ศาลพม่าปฏิเสธล่ามให้ที่ปรึกษาชาวออสเตรเลียของซูจีระหว่างไต่สวนคดีความลับราชการ อ้างเหตุผลความปลอดภัย

Loading

  เอพี – ศาลพม่ามีคำตัดสินไม่อนุญาตให้ล่ามแปลภาษาพม่า-อังกฤษเข้าร่วมในการพิจารณาคดีที่กำลังจะมีขึ้นกับ ฌอน เทอร์เนลล์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ที่ถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายความลับราชการ เทอร์เนลล์กำลังถูกไต่สวนร่วมกับอองซานซูจี ผู้นำที่ถูกปลดจากตำแหน่ง และอดีตสมาชิกคณะรัฐมนตรีอีก 3 คน ที่ถูกตั้งข้อหาคดีเดียวกัน เทอร์เนลล์ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของซูจีและถูกจับกุมพร้อมกับจำเลยร่วมของเขาหลังรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของซูจีถูกกองทัพขับไล่ในเดือน ก.พ. การละเมิดกฎหมายความลับราชการมีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี กฎหมายยุคอาณานิคมที่ทำให้การครอบครอง รวบรวม บันทึก เผยแพร่ หรือแบ่งปันข้อมูลของรัฐที่เป็นประโยชน์ต่อศัตรูทางตรงหรือทางอ้อมเป็นความผิดอาญา การประกาศคำตัดสินที่ห้ามล่ามแปลภาษาเข้าร่วมการพิจารณาคดีมีขึ้นก่อนการไต่สวนคดีที่ศาลพิเศษในกรุงเนปีดอ เย ลิน อ่อง ทนายความของเทอร์เนลล์ กล่าว โดยจำเลยทั้ง 5 คน อยู่ร่วมฟังการไต่สวนที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะและสื่อ เย ลิน อ่อง กล่าวว่า อัยการได้ขอให้ศาลไม่อนุญาตล่ามเข้าร่วมในกระบวนการ และผู้พิพากษาเห็นพ้องกับคำร้องดังกล่าว โดยอ้างถึงเหตุผลด้านความปลอดภัย และรายละเอียดที่แน่นอนของความผิดที่เทอร์เนลล์ถูกกล่าวหาก็ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่สถานีโทรทัศน์พม่าอ้างคำแถลงรัฐบาลที่ระบุว่า นักวิชาการชาวออสเตรเลียได้เข้าถึงข้อมูลทางการเงินของรัฐที่เป็นความลับ และพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ “เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่ไม่มีล่ามแปลให้กับเขา (เทอร์เนลล์) ที่ศาล เรากำลังหารือกับเจ้าหน้าที่จากสถานทูตออสเตรเลีย” เย ลิน อ่อง กล่าว คดีนี้เป็นหนึ่งในหลายข้อหาที่ซูจีถูกฟ้อง ซึ่งถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้เธอเสียชื่อเสียงเพื่อขัดขวางเธอจากการกลับลงเล่นการเมือง.…

โซลูชั่นไร้รหัสผ่าน (Passwordless Solutions) vs ความปลอดภัยที่ปรับตัวตามสถาการณ์ (Adaptive Security)

Loading

  โซลูชั่นไร้รหัสผ่าน (Passwordless Solutions) vs ความปลอดภัยที่ปรับตัวตามสถานการณ์ (Adaptive Security) : อะไรคือการป้องกันที่ดีที่สุดจากการโจมตีทางไซเบอร์ในช่วง Covid-19   Pawel Bulat, ผู้จัดการแผนกความปลอดภัยทางไซเบอร์ บริษัท Comarch การระบาดของโรค Covid-19 ได้สร้างความท้าทายใหม่ๆต่อธุรกิจ ความท้าทายส่วนใหญ่ได้เร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของธุรกิจต่างๆ อย่างไรก็ตามอาชญากรรมทางไซเบอร์ (cyber criminal) สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้เร็วกว่าองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นความปลอดภัยทางไซเบอร์ (cybersecurity) จึงกลายเป็นเรื่องหลักที่น่ากังวล มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware), การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตเพื่อขอข้อมูลที่สำคัญจากเหยื่อ (Phishing), มัลแวร์ (Malware) และการบิดเบือนข้อมูล (Disinformation) เป็นเครื่องมือทั่วไปที่อาชญากรรมทางไซเบอร์ใช้ในช่วงที่เกิดโรคระบาด ในปีที่แล้วจำนวนการละเมิดข้อมูลและการบุกรุกระเบียนข้อมูล รวมถึงมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) มีจำนวนสูงที่สุดตั้งแต่เคยมีมา มีการรายงานจาก ZDNet ว่า “ในปี 2020 เพียงปีเดียว มีการบุกรุกระเบียนข้อมูลมากกว่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา” ขณะเดียวกันจำนวนการโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ได้เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 60%   ต้นทุนที่แท้จริงของจุดอ่อนของความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตัวเลขเหล่านี้ได้เปลี่ยนเป็นการสูญเสียเงินจำนวนมาก…

“นาโต” ขับนักการทูตรัสเซีย 8 คน แฉทำงานข่าวกรองอย่างลับๆ

Loading

  “นาโต” – วันที่ 7 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ประกาศขับนักการทูตรัสเซียประจำนาโต 8 คน โดยระบุว่าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียอย่างลับๆ พร้อมประกาศลดจำนวนคณะผู้แทนทางทูตรัสเซียประจำสำนักงานใหญ่ของนาโตในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมลงครึ่งหนึ่ง จาก 20 คน เหลือเพียง 10 คน ตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป     นับเป็นครั้งแรกที่นาโตปฏิบัติต่อรัสเซียเช่นนี้ ตั้งแต่เคยขับนักการทูตรัสเซีย 7 คน ออกจากคณะผู้แทนทางทูตรัสเซีย และลดจำนวนคณะผู้แทนทางทูตรัสเซียประจำนาโตจาก 30 คน เหลือ 20 คน หลังเหตุการณ์ช็อกโลกจากการลอบวางยาพิษนายเซียร์เกย์ สกรีปัล สายลับสองหน้าชาวรัสเซีย ในเมืองซอลส์บรีของอังกฤษ เมื่อปี 2561 “เราสามารถยืนยันได้ว่า เราถอดถอนการรับรองสมาชิกคณะผู้แทนทางทูตรัสเซียประจำนาโต 8 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียที่ไม่ได้แสดงตัวแล้ว” เจ้าหน้าที่นาโตกล่าวว่า “นโยบายของนาโตต่อรัสเซียยังไม่เปลี่ยนแปลง เราเสริมความแข็งแกร่งในการป้องปรามและการป้องกันของเราเพื่อตอบโต้ต่อการกระทำก้าวร้าวของรัสเซีย ขณะเดียวกัน เรายังเปิดกว้างสำหรับการเจรจาที่มีความสำคัญ”     อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซานเดอร์…

ปอท.ซิวแฮกเกอร์ ดูดข้อมูล-ขายเว็บมืด ลูกค้าบริษัท 6 แสนชื่อ

Loading

    ตำรวจ บก.ปอท. รวบแฮกเกอร์หนุ่มแฮ็กรายชื่อลูกค้าบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหารออกเร่ขายทางดาร์กเว็บ 6 แสนรายชื่อ ในราคากว่า 3 แสนบาท อ้างหาเงินเล่นพนันออนไลน์ หลังบริษัทผู้เสียหายตรวจพบประกาศขายรายชื่อดังกล่าวบนเว็บไซต์ รวบแฮกเกอร์หนุ่มแฮ็กรายชื่อลูกค้าบริษัทใหญ่ออกขาย โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ต.ชัยยุทธ เชียงสอน สว.กก.1 บก.ปอท. นำกำลังจับกุมนายวรพล ฤทธิเดช อายุ 27 ปี ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ หลังนำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 561/2564 ลง วันที่ 5 ต.ค. เข้าตรวจค้นห้องเลขที่ 78/1121 ชั้น 32 อาคารเคนชิงตัน ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ ตรวจยึดสิ่งของที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ โน้ตบุ๊ก…

บทเรียนจากสองตุลา

Loading

  วันที่ 6 ตุลา 19 เวียนมาครบอีกครั้งหนึ่ง สัปดาห์ต่อไปก็จะครบรอบเหคุการณ์ 14 ตุลา 16   ผู้อ่านหลายคนเกิดไม่ทันเหตุการณ์สองตุลาที่ว่า ส่วนใหญ่ได้อ่าน ได้ฟัง จากหนังสือและจากพ่อแม่ญาติพี้น้อง บางคนมองอย่างเสียดายว่า จากเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุขกลับจบลงด้วยเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความเศร้า จาก 14 ตุลา 16 สู่ 6 ตุลา 19 เพียงสามปีที่ผ่านไป ทำไมผลที่ออกมากลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ   แม้เป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ แต่อดีตก็เป็นบทเรียนที่เราควรศึกษาไว้ โดยวางใจที่ตรงกลาง ไม่เอาจิตไปผูกพันกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 40 ปีที่ผ่านมา คนที่เกี่ยวข้องได้ตายไปแล้วหลายคน จากวัยหนุ่มวัยสาว วัยกลางคน วัยชรา ที่ให้เวลาทบทวนตนเอง ทบทวนเหตุการณ์ผ่านมุมมองหลายด้าน มองทั้งเราและเขา แล้วหาบทสรุป แต่จะไม่มีบทสรุปอะไรที่ถูกใจเราเลย ถ้าใช้อารมณ์ ความเชื่อของตนแต่ฝ่ายเดียวเป็นสิ่งตัดสิน   ถ้าเราเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง มองแต่มุมมองของตนเอง ตุลาคมแต่ละปีก็จะยังคงเป็นตุลาคมที่เต็มไปด้วยวาทะความโกรธแค้น ความเกลียดชัง ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น จากกลุ่มคนสองฝ่ายที่ส่งมอบมรดกความเกลียดชัง ความโกหกหลอกลวง ให้กับลูกหลานของตนต่อไป…

ไฟไหม้อาคารโรงไฟฟ้าพระนครใต้ สาเหตุสะเก็ดไฟกระเด็นถูกน้ำมัน

Loading

  เกิดเพลิงไหม้ภายในโรงไฟฟ้าพระนครใต้ เป็นอาคารร้างที่ยกเลิกการใช้งานแล้วอยู่ระหว่างการรื้อถอน คาดคนงานของบริษัทที่มารับเหมาตัดเครื่องจักรใช้หัวแก๊สตัดเหล็ก และสะเก็ดไฟไปถูกน้ำมันเครื่องจักร เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 64ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สุมทรปราการ ซึ่งเป็นอาคารร้างที่ยกเลิกการใช้งานแล้ว และอยู่ระหว่างการรื้อถอน คาดว่าคนงานของบริษัทที่มารับเหมาตัดเครื่องจักรกำลังใช้หัวแก๊สตัดเหล็กและสะเก็ดไฟไปถูกน้ำมันเครื่องจักรจึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ และอยู่ในระหว่างการดับเพลิง       ———————————————————————————————————————————— ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ                / วันที่เผยแพร่ 8 ต.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/964697