อิสราเอล-ปาเลสไตน์ : ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะนำมาซึ่งสันติภาพถาวรหรือเปล่า ?

Loading

  อิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกันบริเวณฉนวนกาซา การสู้รบกันต่อเนื่อง 11 วัน ประกอบไปด้วยการยิงจรวด 4,000 ลูกของกลุ่มติดอาวุธ และกองทัพอิสราเอลที่โจมตีทางอากาศไปยัง 1,500 เป้าหมายในกาซา ทางการปาเลสไตน์บอกว่า ที่กาซา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 243 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็กมากกว่า 100 ราย ขณะที่อิสราเอลบอกว่าสังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธไปอย่างน้อย 225 ราย ด้านอิสราเอลบอกว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศ 12 ราย เป็นเด็ก 2 ราย   รายละเอียดของการหยุดยิง   การหยุดยิงเป็นเพียงการประกาศจากสองฝ่ายว่าจะหยุดสู้รบ อาจจะอย่างไม่มีกำหนด หรือแค่ช่วงหนึ่ง     หากดูจากประวัติศาสตร์การเผชิญหน้าระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่ก็เคยบรรลุข้อตกลงหยุดยิงมาแล้ว มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะกลับมาสู้รบกันอีกครั้ง ในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเมื่อเวลา 02.00 น. เวลาท้องถิ่นเมื่อวันที่ 21 พ.ค. แต่ก่อนจะถึงกำหนดเวลาดังกล่าว มีรายงานว่าต่างฝ่ายก็โหมโจมตีกันและกัน   เงื่อนไขข้อตกลง   มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงหยุดยิงต่อสาธารณะน้อยมาก โดยผู้มีส่วนร่วมในการเจรจาประกอบไปด้วยชาติมหาอำนาจในภูมิภาคนั้นอย่างอียิปต์และกาตาร์ รวมถึงสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ด้วย…

ส่องานเข้า คนขับรถไฟชิงกันเซ็งแวบเข้าห้องน้ำ ปล่อยรถวิ่ง 150 กม./ชม.

Loading

  คนขับรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นอาจถูกลงโทษ หลังเขาออกไปเข้าห้องน้ำนานหลายนาที ในขณะที่รถไฟวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันที่ 21 พ.ค. 2564 ว่า บริษัท ‘เซ็นทรัล เจแปน เรลเวย์’ หรือ ‘เจอาร์ เซ็นทรัล’ ผู้ให้บริการรถไฟออกมาแสดงความขอโทษ หลังจากคนขับรถไฟความเร็วสูงของพวกเขา ลุกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่รถกำลังวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. แล้วให้พนักงานซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถไฟควบคุมรถแทน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนรถไฟชิงกันเซ็งสายฮิคาริ หมายเลข 633 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค. ซึ่งในเวลานั้นบรรทุกผู้โดยสาร 160 คน โดย เจอาร์ เซ็นทรัล เผยว่า ขณะที่รถไฟกำลังเดินทางในจังหวัดชิซุโอกะ จู่ๆ คนขับรถไฟวัย 36 ปี ก็ปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำโดยด่วน เขาจึงเรียกพนักงานรถไฟคนหนึ่งเข้ามาในห้อง แล้วออกไปเข้าห้องน้ำนานประมาณ 3 นาที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของรถไฟสายฮิคาริ หมายเลข 633 อย่างไรก็ตาม เจอาร์…

“แอร์อินเดีย” ถูกแฮกเกอร์เจาะระบบขโมยข้อมูลลูกค้า 4.5 ล้านรายทั่วโลก

Loading

  แอร์อินเดียซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของอินเดียเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้ทำการขโมยข้อมูลลูกค้าของแอร์อินเดียราว 4.5 ล้านรายทั่วโลกในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งล่าสุด แอร์อินเดียระบุในแถลงการณ์ที่เปิดเผยในวันศุกร์ (21 พ.ค.) ว่า ชื่อ, หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลเกี่ยวกับพาสปอร์ตของลูกค้าได้ถูกขโมยโดยกลุ่มแฮกเกอร์ แอร์อินเดียระบุว่า บริษัทกำลังดำเนินการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกโจมตี และใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงกำลังประสานงานกับทางบริษัทบัตรเครดิต แอร์อินเดียประกาศในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้รับแจ้งจากซิต้า (Sita) ซึ่งเป็นบริษัทประมวลผลข้อมูลของแอร์อินเดียในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเจาะนั้นเป็นข้อมูลที่มีการลงทะเบียนระหว่างเดือนส.ค. 2554 ถึงเดือนก.พ. 2564 “เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณการสนับสนุนและความไว้วางใจที่มีมาอย่างต่อเนื่องจากผู้โดยสารของเรา” แอร์อินเดียระบุ ทั้งนี้ สายการบินจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการแฮกข้อมูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยสายการบินบริติชแอร์เวย์ของอังกฤษถูกปรับถึง 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว หลังจากที่ข้อมูลของลูกค้า 400,000 รายสูญหายไปจากการโจมตีทางไซเบอร์ในปี 2561 ส่วนคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ถูกปรับเป็นเงิน 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากข้อมูลของลูกค้า 9 ล้านคนสูญหายไปในปี 2561 ขณะที่อีซี่เจ็ตซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับอีเมลและรายละเอียดการเดินทางของลูกค้าราว 9 ล้านราย   ———————————————————————————————————————————————————————- ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์       …

‘จีน’ ห้ามจอด ‘เทสลา’ ในอาคารรัฐบาล หวั่นสอดแนม

Loading

  “จีน” สั่งห้าม เจ้าหน้านี้นำรถยนต์เทสลาเข้าจอดในอาคารของรัฐบาล กังวลกล้องสอดแนม รัฐบาลจีน ได้สั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ของบริษัทเทสลา เข้ามาจอดภายในบริเวณอาคารสำนักงานของรัฐบาล เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับกล้องหลายตัวที่ติดตั้งมากับรถยนต์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลอย่างน้อย 2 คนในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า ห้ามนำรถยนต์ของเทสลาจอดในอาคารสำนักงาน อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ขณะนี้มีรถยนต์ของเทสลาจำนวนกี่คันที่ถูกสั่งห้ามจอดในขณะนี้ แม้ว่าระบบเซ็นเซอร์และกล้องในรถยนต์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่รถยนต์ แต่แหล่งข่าวระบุว่า มาตรการเข้มงวดล่าสุดนี้ได้ถูกนำมาใช้เฉพาะกับรถยนต์ของเทสลาเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรถยนต์ของเทสลามีกล้องหลายตัวติดตั้งอยู่ภายนอกตัวรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในเรื่องการจอดรถ การเปลี่ยนเลน และการอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์ของเทสลาได้ถูกสั่งห้ามเข้าไปจอดในศูนย์บัญชาการทหารบางแห่งในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากทางการจีนกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับกล้องที่ติดมากับรถยนต์ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้ออกมาชี้แจงว่า หากเทสลาใช้รถยนต์เป็นเครื่องมือสอดแนมในจีนหรือในประเทศอื่นๆ โรงงานของเทสลาก็คงต้องถูกปิดกิจการไปนานแล้ว   ———————————————————————————————————————————————— ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ        / วันที่เผยแพร่ 21 พ.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/939367

สกัดข่าวปลอม Google สร้างเครื่องมือใหม่ ให้ผู้ใช้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง

Loading

  Google สร้างเครื่องมือใหม่ ให้ผู้ใช้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง   ผลกระทบจากข่าวปลอมบนเว็บไซต์และโซเชียล ทำให้ Google ในฐานะผู้นำ Search engine ออกมาพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบ Fake news หรือข่าวลวงบนออนไลน์ที่เปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากเรื่องที่แต่งขึ้นได้ ล่าสุด Google ได้แบ่งปันเคล็ดลับในการตรวจสอบข้อมูลที่เป็นเท็จ ที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ ผ่านโครงการ GNI University Verification Challenge ร่วมกับนักศึกษาวารสารศาสตร์ทั่วเอเชีย รวมถึงสำนักข่าวต่างๆ พร้อมเผยเคล็ดลับสังเกตข้อมูลปลอม ข่าวลวงบนโซเชียล แบบง่ายๆ ที่ทำได้เอง ผ่าน 5 เครื่องมือนี้   1. ตรวจสอบข้อเท็จด้วย Fact Check Explorer หากไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันมาบนโซเชียลเป็นเรื่องจริงหรือจ้อจี้ ให้ลองค้นหาด้วย Fact Check Explorer เครื่องมือตรวจสอบข้อเท็จจริง มากกว่า 100,000 รายการ จากผู้เผยแพร่ที่เชื่อถือได้ทั่วโลก แค่เข้าไปเช็คที่ Fact Check Explorer https://toolbox.google.com/factcheck/explorer  …

นายกฯสั่งช่วยคนไทยในอิสราเอล เตรียมแผนอพยพด่วน

Loading

  นายกฯ แสดงความเสียใจแรงงานไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิสราเอล สั่งสถานทูตช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน พร้อมเตรียมแผนอพยพ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ต่อการเสียชีวิตของแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล คือ คุณวีรวัฒน์ การุณบริรักษ์ และคุณสิขรินทร์ สงำรัมย์ รวมถึงคนงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 8 ราย พร้อมกับได้สั่งการสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ เร่งให้ความช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน โดยการติดตามและประสานงานการขอรับสิทธิประโยชน์และเงินชดเชยสำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งครอบครัว จากสถาบันประกันแห่งชาติอิสราเอล นอกจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้รายงานว่า ได้ประสานงานให้มีการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยทันทีที่สถาบันนิติเวชของอิสราเอลอนุมัติ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากทั้งสองรายมีประกันสุขภาพของอิสราเอล ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อและแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการส่งร่างผู้เสียชีวิตให้ครอบครัวได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง     ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ได้รายงานด้วยว่า ได้ประกาศเตือนคนไทยให้เพิ่มความระมัดระวัง แจ้งแนวการปฏิบัติตนเมื่อได้ยินเสียงไซเรน รวมถึงได้ประสานงานกับหัวหน้าแรงงานไทยในพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และยังได้เน้นย้ำขอความร่วมมือให้ฝ่ายอิสราเอลช่วยดูแลคุ้มครองแรงงานไทยทุกคนด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยในอิสราเอลไว้แล้ว หากมีความจำเป็นต้องอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล คณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน…