Google: การฟ้องคดีเพื่อหยุดมัลแวร์

Loading

        Google ได้ยื่นฟ้องต่อศาล District Court ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำเขต Southern District of New York เป็นคดีแรกที่ Google เอาเรื่องกับ botnet และเป็นคดีสำคัญที่จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์       เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา Google ได้ยื่นฟ้องแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย 2 คนและบุคคลไม่ทราบชื่ออีก 17 คนเป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันใช้ botnet เข้าไปก่อภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยใช้มัลแวร์ชื่อ Glupteba โดยถูกปล่อยไว้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ให้ดาวน์โหลดฟรี ในเว็บที่ดูภาพยนต์ streaming รวมทั้งเว็บ YouTube ปลอม เป็นต้น       Glupteba เป็นมัลแวร์ที่เมื่อแฝงตัวเข้าไปในคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็จะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์นั้นให้ทำหน้าที่เป็น botnet คือ เป็นตัวที่แพร่กระจายมัลแวร์ต่อไปได้ Botnet ของ…

อุกอาจ! ส.ส.สหรัฐฯ โดนเอง เจอจี้ชิงรถยนต์กลางวันแสกๆ หลังประชุมเสร็จ คนร้ายหลบหนีลอยนวล

Loading

  เอฟบีไอ และตำรวจเร่งตามล่าผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ก่อเหตุใช้ปืนปล้นชิงรถยนต์ของ แมรี เกย์ สแกนลอน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (22 ธ.ค.) ณ ลานจอดรถแห่งหนึ่งในฟิลาเดลเฟีย หลังเธอเสร็จสิ้่นการประชุมกับบรรดาเจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตตั้งรายอื่นๆ จากการเปิดเผยของโฆษกส่วนตัวและตำรวจ สแกนลอน จากพรรคเดโมแครต ส.ส.เขตรัฐสภาที่ 5 ของรัฐเพนซิลเวเนียไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ในเหตุจี้ปล้นชิงรถยนต์ตอนกลางวันแสกๆ ซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เธอกำลังเดินไปยังรถเอสยูวีของเธอ แต่ระหว่างนั้นจู่ๆ ชายมีอาวุธ 2 คน อายุราวๆ 20 ถึง 30 ปี ได้เดินตรงเข้ามาหา ผู้ต้องสงสัยใช้ปืนจี้สั่งให้เธอมอบกุญแจรถให้และเธอก็ยอมแต่โดยดี จากนั้นชายคนหนึ่งขับรถของเธอออกไป ส่วนอีกคนขึ้นไปบนรถเอสยูวีอีกคันแล้วขับตามไป หลบหนีไปจากสถานที่ก่อเหตุ ข้อมูลของตำรวจระบุ ตำรวจเปิดเผยว่า ของใช้ส่วนตัวและข้าวของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ สแกนลอน หลายรายการอยู่ในรถยนต์ที่ถูกขโมย เจ้าหน้าที่ระบุต่อว่า เวลานี้กรมตำรวจฟิลาเดลเฟียกำลังทำงานร่วมกับเอฟบีไอ และคิดว่าเอฟบีไอจะรับหน้าที่เป็นแกนนำการสืบสวนคดีนี้ เนื่องจากเหยื่อเป็นสมาชิกสภาครองเกรส ในถ้อยแถลงสั้นๆ ที่โพสต์บนทวิตเตอร์ สแกนลอน วัย 62 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ…

“เป็นหู เป็นตา”

Loading

  เมื่อสองเดือนก่อน ผู้บริหารระดับสูง 8 คนของสายการบินไหหลำ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว ไม่มีเสื้อกันหนาว ออกไปยืนเรียงแถวกันภายนอกอาคาร ที่นครปักกิ่ง กลางอากาศเย็นเฉียบที่ 0 องศาเซลเซียส ไม่ใช่ว่าผู้บริหาร อยู่ดีๆ เกิดนึกสนุกออกไปยืนหนาวสั่นรับความเย็นเช่นนั้น เป็นเวลานานถึง 40 นาที แต่เป็นเพราะถูกคำสั่งลงโทษ ให้ทำเช่นนั้นครับ สาเหตุก็เพราะ มีผู้โดยสารระดับพลาตินัมของสายการบิน ลงเครื่องบินที่กรุงปักกิ่งแล้วเขาเหลือบไปเห็นแอร์โฮสเตสหญิงคนหนึ่ง เธอนั่งตัวงอด้วยความหนาวสั่นอยู่ริมถนน ระหว่างที่เธอกำลังรอรถบัส น้องคนนั้นอยู่ในชุดปฏิบัติงานของสายการบินที่ออกแบบไว้สำหรับใช้สวมใส่ในฤดูร้อน เป็นชุดขาสั้น มองเห็นท่อนขาสูงขึ้นไปจนเหนือเข่า และไม่มีเสื้อคลุมกันหนาว แต่ขณะนั้นอากาศได้เปลี่ยนเป็นฤดูหนาวแล้ว ผู้โดยสารคนนั้น ถ่ายภาพพนักงานต้อนรับแล้วไปให้ผู้บริหารระดับสูงของสายการบินไหหลำ ผลก็คือการลงโทษผู้บริหาร 8 คนอย่างที่เห็น เพื่อ “ให้รู้เสียบ้างว่า อย่าเอาแต่นั่งในออฟฟิศ แล้วคิดว่าฤดูอะไรก็เหมือนกันแหละ…ออกไปแก้ปัญหาซะ” วิธีลงโทษแบบนี้ คงทำได้ในประเทศจีนและอีกบางประเทศเท่านั้น ประเทศอื่นๆ คงทำได้ยากสักหน่อย แต่ประเด็นของผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ ผมมองไปที่บทบาทของผู้โดยสารคนนั้นมากกว่า มีคำกล่าวภาษาไทยที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีที่เรียกว่า “เป็นหู เป็นตา” ผมคิดว่าผู้โดยสารคนนั้น ได้ทำหน้าที่มากกว่าผู้โดยสารทั่วไป ซึ่งเมื่อเห็นแล้วคงแค่รู้สึกเห็นใจพนักงานสาวเท่านั้น แต่ผู้โดยสารคนนี้ ได้ทำหน้าที่ “เป็นหู เป็นตา”…