เอาอีกแล้วคลิปทหารกร่างว่อนเน็ต ล่าสุดเป็นคิวของทหารเรือ ยศพันจ่าเอก สังกัดกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ พระราชวังเดิม ไปก่อเรื่องพูดกับเจ้าหน้าที่สนามบินว่ามีระเบิด แถมยังอ้างเบื้องสูงเป็นองครักษ์ อ้างแค่ทดสอบ สุดท้ายอดบิน ลากไปโรงพัก โฆษกกองทัพเรือระบุ เจ้าตัวโดนตั้งกรรมการสอบแล้ว จ่อถูกลงโทษทางวินัย
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. มีรายงานว่า ในโลกโซเชียลฯ มีการเผยแพร่วิดีโอคลิปความยาวประมาณ 10 นาที เป็นเหตุการณ์ที่ชายรายหนึ่งกำลังโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดตรวจค้นท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา พยายามโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ หลังกล่าวคำว่า “มีระเบิด” ซึ่งเป็นคำต้องห้ามในสนามบิน ก่อนพลิกลิ้นอ้างว่า “ถ้ามีจริงแล้วบอกว่าไม่มีจะเป็นยังไง” และอ้างว่าตนหวังดี ถ้าผู้โดยสารคนอื่นพูดว่าไม่มีแล้วกลับมีจริง ต้องตรวจสอบให้ได้ว่ามันคืออะไร เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่ามีขั้นตอนการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ผู้โดยสารห้ามพูดคำว่ามีระเบิด เพราะเป็นคำต้องห้ามตามข้อบังคับอยู่แล้ว ชายคนดังกล่าวอ้างว่าเปลี่ยนกฎเลย เดี๋ยวเคลียร์กับนายกรัฐมนตรีให้ ถามว่าใครเป็นคนกำหนด เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงว่าเป็นกฎของกรมการบินพลเรือน เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่แล้วจะมาแกล้ง มันเป็นคำต้องห้ามอยู่แล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่าชายคนดังกล่าวพูดจาวกไปวนมา และถามว่ารู้หรือเปล่าผมคือใคร ให้เรียกหัวหน้ามาคุย
เมื่อชายที่ระบุว่าเป็นหัวหน้ามาคุยแล้วก็อ้างว่าแจ้งว่าเอาวัตถุระเบิดมาต้องการทดสอบ หัวหน้าถามว่า ทดสอบใคร แล้วพูดได้หรือ พูดทำไม ถามว่ามาจากไหน ชายคนดังกล่าวตอบว่า ผมเป็นองครักษ์ ถามว่าองครักษ์คนไหนก็ตอบไม่ได้ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่สนามบินถ่ายวิดีโอคลิปไว้เป็นหลักฐาน ถามว่าพูดเพื่ออะไร ไม่ต้องบินวันนี้ ไปโรงพัก ชายคนดังกล่าวพยายามแสดงบัตร พร้อมกล่าวขอโทษ อ้างว่ามีงานพิเศษ หัวหน้าจึงให้เอาบัตรมาแล้วไปคุยกันที่โรงพัก จะมาอ้างว่าเป็นองครักษ์คนไหน ไม่ต้องให้ขึ้นเครื่องบินวันนี้ และเห็นว่าสภาพไม่พร้อม ถามว่าทหารเรือใช่ไหม ตอบว่าใช่ ถามว่ารุ่นไหน ก็ตอบว่ารุ่น 43 หัวหน้าจึงกล่าวว่า บ้าบอคอแตก พูดทำไม เสียชื่อไหม ถามว่าทำงานที่ไหน ชายคนดังกล่าวตอบว่า พระราชวังเดิม (พระราชวังกรุงธนบุรี) ก่อนที่จะให้ไปคุยที่โรงพัก ชายคนดังกล่าวพยายามขอโทษ อ้างว่าภรรยารออยู่ แต่หัวหน้ากล่าวว่าให้ไปโรงพัก มาขอโทษตอนนี้มันสายไปแล้ว ให้จบกระบวนการก่อน ตอนที่พูดทำไมไม่คิด ก่อนจะให้เก็บของแล้วไปสถานีตำรวจ
ชมคลิป คลิกที่นี่
ด้าน พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบชายคนดังกล่าวคือ พ.จ.อ.ไพโรจน์ ขาวแก้ว สังกัดกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ ขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางจากท่าอากาศยานหาดใหญ่มายังท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเตรียมเข้าปฏิบัติงาน โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่ามีอาการมึนเมาจริง แต่สาเหตุที่ปรากฏในคลิปเนื่องจากไม่ทราบว่าการพูดจาดังกล่าวจะผิดกฎการบิน กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้เรียกตัว พ.จ.อ.ไพโรจน์ ให้เข้ารายงานตัวต้นสังกัดในโอกาสแรก รวมถึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป กองทัพเรือต้องขออภัยท่าอากาศยานหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำท่าอากาศยานทุกท่านที่กำลังพลของกองทัพเรือคนดังกล่าวกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และแสดงกิริยาวาจาที่ไม่สมควร ทั้งนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำกำลังพลอยู่เสมอ ในการประพฤติและปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย เป็นที่พึ่งของประชาชน
สำหรับการแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นตื่นตกใจ หรือทำให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานในระหว่างทำการบิน เช่น มีระเบิด , จะระเบิดสนามบิน , จะระเบิดเครื่องบิน หรือพูดว่า นี่คือการก่อการร้าย นี่คือการจี้เครื่องบิน การไฮแจ็ก หรือคำพูด เขียนข้อความ การกระทำอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่พิจารณาว่าคุกคาม ข่มขู่ หรือเป็นภัย เช่น ตรวจได้แต่ระวังเชื้อโควิด-19 , เครื่องบินลำนี้กำลังจะตก, เขียนว่าระเบิดไว้ที่กระจก หรือแสดงออกพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น โยนกระเป๋าหรือสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่หรือกลุ่มผู้โดยสารแล้ววิ่งหนี มีความผิดตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ซึ่งแจ้งข้อความซึ่งเป็นเท็จ จนเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือในอากาศยานระหว่างการบินตื่นตกใจ ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานในระหว่างการบิน ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยมีกรณี น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี อายุ 52 ปี ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ไปหาเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างตรวจตราร้านอาหารโกดัง 168 โดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคายและขว้างแก้วใส่ พร้อมอ้างชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และขู่ว่าจะย้ายทั้งโรงพัก ต่อมามีคลิป น.อ.อลงกรณ์ อวดเบ่งกินฟรีที่สถานบันเทิงย่านเอกมัย กรุงเทพฯ โดยแอบอ้างเบื้องสูง ทำให้สารวัตรทหารต้องนำตัว น.อ.อลงกรณ์เข้ารับการธำรงวินัย ขณะที่ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เข้ารับการธำรงวินัย เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว สุดท้ายจุดจบของทหารกร่างรายนี้ คือ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ออกคำสั่งปลด น.อ.อลงกรณ์ ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหาร ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ด้านศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 14 ออกหมายจับ น.อ.อลงกรณ์ 4 ข้อหา ได้แก่ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 28 ม.ค.65
Link : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000009076