ภาพจาก NSO Group
บริษัท NSO Group จากอิสราเอล ผู้สร้างมัลแวร์ Pegasus ใช้เจาะ iPhone กลายเป็นข่าวใหญ่ช่วงปลายปีนี้ หลังโดนสหรัฐอเมริกาสั่งแบนห้ามทำการค้าด้วย ตามด้วยการโดนแอปเปิลฟ้องร้อง และส่งอีเมลเตือนผู้ใช้ที่มีความเสี่ยงจาก Pegasus
หนังสือพิมพ์ Financial Times รายงานเบื้องหลังเหตุการณ์ที่ทำให้ NSO Group โดนสหรัฐอเมริกาแบน เป็นเพราะมีลูกค้าของ NSO ในประเทศยูกันดานำ Pegasus ไปเจาะโทรศัพท์ของนักการทูตสหรัฐในยูกันดา 11 คน
ที่ผ่านมา NSO เสนอขาย Pegasus ให้หน่วยงานภาครัฐในหลายประเทศ โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามนำไปใช้กับโทรศัพท์ที่เป็นหมายเลขของสหรัฐ แต่กรณีนี้ โทรศัพท์ที่ถูกเจาะใช้หมายเลขของยูกันดา (แต่คนใช้เป็นนักการทูตสหรัฐในยูกันดา) กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สหรัฐไม่พอใจและลงโทษ NSO Group ด้วยการสั่งแบนอย่างเป็นทางการ
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าใครในยูกันดาเป็นคนใช้ Pegasus ไปแฮกนักการทูตสหรัฐ แต่ Financial Times ก็รายงานข้อมูลว่า NSO Group ขาย Pegasus ให้กับคณะของ Muhoozi Kainerugaba บุตรชายของประธานาธิบดียูกันดา
การสั่งแบนของสหรัฐทำให้ NSO ไม่สามารถซื้อสินค้าไอทีจากบริษัทสัญชาติอเมริกันได้ ซึ่ง NSO ใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Dell , เราเตอร์จาก Cisco รวมถึงพีซีที่ใช้ Windows แต่ยังไม่ชัดว่าผลในระยะยาวจะเป็นอย่างไร การสั่งแบนยังทำให้ซีอีโอคนใหม่ Itzik Benbenisti ลาออกใน 2 สัปดาห์ถัดมา และอดีตซีอีโอ Shalev Hulio ต้องกลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง
NSO Group ถือเป็นหัวหอกของบริษัทไอทีอิสราเอล และอดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอล Benjamin Netanyahu ก็เคยใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการทูตกับประเทศต่างๆ แต่เมื่อ NSO ไปล้ำเส้นพันธมิตรของอิสราเอลอย่างสหรัฐอเมริกาซะเอง (แม้ไม่ได้เป็นคนแฮกโดยตรง) ทำให้ NSO อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เพราะกลายเป็นชนวนขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐ
ที่มา – Financial Times via Ars Technica
ที่มา : blognone / วันที่เผยแพร่ 22 ธ.ค.2564
Link : https://www.blognone.com/node/126419