สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจและประชาชนให้ความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นของผู้กำกับการ สถานีตำรวจแห่งหนึ่งกับพวกรวม 7 คน ร่วมกันเอาถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องหาในคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดในสถานีตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ มีประชาชนพลุกพล่าน และมีกล้องวงจรปิด
ต่อมามีข่าวแพร่สะพัดออกมา รวมถึงมีคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้วันที่เกิดเหตุ จึงทำให้ประชาชนรวมทั้งสื่อมวลชน ตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงพฤติการณ์ของผู้กำกับการสถานีตำรวจและพวกดังกล่าวมากมาย จนกระทั่งศาลอนุมัติออกหมายจับ และจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ครบทั้ง 7 คน
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น รวมถึงยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาล เนื้อหาตามคำร้องได้บรรยายพฤติการณ์ของการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 157 มาตรา 288 มาตรา 289 และมาตรา 309 ทั้งนี้ การตั้งข้อกล่าวหาอาจจะเปลี่ยนแปลงไป หรือ อาจจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกก็ได้ ขึ้นอยู่กับการสืบสวนสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐานในสำนวนคดี
ในคดีนี้มีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่ง คือ หลังจากก่อเหตุแล้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจดังกล่าว มีคำสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ลบข้อมูลในเครื่องบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิด ตลอดจนให้ถอดกล้องวงจรปิดภายในสถานีตำรวจทั้งหมด การกระทำดังกล่าวจะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร
ข้อมูลในเครื่องบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิด ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการคลี่คลายคดี เป็นข้อมูลในการบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่เกิดเหตุ ดังนั้น การทำลายพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง จึงมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ผู้ใดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตราแห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560)
แต่อาจจะไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ เนื่องจากผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล การถอดกล้องวงจรปิดที่สถานีตำรวจจึงไม่ใช่การกระทำใดๆ แก่สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่า ผู้ตายเสียชีวิตที่สถานีตำรวจหรือเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกันแน่
ป.วิ.อาญา มาตรา 150 ทวิ ผู้ใดกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป เว้นแต่ จำเป็นต้องกระทำ เพื่อป้องกันอันตรายแก่อนามัยของประชาชน หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำโดยทุจริต หรือเพื่ออำพรางคดีผู้กระทำ ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษ ที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
สุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นตัวอย่างสำคัญอีกคดีหนึ่ง ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านจะต้องใช้อำนาจหน้าที่ตามสมควรแก่พฤติการณ์ และเป็นคดีเตือนใจให้ระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้นครับ
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
ที่มา : Facebook: ทนายเจมส์ LK / Instagram: james.lk
————————————————————————————————————————
โดย : ไทยรัฐ ออนไลน์ / 31 สิงหาคม 2564