“ทหารสหรัฐฯ คนสุดท้าย เดินทางออกจากอัฟกานิสถาน ขณะที่ตาลีบันยิงปืนฉลองสนั่นกรุงคาบูล เข้ายึดสนามบินทันที”
วันนี้ ( 31 ส.ค. 64 )ทหารสหรัฐฯ คนสุดท้าย ที่ออกจากอัฟกานิสถาน คือพลอากาศตรี คริส ดอนนาฮิว ผู้บัญชาการกองพลทหารอากาศที่ 82 กำลังก้าวขึ้นเครื่องบินขนส่งแบบซี-17 เขาเป็นทหารสหรัฐฯ คนสุดท้าย ที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ภาพนี้เปิดเผยโดยกองทัพสหรัฐฯเอง
ด้านไฟล์ทเรดาร์24 เว็บไซต์ติดตามการบินของเครื่องบิน เปิดเผยภาพกราฟฟิก การติดตามเครื่องบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ หลายลำสุดท้าย กำลังบินออกจากสนามบินกรุงคาบูลเมื่อวานนี้
รอยเตอร์ รายงานว่า ก่อนที่ทหารสหรัฐฯ ชุดสุดท้ายจะเดินทางออกจากอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ ได้มีการทำลายทิ้งเครื่องบินรบมากกว่า 70 ลำ ยานเกราะอีกหลายสิบคัน และทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศใช้การไม่ได้อีกต่อไป โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐฯ นี้ ถูกใช้เป็นครั้งสุดท้ายในการยิงสกัดจรวด 5 ลูก ที่กลุ่ม “ไอซิส-เค” ยิงถล่มสนามบินฮาร์มิด คาร์ไซในกรุงคาบูล หมายสังหารทหารสหรัฐฯ แต่ไม่สำเร็จ
พลเอก แฟรงค์ แมคเคนซี แห่งกองทัพสหรัฐฯ เป็นผู้ประกาศสิ้นสุดสงครามอัฟกานิสถาน 20 ปีอย่างเป็นทางการ สงครามที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ระบุว่า สหรัฐฯ สูญเสียทหารกว่า 2,400 นายไปกับสงครามนี้ ที่เริ่มต้นตั้งปี 2001 เป็นต้นมา สหรัฐฯ สามารถอพยพพลเรือนออกจากอัฟกานิสถานได้ 123,000 คน รวมถึงชาวอเมริกัน 6,000 คน พลเอกแมคเคนซีระบุว่า เป็นภารกิจอพยพพลเรือนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ
นอกจากนี้ แม็คเคนซี ยังบอกด้วยว่า สหรัฐฯ จะสืบสวนสอบสวน กรณีกองกำลังสหรัฐฯ ใช้โดรนสังหารมือระเบิดติดรถฆ่าตัวตายที่คาดว่ากำลังเตรียมแผนโจมตีสนามบินคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น แต่กลับทำให้ครอบครัวพลเรือนชาวอัฟกันเสียชีวิตถึง 10 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 6 คน
สงคราม 20 ปีนี้ เริ่มต้นด้วยการโค่นกลุ่มตาลีบัน ผู้ปกครองอัฟกานิสถานในขณะนั้น และลงเอยด้วยการที่ตาลีบันกลับคืนสู่อำนาจตามเดิม ใช้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึง 4 คน ตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นสงครามนี้ ด้วยการส่งทหารสหรัฐฯ ไปยังอัฟกานิสถานในปี 2001 หลังเกิดเหตุวินาศกรรมช็อกโลก “9/11” คนที่ 2 คืออดีตประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ต้องจัดการกับสงครามอัฟกานิสถานทั้ง 2 สมัยที่เขาเป็นประธานาธิบดี โดยโอบาม่าสั่งเพิ่มทหารสหรัฐฯ คนที่ 3 คืออดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ประกาศจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน และสุดท้ายคือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โจ ไบเดน เป็นผู้กำหนดเส้นตายถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน 31 สิงหาคม
ตาลีบันฉลองใหญ่ ทหารอเมริกันพ้นดินแดน
ทันทีที่ทหารสหรัฐฯ คนสุดท้ายพ้นไปจากเขตแดนอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ เสียงปืนดังระรัวอย่างต่อเนื่องดังสนั่นขึ้นทั้งที่สนามบินฮาร์มิด คาร์ไซ และตามท้องถนนหลายสายทั่วกรุงคาบูล โดยตาลีบันยิงปืนฉลองอย่างดีใจ จนบางรายงานข่าวระบุว่า กระสุนที่ตาลีบันยิงออกไปเพื่อฉลองการถอนตัวของสหรัฐฯ นั้น อาจมากกว่ากระสุนที่ตาลีบันได้ใช้ไปในสงคราม 20 ปีเสียอีก
คารี ยูซุฟ โฆษกตาลีบัน ประกาศว่า ทหารสหรัฐฯ คนสุดท้ายได้ออกจากสนามบินกรุงคาบูลไปแล้ว และประเทศของเรา ได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์แล้ว
นักรบกลุ่มตาลีบัน พร้อมอาวุธ เข้ายึดสนามบินนานาชาติฮาร์มิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูลทันทีเมื่อวานนี้
ด้านองค์การการบินพลเรือนสหรัฐฯ หรือ FAA ประกาศห้ามเครื่องบินพลเรือนของสหรัฐฯ บินเหนือน่านฟ้าอัฟกานิสถานในช่วงเวลานี้ โดยระบุเหตุผลด้านความปลอดภัย
สหรัฐฯปิดสถานทูตในอัฟกานิสถาน
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงล่าสุดเช้าวันนี้ ว่า ภารกิจทางทหารของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน ได้ยุติลงแล้ว พร้อมประกาศเริ่มภารกิจบทใหม่ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับอัฟกานิสถาน โดยสหรัฐฯ จะใช้การทูตนำเป็นหลัก
บลิงเคนเผยว่า สหรัฐฯ ได้ถอนตัวแทนทางการทูตสหรัฐฯ ที่มีอยู่ในอัฟกานิสถาน ออกไปทั้งหมดแล้วเช่นกัน และจะย้ายไปจัดตั้งสำนักงานทางการทูตสำหรับอัฟกานิสถาน ในกรุงโดฮาแทน
ทั้งนี้ สหรัฐฯคาดว่ายังมีพลเมืองอเมริกันที่ตกค้างอยู่ในอัฟกานิสถานอีกราว 100-200 คน ซึ่งบลิงเคนระบุว่าสหรัฐฯจะทำให้ตาลีบันต้องรักษาสัญญาเรื่องการยอมปล่อยให้คนเหล่านั้นสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกอบด้วย 15 ประเทศ ลงมติเมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม) ก่อนวันเส้นตายถอนทหารเพียง 1 วัน ด้วยคะแนนสนับสนุน 13 เสียง โดยจีนและรัสเซียงดออกเสียง เรียกร้องให้ตาลีบันยึดมั่นในคำสัญญาของตัวเอง ที่จะปล่อยให้ชาวอัฟกัน สามารถเดินทางออกจากอัฟกานิสถานได้โดยเสรี
อย่างไรก็ตาม มตินี้ ไม่มีการพูดถึงการจัดตั้ง “เขตปลอดภัย” ในกรุงคาบูล ตามที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้เสนอ ให้จัดตั้ง “เขตปลอดภัย” ขึ้นโดยให้อยู่ภายใต้การดูแลของ UN เพื่อให้ปฏิบัติการอพยพคนและด้านมนุษยธรรมในคาบูล สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปลอดภัย
มติของคณะมนตรีความมั่นคงล่าสุด ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว อย่างใด เพียงแต่เรียกร้องให้ตาลีบัน ยึดมั่นในแถลงการณ์ของตาลีบันเอง ที่ให้ไว้เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมว่า ชาวอัฟกันสามารถจะเดินทางออกนอกประเทศได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการข้ามพรมแดนทางบกหรือทางอากาศ มติคณะมนตรีความมั่นคงนี้ ยังขอให้ตาลีบันอนุญาตให้ชาวอัฟกันและชาวต่างชาติทุกคน เดินทางออกจากอัฟกานิสถานได้อย่างปลอดภัยด้วย
ด้านผู้เชี่ยวชาญหลายคน ชี้ว่า คณะมนตรีความมั่นคงจำต้องปรับลดความแรงของร่างมติดังกล่าวลง รวมทั้งถ้อยคำที่เกี่ยวกับตาลีบันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้จีนกับรัสเซีย ใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ ร่างมตินี้ ในฐานะ 2 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง
———————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : TNNThailand / วันที่ 31 ส.ค.2564
Link : https://www.tnnthailand.com/news/world/89600/