การประท้วงก๊าซแอลพีจีราคาแพงในคาซัคสถานบานปลายเอาไม่อยู่ ผู้ชุมนุมบุกสำนักงานนายกเทศมนตรีอัลมาตี เมืองใหญ่สุดของประเทศ
ตามที่ตั้งแต่ปีใหม่คาซัคสถานขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ที่ประชาชนทางภาคตะวันตกนิยมใช้เติมรถยนต์ ประชาชนหลายพันคนจึงออกมาเดินขบวนประท้วงในเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่สุดของคาซัคสถาน และใน จ.แมงกิสเตาทางตะวันตก อ้างว่าการขึ้นราคาไม่เป็นธรรมเพราะประเทศส่งออกน้ำมันและก๊าซอย่างคาซัคสถานมีแหล่งพลังงานสำรองมากมาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจใช้ระเบิดควันและแก๊ซน้ำตากับผู้ประท้วงหลายพันคน บางคนมีกระบองและโล่ที่ยึดไปจากตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันผู้ประท้วงบุกเข้าไปในอาคารสำนักงานนายกเทศมนตรีเมืองอัลมาตีได้ ตำรวจจับกุมประชาชนกว่า 200 คนที่ร่วมประท้วง
ช่วงบ่ายที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวในอัลมาตีเห็นผู้ชายในเครื่องแบบตำรวจหลายคนทิ้งโล่และหมวกกองรวมกันแล้วเข้าไปโอบกอดผู้ชุมนุม ซึ่งชายในเครื่องแบบเหล่านั้นไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์
“พวกเขามาเข้าข้างเราแล้ว” หญิงคนหนึ่งร้องตะโกนขณะสวมกอดกับเพื่อนผู้ประท้วง
การประท้วงครั้งนี้ถือเป็นภัยคุกคามใหญ่สุดเท่าที่รัฐบาลสถาปนาโดยประธานาธิบดีนูร์ซุลตัน นาซาร์บาเยฟเคยมีนับถึงขณะนี้ นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีผู้ก่อตั้งคาซัคสถานลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2562 แล้วสนับสนุนให้นายคาซึม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ผู้จงรักภักดีเป็นประธานาธิบดีสืบต่อไป โดยนาซาร์บาเยฟ วัย 81 ปี และปกครองคาซัคสถานมาตั้งแต่ปี 2534 ยังควบคุมประเทศในตำแหน่งประธานสภาความมั่นคงและ “ผู้นำแห่งชาติ” บทบาทตามรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิพิเศษในการกำหนดนโยบายเฉพาะและมีเอกสิทธิไม่ต้องถูกดำเนินคดี
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 5 ม.ค.2565
Link : https://www.bangkokbiznews.com/world/980996