รอยเตอร์ – มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กเปิดเผยล่าสุด ปักกิ่งพยายามแทรกซึมสถาบันการศึกษาชั้นสูงโลกตะวันตกเพื่อต้องการได้เทคโนโลยีพลเรือนที่สามารถถูกนำใช้ในการทหารได้
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (18 พ.ย) ว่า นีลส์ โครเออร์ (Niels Kroer) หัวหน้าแผนกชีววิทยาประจำมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน (University of Copenhagen) ชื่อดังของเดนมาร์กเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่า ศาสตราจารย์ เกาเจีย จ้าง (Guojie Zhang) ทำงานให้กับกองทัพปักกิ่ง โดยศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนผู้นี้แอบทำการศึกษาวิจัยทางพันธุกรรมให้กับกองทัพจีน
ซึ่งนี่ถือเป็นตัวอย่างล่าสุดที่ปักกิ่งพยายามใช้ช่องทางแทรกซึมสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยโลกตะวันตก เป็นต้นว่าในสาขาทางยุทธศาสตร์ที่มีความอ่อนไหวด้านชีวะวิทยาเพื่อล้วงความลับเทคโนโลยีพลเรือนระดับสูงที่สามารถถูกนำมาใช้ในทางการทหารได้
ศาสตราจารย์ เกาเจีย จาง (Guojie Zhang) ทำการวิจัยพันธุกรรมร่วมกับกองทัพปักกิ่งในการศึกษาสมองลิงในระดับอัลติจูดสูงเพื่อพัฒนายาตัวใหม่ป้องกันสมองถูกทำลายซึ่งถือเป็นภารกิจกองทัพจีนต้องการให้กองกำลังปฎิบัติการอยู่ในพื้นที่ราบสูง
จางซึ่งเป็นผู้วิจัยร่วมของผลงานการวิจัยภายใต้ชื่อ Neuroprotectants attenuate hypobaric hypoxia-induced brain injuries in cynomolgus monkeysร่วมกันกับพลตรีคนหนึ่งของกองทัพจีนเมื่อเดือนมกราคมปี 2020 โดยเป็นผลงานที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2020 ซึ่งช่วงระยะเวลาการศึกษาถูกตีพิมพ์นั้นทางมหาวิทยาลัยไม่ทราบว่า งานวิจัยชิ้นนี้ทำร่วมกับนักวิจัยจากสถาบันวิจัยทางการทหารกองทัพจีน
อย่างไรก็ตามจางยืนยันว่า เขาไม่ได้เปิดเผยความเกี่ยวข้อง กับกองทัพปักกิ่งให้กับมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนให้รับทราบเพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้กำหนดให้นักวิจัยต้องเปิดเผยชื่อผู้วิจัยร่วมของงานวิจัยวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
รอยเตอร์ชี้ว่า จางยังทำงานให้กับบริษัทบีจีไอ กรุ๊ป ( BGI Group)ซึ่งเป็นบริษัทไฮเทคที่มีฐานอยู่ในเมืองเสิ่นเจิ้น โดยทางบริษัทให้ทุนหลายสิบทุนแก่นักวิจัยของมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนและยังมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในยุโรปภายในแคมปัสของมหาวิทยาลัย
โดยจางและลูกศิษย์ 1 คนที่ติดตามเขาทำงานให้กับกองทัพปักกิ่งสำหรับการศึกษาการทำงานของสมองลิงในสภาพระดับอากาศที่บางเบาในที่สูงและคิดค้นยาป้องกันสมองถูกทำลายถูกรายงานต่อสาธารณะโดยรอยเตอร์เป็นที่แรกและเป็นการแสดงให้เห็นถึงว่า ปักกิ่งกำลังตามไล่ล่าเทคโนโลยีชีวภาพอย่างไรและกำลังกลายเป็นปัญหาสำหรับสถาบันการศึกษาชั้นสูงในยุโรป
แต่ทว่าในสหรัฐฯ พบว่า ความวิตกนี้มีอย่างมากในสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากการวิตกว่าจะมีการส่งข้ามเทคโนโลยีชั้นนำที่อ่อนไหวง่ายไปให้กับกองทัพปักกิ่งในที่สุด
ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่ากำลังอยู่ระหว่างสร้างคำแนะนำป้องกันการแทรกแซงจากต่างชาติต่อสถาบันระดับอุดมศึกษายุโรป คล้ายกับที่ออสเตรเลียเสนอประกาศบังคับใช้
โดยสถาบันเอเชียศึกษาไลเดน ( Leiden Asia Centre) ของเนเธอร์แลนด์พบว่า มี 5 ประเทศอย่างน้อยในยุโรปที่มีความวิตกต่อความเสี่ยงในการร่วมมือการวิจัยกับจีน โดยมีบางมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนมีความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์กับจีนมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้พบว่ามหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนและองค์กรฟาวเดชันยักษ์ใหญ่เดนมาร์ก 2 แห่งที่ได้ให้เงินทุนวิจัยบางส่วนแก่ศาสตราจารย์จ้างกล่าวว่า พวกเขาค้นพบว่ากองทัพจีนเกี่ยวข้องเกิดขึ้นหลังจากที่มีหนึ่งในองค์กรเหล่านี้ได้รับเครดิต “อ้างชื่ออย่างผิดพลาด” ในผลงานการวิจัยสมองลิงซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับเงินทุนวิจัยจากมหาวิทยาลัยกองทัพจีน
ทั้งนี้สถาบันวิทยาศาสตร์อคาเดมีของจีน (Chinese Academy of Science) ที่จางมีห้องแล็บการวิจัยทางพันธุกรรมตั้งอยู่ได้ได้แสดงความเห็นถึงการวิจัยสมองลิงของจางในเวลานั้นว่า “ความเสียหายของสมองและการเสียชีวิตที่เกิดมาจากละติจูดระดับสูงบนที่ราบสูงทิเบตนั้นเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรงต่อการป้องกันประเทศจีน”
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 18 พ.ย.64
Link : https://mgronline.com/around/detail/9640000114634