เปิดรายงาน Kaspersky ICS CERT Report ฉบับล่าสุดของแคสเปอร์สกี้ พบแคมเปญสปายแวร์ชุดใหม่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยโจมตีองค์กรอุตสาหกรรมมากกว่า 2,000 แห่งทั่วโลก การโจมตีนี้มีลักษณะโดดเด่นต่างจากแคมเปญสปายแวร์ทั่วไป เนื่องจากจำกัดจำนวนเป้าหมายในการโจมตีแต่ละครั้ง และตัวอย่างมัลแวร์อันตรายมีอายุการใช้งานสั้นมาก รายงานระบุว่า มีการขายข้อมูลที่ถูกขโมยในตลาดมากกว่า 25 แห่ง
นายคิริล ครูกลอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย Kaspersky ICS CERT ของแคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า ตลอดปี 2564 อาชญากรไซเบอร์ใช้สปายแวร์เพื่อโจมตีคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง วันนี้บริษัทได้เห็นแนวโน้มใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในแนวทางภัยคุกคามต่อภาคอุตสาหกรรม อาชญากรจะย่อขนาดของการโจมตีแต่ละครั้ง และจำกัดการใช้ตัวอย่างมัลแวร์แต่ละรายการเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดยบังคับให้แทนที่ด้วยมัลแวร์ที่สร้างขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว
“กลวิธีอื่นๆ ได้แก่ การใช้โครงสร้างพื้นฐานอีเมลของบริษัทในทางที่ผิดเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ ซึ่งแตกต่างจากสปายแวร์ที่เราเคยพบเห็นมา และเราคาดว่าการโจมตีดังกล่าวจะรุนแรงในปีหน้า”
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ผู้เชี่ยวชาญ ICS CERT ของแคสเปอร์สกี้สังเกตเห็นความผิดปกติที่น่าสงสัยในสถิติเกี่ยวกับภัยคุกคามสปายแวร์ที่ถูกบล็อกบนคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม หรือ ICS แม้ว่ามัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีจะอยู่ในตระกูลสปายแวร์ที่รู้จักกันดีอย่าง Agent Tesla/Origin Logger, HawkEye และอื่นๆ แต่การโจมตีเหล่านี้กลับโดดเด่นกว่า เนื่องจากจำนวนเป้าหมายที่จำกัดในการโจมตีแต่ละครั้ง และตัวอย่างมัลแวร์ที่เป็นอันตรายแต่ละรายการมีอายุการใช้งานสั้นมาก
การวิเคราะห์ตัวอย่างสปายแวร์ 58,586 ตัวอย่างที่ถูกบล็อกบนคอมพิวเตอร์ ICS อย่างใกล้ชิดในครึ่งปีแรกของปี 2564 เปิดเผยว่า ตัวอย่างประมาณ 21.2% เป็นส่วนหนึ่งของชุดการโจมตีแบบจำกัดขอบเขต และอายุการใช้งานสั้น โดยวงจรชีวิตถูกจำกัดไว้ที่ประมาณ 25 วัน ซึ่งน้อยกว่าอายุการใช้งานของแคมเปญสปายแวร์แบบ “ดั้งเดิม”
แม้ว่าตัวอย่างสปายแวร์ “ที่ผิดปกติ” เหล่านี้แต่ละรายการจะมีอายุสั้นและไม่ได้มีการแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง แต่มีส่วนสำคัญในการโจมตีสปายแวร์ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ในเอเชีย ในคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่องถูกโจมตีด้วยสปายแวร์ จะมี 1 เครื่องที่ถูกโจมตีด้วยตัวอย่างสปายแวร์ที่ “ผิดปกติ” นี้ (2.1% จาก 11.9% เปอร์เซ็นต์ของคอมพิวเตอร์ ICS ที่สปายแวร์ถูกบล็อกในช่วงครึ่งหลังของปี 2564
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แคมเปญลักษณะนี้ส่วนมากแพร่กระจายจากองค์กรอุตสาหกรรมหนึ่งไปยังอีกองค์กรหนึ่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่ออกแบบมาอย่างดี เมื่อเจาะเข้าไปในระบบของเหยื่อแล้ว ผู้โจมตีจะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเซิร์ฟเวอร์โจมตี C2 (คำสั่งและการควบคุม) ครั้งต่อไป อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้อีเมลของบริษัทในทางที่ผิด และแพร่กระจายสปายแวร์มากขึ้นไปอีกด้วยการเข้าถึงรายชื่อผู้รับจดหมายของเหยื่อ
จากข้อมูลเทเลมิทรีของ Kaspersky ICS CERT พบว่า องค์กรอุตสาหกรรมมากกว่า 2,000 แห่งทั่วโลกถูกโยงเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นอันตราย และถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เพื่อกระจายการโจมตีไปยังองค์กรที่ติดต่องานและพันธมิตรทางธุรกิจ แคสเปอร์สกี้ประเมินว่า ผลมาจากการโจมตีเหล่านี้ มีจำนวนบัญชีบริษัทที่ถูกบุกรุก หรือถูกขโมยทั้งหมดมีมากกว่า 7,000 บัญชี
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่ได้ขโมยจากคอมพิวเตอร์ ICS นั้นมักจะจบลงที่ตลาดต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ระบุว่า มีตลาดมากกว่า 25 แห่งที่มีการขายข้อมูลประจำตัวที่ขโมยมาจากแคมเปญอุตสาหกรรมลักษณะนี้ การวิเคราะห์ตลาดดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีความต้องการข้อมูลรับรองบัญชีองค์กรสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบัญชีเดสก์ท็อประยะไกล (Remote Desktop Accounts – RDP) บัญชี RDP กว่า 46% ที่ขายในตลาดที่ทำการวิเคราะห์นั้นเป็นของบริษัทในสหรัฐอเมริกา ส่วนที่เหลือมาจากเอเชีย ยุโรป และละตินอเมริกา และพบว่าบัญชี RDP เกือบ 4% (เกือบ 2,000 บัญชี) ที่ขายเป็นของเอ็นเทอร์ไพรซ์อุตสาหกรรม
ตลาดที่กำลังเติบโตอีกแห่งคือ Spyware-as-a-Service เนื่องจากซอร์สโค้ดของโปรแกรมสปายแวร์ยอดนิยมบางโปรแกรมได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณะ จึงพร้อมใช้งานสูงในร้านค้าออนไลน์ในรูปแบบของบริการ – นักพัฒนาไม่เพียงขายมัลแวร์เป็นผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังรวมใบอนุญาตสำหรับตัวสร้างมัลแวร์และการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าเพื่อสร้างมัลแวร์
ผู้เชี่ยวชาญแคสเปอร์สกี้แนะนำมาตรการ เพื่อให้องค์กรอุตสาหกรรม การดำเนินงานเครือข่ายพันธมิตร และธุรกิจมั่นใจว่าได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอ ว่าควรใช้การตรวจสอบสิทธิแบบสองปัจจัย (two-factor authentication) สำหรับการเข้าถึงอีเมลขององค์กรและบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่นๆ (รวมถึง RDP, เกตเวย์ VPN-SSL เป็นต้น) ที่ผู้โจมตีสามารถใช้เพื่อเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานภายในของบริษัทและข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์เอ็นด์พอยนต์ทั้งหมด ทั้งบนเครือข่าย IT และ OT ได้รับการปกป้องด้วยโซลูชันการรักษาความปลอดภัยเอ็นด์พอยนต์ที่ทันสมัย ซึ่งได้รับการกำหนดค่าอย่างเหมาะสมและอัปเดตอยู่เสมอ ร่วมกับการฝึกอบรมบุคลากรอย่างสม่ำเสมอในการจัดการกับอีเมลขาเข้าอย่างปลอดภัย และเพื่อป้องกันระบบจากมัลแวร์ที่อาจมีในไฟล์แนบในอีเมล
ไม่เพียงตรวจสอบโฟลเดอร์สแปมเป็นประจำ แทนการล้างข้อมูล แต่องค์กรควรตรวจสอบการเปิดเผยบัญชีขององค์กรบนเว็บ และใช้โซลูชันแซนด์บ็อกซ์ที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบไฟล์แนบในการรับส่งข้อมูลอีเมลขาเข้าโดยอัตโนมัติ ตรวจสอบว่าโซลูชันแซนด์บ็อกซ์ที่ใช้นั้นได้รับการกำหนดค่าไม่ให้ข้ามอีเมลจากแหล่งที่ “เชื่อถือได้” ซึ่งรวมถึงพันธมิตรและองค์กรที่ติดต่องานด้วย เพราะเมื่อเกิดการละเมิดความปลอดภัยก็ไม่มีใครปลอดภัย 100%
ที่สำคัญ ควรทดสอบไฟล์แนบในอีเมลขาออกเพื่อให้แน่ใจว่าระบบไม่ถูกบุกรุกด้วย
—————————————————————————————————————————————
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 28 ม.ค.64
Link : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9650000009035