ผลสำรวจความคิดเห็นสาธารณะล่าสุด ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่ตอบคำถาม ต้องการเห็นชาวอัฟกันที่เคยทำงานช่วยเหลือทหารกองทัพสหรัฐ และพันธมิตรนาโต ในสงครามอัฟกานิสถาน ได้รับอนุญาตให้ตั้งรกราก เริ่มชีวิตใหม่ในดินแดนอเมริกา
มีเพียง 9% ของชาวอเมริกัน ที่คัดค้าน
โพลสำรวจโดยสำนักข่าวเอพี-ศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะ เอ็นโออาร์ซี พบว่า 72% ของชาวอเมริกัน ต้องการให้รัฐบาลสหรัฐอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัย แก่ชาวอัฟกันที่เคยเป็นล่ามแปลภาษา หรือ ทำงานอื่น ๆ ช่วยเหลือทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว หากกลุ่มคนเหล่านี้ผ่านการตรวจสอบด้านความมั่นคง
ส่วนผลสำรวจคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ อดีตทหารผ่านศึกสงครามอัฟกานิสถาน และทีมงานอพยพชาวอัฟกันออกนอกประเทศ หลังกลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูล เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มคนเหล่านี้มองว่าเป็น “หน้าที่” และ “ความจำเป็น” ของทางการสหรัฐ ในการช่วยเหลือชาวอัฟกัน ที่เคยช่วยเหลือทหารสหรัฐ ในช่วง 20 ปีของการทำสงครามกับกลุ่มตาลีบันและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ รวมถึง กลุ่มไอเอส
ชาวอัฟกันเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อชีวิตสูงมาก เนื่องจากแต่ละคนถูกกลุ่มตาลีบันหมายหัวไว้หมด ในช่วงก่อนที่จะกลับมายึดครองอัฟกานิสถานเกือบทั้งประเทศ
จากรายงานของสำนักข่าวเอพี แพทริค แร็กโลว์ ผอ.องค์กรการกุศลคาทอลิก ในเมืองโอคลาโฮมาซิตี ซึ่งเตรียมต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวอัฟกัน อย่างน้อย 1,800 คน กล่าวว่า ได้รับข้อเสนอจากชุมชนหลายร้อยราย ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนผู้อพยพชาวอัฟกัน
เกษตรกรและชาวไร่ในรัฐโอคลาโฮมาหลายราย เสนอบริจาคที่ดินเพื่อให้ครอบครัวชาวอัฟกันสร้างบ้านอยู่อาศัย และทำกิน
ช่วงคาบเกี่ยว กลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูล เมื่อกลางเดือน ส.ค. มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐเปิดการเจรจากับ 3 ประเทศแถบเอเชียหลาง ที่อยู่ติดกับอัฟกานิสถานทางเหนือ เพื่อขอให้รับชาวอัฟกันเหล่านี้ เข้าไปพักพิงชั่วคราว หรือถาวรในประเทศ ทำให้เกิดกระแสวิตก ชาวอัฟกันเหล่านี้อาจไม่ได้ลี้ภัยไปอยู่อเมริกา ตามความต้องการที่แท้จริง
แมตต์ เซลเลอร์ ทหารผ่านศึกสงครามอัฟกานิสถาน ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือทหารผ่านศึก No One Left Behind กล่าวว่า โดยส่วนตัวได้เห็นความสนับสนุนวงกว้างในกลุ่มชาวอเมริกัน สำหรับการต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวอัฟกัน
ประเด็นการรับชาวอัฟกันเข้าไปตั้งรกราก ได้รับการสนับสนุนจากชาวอเมริกัน ทุกฝ่ายนโยบายการเมือง มากที่สุดนับตั้งแต่กระแสสนับสนุนรัฐบาล ในการแก้แค้นเอาคืนกลุ่มก่อการร้าย ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11
และประเด็นนี้ สมาชิกสภาคองเกรส ทั้งพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต ต่างเห็นด้วยช่วยกัน ผลักดันให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อพยพชาวอัฟกันที่ชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง ออกจากอัฟกานิสถานมากขึ้นอีก
เซลเลอร์และคณะทำงาน รู้สึกไม่สบายใจ ที่รัฐบาลสหรัฐอพยพชาวอัฟกันออกนอกอัฟกานิสถานเพียงน้อยนิด จากทั้งหมดหลายหมื่นคน ที่มีสิทธิได้รับวีซ่าพิเศษสำหรับผู้อพยพ
การสำรวจยังพบอีกว่า ชาวอเมริกันที่ตอบคำถามเสียงข้างมาก เห็นด้วยหากรัฐบาลจะรับชาวอัฟกันที่มีความเสี่ยงภัยอื่น ๆ เข้าไปตั้งรกรากในอเมริกา แม้จะไม่ใช่กลุ่มคนที่เคยทำงานให้ทหารสหรัฐ โดยผู้สนับสนุนมี 42% ส่วนคัดค้าน 26% ส่วนอีก 31% บอกไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่คัดค้าน
ประเด็นนี้ ทั้งนักการเมืองและประชาชนทั่วไปที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต สนับสนุน 57% คัดค้าน 20% อีก 23% ไม่คัดค้านและไม่สนับสนุน ส่วนพรรครีพับลิกันสนับสนุน 27% คัดค้าน 38% อีก 35% ไม่ขอออกความคิดเห็น
แอนดรูว์ เดวิส ทหารผ่านศึก และสมาชิกพรรครีพับลิกัน วัย 62 ปี ชาวเมืองแกลโลเวย์ รัฐโอไฮโอ กล่าวว่า เขาให้การสนับสนุนเต็ม หากรัฐบาลจะรับชาวอัฟกันที่ตกอยู่ในความเสี่ยง เข้าไปตั้งรกรากใหม่ในอเมริกา ทั้งกลุ่มที่เคยทำงานช่วยเหลือทหารสหรัฐ และกลุ่มที่ไม่ได้ช่วย
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทางการสหรัฐต้องตรวจสอบ และคัดกรองประวัติของกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เป็นภัยต่อความมั่นคงของอเมริกาในอนาคต.
บทความโดย เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ :REUTERS
—————————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 11 ต.ค.2564
Link : https://www.dailynews.co.th/articles/361328/