อดีตนักโทษบริติชเผยเรื่องราวการหลบหนีออกจากคุกคลองเปรม โดยใช้เลื่อยตัดเหล็ก นิตยสารโป๊ และร่ม ก่อนถูกจับคุมตัวอีกหลายครั้งจนตัดสินใจเลิกทำธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติด
เดอะซัน รายงานสัมภาษณ์ เดวิด แมคมิลแลน ชาวอังกฤษ อดีตผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดถูกจับคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรมในปี 2536 และต้องโทษประหารชีวิต โดยเขาถูกจับกุมในย่านไชนาทาวน์ของกรุงเทพฯ และถูกตั้ง 2 ข้อหาค้าเฮโรอีนและยาเสพติด
เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกส่งตัวไปที่ “บางกอกฮิลตัน” ซึ่งเป็นคุกที่มีความปลอดภัยสูงสุด โดยมีผู้ต้องขังมากถึง 20,000 คน ผนังคอนกรีตที่ใช้ไฟฟ้าและคูเมืองขนาด 16 เมตร ที่ถูกเรียกอย่างแดกดันว่าบางกอกฮิลตัน เพราะล้อเลียนเรื่องการล็อกและความปลอดภัยที่คล้ายกับโรงแรมระดับห้าดาว
โดยเดวิดเล่าว่า สภาพเรือนจำค่อนข้างสกปรกและเขาจำได้ว่าห้องขังเต็มไปด้วยผู้ต้องขัง 150 คนที่ไม่มีเตียง มีห้องน้ำเพียงห้องเดียว เปิดไฟทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง มีเสียงรบกวนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนก็ถูกล่ามโซ่ไว้รอบข้อเท้า
วิธีเดียวที่จะอยู่รอดได้คือการติดสินบนผู้คุมและผู้ดูแล เดวิดจ่ายเงิน 200 ดอลลาร์ (6,700 บาท) เพื่อย้ายไปยังห้องขังที่กว้างมากขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน เขาได้ยินเรื่องการประหารนักโทษต่างชาติ ทำให้เขาใช้เวลา 18 เดือนพยายามคิดหาวิธีหลบหนี
เดวิดจำได้ว่าลักลอบนำใบเลื่อยวงเดือนเข้าไปในเรือนจำและสั่งให้ผู้สมรู้ร่วมคิดให้ซ่อนด้วยเทปพันสายไฟ ม้วนกระดาษ และห่อฟอยล์ใส่ไว้ในกล่องที่เต็มไปด้วยสเปรดและแยมที่แปลกใหม่ ซึ่งเขารู้ว่าของทั้งหมดจะต้องถูกยึดจึงให้ผู้สมรู้ร่วมคิดหาหนังสือโป๊มาด้วย
คืนหนึ่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2539 เดวิดรอดผ่านลูกกรงหน้าต่างเรือนจำด้วยการยกชั้นหนังสือขึ้นแล้วปีนออกไป จากนั้นเขาสร้างบันไดไม้ไผ่จากเชือกผูกรองเท้า เพื่อใช้ปีนข้ามกำแพงสูง
เขาให้สัมภาษณ์กับเดอะซันว่า “ผมสามารถเห็นรุ่งอรุณได้ในขณะที่ผมกำลังเดินข้ามกำแพงชั้นนอกและเพิ่งผ่านไฟฟ้าไปโดยมีอาการเสียวแปลบเล็กน้อยแล้วก็ตกลงไปในคูน้ำ จากนั้นผมจึงว่ายน้ำ
แต่ทว่าผมดันว่ายตรงไปที่เรือนพักของผู้คุม ผมเดินไปรอบ ๆ ก่อนจะสวมกางเกงสีกากี”
เดวิดหวังว่าเขาจะดูเหมือนเจ้าหน้าที่เรือนจำที่แอบย่องไปทำงานสายและซ่อนใบหน้าโดยเอาร่มขึ้นเหนือศีรษะ ขณะย่องผ่านหอสังเกตการณ์ที่เต็มไปด้วยเวรยามและพุ่งออกจากเรือนจำก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
เมื่อเป็นอิสระแล้ว เดวิดอยู่ในภารกิจขึ้นเครื่องบินออกจากประเทศไทย ก่อนหลบหนี เขาได้เตรียมหนังสือเดินทางปลอมจากเพื่อนในเรือนจำชาวจีน-ลาว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึง 1,200 ดอลลาร์ (40,000 บาท)
จากนั้นเขานั่งแท็กซี่ไปยังแฟลตแห่งหนึ่ง เพื่อรับหนังสือเดินทางปลอมและกระเป๋าเดินทาง ต่อมาเดินทางไปที่สนามบินซึ่งเขาไม่มีเงินมากพอจึงเลือกเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ ขณะอยู่บนเครื่องบิน สายการบินประกาศว่าเกิดความล่าช้าเนื่องจากมีผู้โดยสารมาสาย
ต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตระหนกมาก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามารุมล้อมเครื่องบิน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะจับกุมเขา แต่ไม่ทันการณ์ เครื่องบินเคลื่อนตัวออกจากสนามบินเรียบร้อยแล้ว
เดวิดอยู่ในรายชื่ออาชญากรสีแดงขององค์การตำรวจสากล ทำให้เขาหลบอยู่ในปากีสถานเป็นเวลา 2 – 3 ปี ซึ่งเขาทำงานให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่งและในที่สุดก็ถูกคุมขังในข้อหาลักลอบขนยาเสพติด
ต่อมาเขาพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัวจึงเดินทางกลับประเทศอังกฤษในปี 2542 ซึ่งเขาถูกจับกุมอีกครั้งในเมืองออร์พิงตัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอนในปี 2555 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีเฮโรอีน 35 กรัมเย็บซับในเสื้อเชิ้ตและพบยาเสพติดที่บ้าน
ขณะรับโทษในเรือนจำวอนด์สเวิร์ธ ทางการไทยได้เพิกถอนคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทำให้เดวิด พ้นโทษประหารชีวิต
นับตั้งแต่นั้นมา เดวิดได้พลิกชีวิตตัวเอง เลิกทำธุรกิจลักลอบขนยาเสพติด ชำระล้างชีวิตที่ก่ออาชญากรรม และเขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับอาชีพ 40 ปีของเขาในการค้ายาเสพติด โดย 20 ในนั้นถูกคุมขังในคุกที่เรียกว่า Unforgiving Destiny ซึ่งได้นำเสนอรายการทีวีเช่น Danny Dyer’s Deadliest Men
ตอนนี้เดวิดอายุ 65 ปี เขามาคิดดูแล้วว่าตอนนั้นเขาน่าจะใช้ชีวิตในวัยเยาว์ให้เป็นประโยชน์ และ “ละอายใจ” ที่เขาไม่ได้ทำอะไรดี ๆ เลยอย่างการเข้าไปพัวพันกับธุรกิจยาเสพติดที่เกือบทำให้เขาเสียชีวิตในคุก
By : The sun
————————————————————————————————————————————
ที่มา : khaosod / วันที่เผยแพร่ 28 ก.ย.2564
Link : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_6645100