือและปฏิบัติตามกฎหมายสากล” พลเรือโท เคย์-อาชิม เชอนบัค กล่าวระหว่างพิธีปล่อยเรือ เขาบอกด้วยว่าภารกิจนี้จะเห็นเรือรบเยอรมนีทำหน้าที่สังเกตการณ์การบังคับใต้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นที่มีต่อเกาหลีเหนือ และ “เสริมความเข้มแข็งแก่ยูเอ็นทั้งมวล”
กองทัพเรือระบุว่า เรือรบเยอรมนีไม่ได้เข้าร่วมภารกิจทางทะเลครั้งใหญ่เช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2016 ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนเน้นว่าเบอร์ลินไม่ได้ส่งเรือของกองทัพเข้าไปยังทะเลจีนใต้มาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ทศวรรษแล้ว
เรือรบบาเยิร์น เริ่มภารกิจล่องเรือท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคที่พุ่งสูงอยู่ก่อนแล้ว ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ปักกิ่งออกมาประณามกรณีสหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำร่องแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 แล้วในปีนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้ทางโฆษกกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ประณามว่าสหรัฐฯ คือผู้ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์คาดหมายว่าเรือรบเยอรมนีจะไม่ใช้เส้นทางเดินเรือที่ยั่วยุใดๆ ในทะเลจีนใต้ และเชื่อว่าเรือรบลำนี้จะยึดติดในเส้นทางการเดินเรือด้านการค้าตามปกติทั่วไป และจะหลีกเลี่ยงช่องแคบไต้หวัน
Link : https://https://mgronline.com/around/detail/9640000075730
โดย ผู้จัดการออนไลน์ / 3 ส.ค.64