สหรัฐประกาศชัด หน่วยข่าวกรองรัสเซียแฮ็ก SolarWinds, แบน 6 บริษัทรัสเซียที่เกี่ยวข้อง

Loading

  นอกจากสงครามการค้ากับบริษัทจีนแล้ว ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการตอบโต้รัสเซียหลายข้อ จากกรณีการแฮ็ก SolarWinds และการโจมตีไซเบอร์อื่นๆ กรณีการแฮ็ก SolarWinds ครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานจำนวนมาก ถูกพูดกันมานานแล้วว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย แต่วันนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการว่า หน่วยงานข่าวกรองของรัสเซีย 3 หน่วยคือ Federal Security Service (FSB), Russia’s Main Intelligence Directorate (GRU), Foreign Intelligence Service (SVR) อยู่เบื้องการโจมตีไซเบอร์ต่อสหรัฐหลายครั้ง สหรัฐชี้ว่า SVR คือหน่วยงานที่แฮ็กระบบ SolarWinds และยังขโมยซอฟต์แวร์ตรวจสอบการโจมตีไซเบอร์ไปจากบริษัทความปลอดภัยของสหรัฐอีกแห่งที่ไม่ระบุชื่อ   นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังเผยชื่อหน่วยงาน-บริษัทเทคโนโลยีรัสเซีย 6 ราย ที่สนับสนุนงานข่าวกรองของรัสเซีย ได้แก่ ERA Technopolis ศูนย์วิจัยที่ได้เงินสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ทำงานให้ GRU Pasit, AO (Pasit) บริษัทเอกชนที่ทำงานให้ SVR Federal State Autonomous Scientific Establishment…

สหรัฐขับไล่จนท.ทูต-คว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่

Loading

  รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศขับไล่นักการทูตรัสเซีย 10 คน ออกนอกประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมกับคว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคลรัสเซีย อีกกว่า 30 ราย เพื่อเป็นการลงโทษ การแทกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว และการเจาะล้วงข้อมูลหลายหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า การขับไล่นักการทูตและคว่ำบาตรรัสเซีย ของรัฐบาลสหรัฐ เป็นไปตามความคาดหมาย ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และนับเป็นมาตรการตอบโต้เครมลินครั้งแรก ต่อการเจาะล้วงข้อมูล ซึ่งเชื่อกันว่าทีมแฮกเกอร์รัสเซีย สามารถเข้าถึงข้อมูลลับ ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอย่างน้อย 9 แห่ง นอกเหนือจากการเจาะล้วงข้อมูลแล้ว เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อนุมัติปฏิบัติการ เพื่อช่วยเหลืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียหรือใครอื่น เปลี่ยนแปลงผลคะแนน หรือพลิกผลการเลือกตั้ง     มาตรการที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี รวมถึงการคว่ำบาตรธุรกิจรัสเซีย 6 บริษัท ที่สนับสนุนปฏิบัติการโจมตีไซเบอร์ บุคคลและนิติบุคคล…

ฝรั่งเศสแนะพลเมืองเร่งอพยพออกจากปากีสถาน หลังกระแสต่อต้านชาวเมืองน้ำหอมนับวันยิ่งรุนแรง

Loading

  ฝรั่งเศสแนะพลเมืองเร่งอพยพออกจากปากีสถาน หลังกระแสต่อต้านชาวเมืองน้ำหอมนับวันยิ่งรุนแรง เมื่อวันที่ 15 เมษายน สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศปากีสถาน ประกาศแนะนำให้พลเมืองชาวฝรั่งเศสและบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส อพยพออกจากปากีสถาน หลังจากกระแสประท้วงต่อต้านฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้ถูกโหมกระพือรุนแรงหนักมากขึ้นในปากีสถาน จนทำให้ในหลายพื้นที่กลายเป็นอัมพาต ในอีเมลของสถานทูตฝรั่งเศสที่ส่งถึงพลเมืองฝรั่งเศสที่พำนักอยู่ในปากีสถานระบุว่า เนื่องจากมีการคุกคามต่อผลประโยชน์ฝรั่งเศสในปากีสถานอย่างร้ายแรง จึงขอแนะนำให้พลเมืองและบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสอพยพออกจากปากีสถานไปก่อนเป็นการชั่วคราวด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ที่ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ความรู้สึกต่อต้านฝรั่งเศสในปากีสถานทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ได้ออกมาแสดงความสนับสนุนสิทธิเสรีภาพสื่อของนิตยสารฉบับหนึ่ง ที่กระทำการตีพิมพ์ซ้ำภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวมุสลิมส่วนใหญ่ต่างรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนาอิสลาม   ————————————————————————————————————————————————————- ที่มา : มติชนออนไลน์     /  วันที่เผยแพร่  15 เม.ย.2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2674819

บริษัท ‘ไอที’ ก็แพ้ให้ ‘แรนซัมแวร์’

Loading

  ผ่านมามีบริษัททางด้านไอทีที่น่าจะมีความรู้ และเครื่องมือระดับสูงในการป้องกันภัยคุกคาม พลาดท่าถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์โจมตี เหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นว่าทุกบริษัทล้วนมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามได้เสมอ [บทความนี้ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 เขียนโดยนักรบ เนียมนามธรรม คอลัมน์ Think Secure หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ]   คงไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัททางด้านไอทีที่น่าจะมีความรู้ และเครื่องมือระดับสูงในการป้องกันภัยคุกคามจะพลาดท่าถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์โจมตี แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแทบทั้งโลกก็ต้องตะลึง หลังบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากไต้หวันออกมายอมรับว่า ถูกแรนซัมแวร์โจมตีสำเร็จซึ่งบริษัทนี้คนไทยส่วนใหญ่รู้จักและใช้คอมพิวเตอร์ที่เขาผลิตเสียด้วยครับ เรื่องเริ่มจากกลุ่ม REvil นักเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ได้ออกมาอ้างว่า ทางกลุ่มต้องการค่าไถ่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านดอลลาร์จากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากไต้หวันที่ตกเป็นเหยื่อ โดยราคานี้เป็นราคาที่กลุ่ม REvil รับได้ถ้าเหยื่อยอมจ่ายตามที่เรียกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถือเป็นค่าไถ่ที่แพงมากกว่าปกติอยู่ดีเพราะค่าไถ่สูงสุดที่กลุ่มนี้เรียกจากเหยื่อรายอื่นเมื่อเดือนที่ผ่านมายังอยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์ บทสนทนาระหว่างตัวแทนของบริษัทและกลุ่ม REvil ถูกเปิดเผยว่า มีการต่อรองให้ลดราคาค่าไถ่ลงมาประมาณ 20% ถ้าบริษัทยอมจ่ายเงินภายในวันที่กำหนด และถ้าไม่มีความคืบหน้าต่อจากนี้ภายใน 8 วัน จะต้องจ่ายค่าไถ่สูงขึ้นเป็นเงินถึง 100 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว   นี่คือวิธีการที่กลุ่ม REvil ใช้กระตุ้นให้บริษัทที่ตกเป็นเหยื่อร้อนรน หลังจากที่เจาะเข้าระบบของบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อได้พวกเขาก็จะเริ่มสูบข้อมูลลับหรือข้อมูลสำคัญ จากนั้นก็เปิดประมูลเพื่อขายข้อมูลของเหยื่อที่ขโมยมาในเว็บใต้ดินของกลุ่มต่อ โดยจะมีการนำไฟล์ข้อมูลบางส่วนมาแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ขโมยมามีฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัท รวมถึงหมายเลขบัญชี…

ทำความรู้จัก ‘พลุตะไล’ จุดเพื่อศพ อาจเพิ่มอีกศพ

Loading

  “พลุตะไล” คืออะไร? เหตุใดต้องจุดในงานศพ มาทำความรู้จักก่อนจุด ก่อนขาย ก่อนเล่นดอกไม้ไฟ สิ่งที่ผู้ประกอบการ ผู้เล่นต้องรู้! ขอแสดงความเสียใจกับครอบครับสวัสดี ที่สูญเสีย “น้องมิ้นท์” หรือด.ญ.ณัฐชา สวัสดี อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอาจวิทยาคาร ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ถูก “พลุตะไล” ที่จุดในงานเผาศพพุ่งตกลงมาใส่ศีรษะ และเสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 13 เม.ย. เวลา 19.45 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา   มาทำความรู้จัก “พลุตะไล” การเล่นดอกไม้ไฟ การเล่นดอกไม้ไฟ หรือพลุ มีมาตั้งแต่พุทธศักราช 2520 เป็นปีที่จังหวัดสุโขทัยเริ่มต้นฟื้นฟูประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ โดยความคิดริเริ่มของนายนิคม มูสิกะคามะ โดยพิจารณาจากหลักฐานสำคัญคือข้อความที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 ว่า “…เมืองสุโขทัยนี้มีสี่ปากประตูหลวง เทียรย่อมคนเสียดกัน เข้ามาดูท่านเผาเทียน ท่านเล่นไฟ เมืองสุโขทัยนี้มีดังจักแตก …” โดยการเล่นไฟ…

รายงานความมั่นคงสหรัฐฯจัดลำดับ จีน รัสเซีย อิหร่าน คานอิทธิพลอเมริกาบนเวทีโลก

Loading

  สำนักงานผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ The Office of the Director of National Intelligence (ODNI) ซึ่งมีองค์กรหลายแห่งเช่น CIA หรือหน่วยข่าวกรองกลาง อยู่ภายใต้สังกัดได้จัดลำดับในรายงานประเมินด้านความมั่นคงในปีล่าสุดว่า จีน รัสเซีย อิหร่าน และ เกาหลีเหนือนั้นล้วนท้าทายอิทธิพลของอเมริกาบนเวทีโลก รายงานดังกล่าวมีการเรียบเรียงโดยหน่วยข่าวกรองใหญ่ของสหรัฐฯซึ่งจะทำการนำเสนอข้อมูลสำคัญๆด้านความมั่นคงต่อวุฒิสภาทุกปีๆ แต่เมื่อปี 2019 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์วิจารณ์การประเมินของหน่วยข่าวกรองว่าไม่เด็ดขาดและดีพอ จึงทำให้ไม่มีการรายงานถึงภัยคุกคามต่างๆ ในปี 2020 ต่อวุฒิสภา เพราะฉะนั้น รายงานการประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงของปีนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก       จีนคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด   รายงานของปี 2021 ระบุว่าปัจจุบัน จีนคือภัยคุกคามอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ โดยอธิบายว่า “รัฐบาลจีนใช้กลยุทธ์แซกแทรงความสัมพันธ์ที่ดีของอเมริกากับประเทศพันธมิตร และ พยามสร้างบรรทัดฐานโลกใหม่ที่สนับสนุนแนวคิดการปกครองระบอบเผด็จการตามแบบจีน” ท่ามกลางความตรึงเครียดจากแข่งขันกันเป็นมหาอำนาจโลกระหว่างจีนและสหรัฐฯนั้น รายงานระบุว่า จีนพร้อมที่เพิ่มขนาดกองทัพทหารในประเทศต่างๆ และการแสดงการแสนยานุภาพของขีปนาวุธต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงการพัฒนาและสั่งสมคลังแสงของหัวอาวุธนิวเคลียร์ที่มีความทันสมัยและอันตรายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อที่จีนจะสามารถโต้กลับด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศตนเอง หากถูกโจมตีด้วยอาวุธชนิดดังกล่าวจากประเทศอื่น ส่วนการแข่งขันทางด้านอวกาศและเทคโนโลยี สหรัฐฯชี้ว่าสถานีอวกาศของจีนที่จะทำการโคจรรอบโลกต่อไปในระยะเวลาสามปีนั้นเป็นภัยคุกคามสำคัญ…