พอล รูเซซาบากินา วีรบุรุษผู้ช่วยชีวิตผู้คนมากกว่า 1,200 คนจากการโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาซึ่งเรื่องราวถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง “Hotel Rwanda” โดนศาลรวันดาพิพากษาจำคุก 25 ปีเมื่อวันจันทร์ จากความผิดข้อหาก่อการร้าย
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า รูเซซาบากินา วัย 67 ปีในปัจจุบัน ถูกจับกุมคุมขังเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ภายหลังเครื่องบินที่เชื่อว่ามีจุดหมายปลายทางที่บุรุนดีกลับมาลงจอดที่กรุงคิกาลี โดยเขาถูกตั้งข้อกล่าวหา 9 ข้อเกี่ยวกับการก่อการร้าย ทั้งการก่อตั้งกองกำลังติดอาวุธที่อยู่เบื้องหลังการยิงโจมตี, ปาระเบิดมือและวางเพลิงในรวันดาเมื่อปี 2561 และ 2562
ศาลรวันดาเริ่มพิจารณาคดีของเขาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ แต่รูเซซาบากินาซึ่งได้สัญชาติเบลเยียมและถือกรีนการ์ดของสหรัฐ บอยคอตศาลนับแต่เดือนมีนาคม โดยกล่าวหาว่าศาล “ไม่ยุติธรรมและขาดความเป็นอิสระ”
ในวันจันทร์ ผู้พิพากษาเบียทริซ มูกามูเรนซี แห่งศาลสูงในกรุงคิกาลี มีคำพิพากษาว่า เขามีความผิดตามข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเขาก่อตั้งองค์กรก่อการร้ายที่โจมตีรวันดาและให้เงินสนับสนุนกิจกรรมของผู้ก่อการร้าย
อัยการรวันดาเสนอให้ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลเห็นว่าเขาเพิ่งกระทำความผิดครั้งแรกจึงควรลดโทษจำคุกเหลือ 25 ปี รูเซซาบากินาและทนายความของเขาไม่ได้มาฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ และเชื่อว่าเขาน่าจะอุทธรณ์คำตัดสิน
อดีตผู้จัดการโรงแรมมิลล์คอลลินส์ผู้นี้เคยปกป้องชีวิตแขกของโรงแรมมากกว่า 1,200 คน ในช่วงเวลาที่เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ข้ามชนเผ่าเมื่อปี 2537 ที่มีคนเสียชีวิตถึง 800,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าทุตซี วีรกรรมของเขาถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยมีดอน ชีเดิล รับบทบาทเป็นตัวเขา
ต่อมา รูเซซาบากินาใช้ความมีชื่อเสียงของเขาเคลื่อนไหวต่อต้านประธานาธิบดีพอล คากาเม โดยโจมตีอดีตผู้นำกบฏที่ยุติการล้างเผ่าพันธุ์คราวนั้นว่าเป็นเผด็จการ ครอบครัวของเขากล่าวว่า ข้อกล่าวหาเขาเป็นการเอาคืนของรัฐบาล แต่คากาเมปฏิเสธคำกล่าวหานี้ โดยอ้างว่ารูเซซาบากินาไม่ได้โดนจับกุมเพราะความมีชื่อเสียง แต่เป็นเพราะมีคนเสียชีวิตจากการกระทำของเขา
รัฐบาลรวันดากล่าวหารูเซซาบากินาว่าสนับสนุนกลุ่มกบฏแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ (เอฟแอลเอ็น) ที่ก่อเหตุโจมตีเมื่อปี 2561 และ 2562 ทำให้มีคนเสียชีวิต 9 คน แต่รูเซซาบากินาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่าเขาเพียงเป็นผู้ก่อตั้งขบวนการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยรวันดา (เอ็มอาร์ซีดี) ที่เป็นกลุ่มฝ่ายค้าน ซึ่งมีเอฟแอลเอ็นเป็นปีกติดอาวุธ
ผู้พิพากษามูคามูเรนซีกล่าวว่า เอ็มอาร์ซีดี-เอฟแอลเอ็นก่อการร้าย และเอ็นอาร์ซีดีไม่สามารถแยกตัวออกจากการดำเนินการทางทหารได้.
————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยโพสต์ / วันที่เผยแพร่ 20 ก.ย.2564
Link : https://www.thaipost.net/main/detail/117344