บึมสนั่น โจมตีกลางตลาดปากีสถานกลางวันแสกๆ ดับอย่างน้อย 2 ศพ บาดเจ็บระนาว

Loading

  เกิดเหตุระเบิดรุนแรงโจมตีกลางตลาดของปากีสถานที่มีผู้คนกำลังออกมาจับจ่ายซื้อของอย่างพลุกพล่าน แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ บาดเจ็บอีก 26 ราย เมื่อวันที่ 20 ม.ค. เว็บไซต์ข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรงบริเวณตลาดอะนาร์กาลี แหล่งร้านค้าที่มีชื่อเสียงและมีผู้คนพลุกพล่านที่สุดของเมืองละฮอร์ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออก และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของปากีสถาน ขณะเกิดเหตุมีผู้คนนับร้อยกำลังออกมาเดินซื้อข้าวของ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ บาดเจ็บ 26 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 2 ราย นอกจากนี้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่แถวนั้น ตลอดจนอาคารร้านค้าหลายร้าน ยังพังเสียหายจากแรงระเบิด         หลังเกิดเหตุมีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่เคลื่อนไหวอยู่แถบจังหวัดบาลูจิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้ออกมาบอกว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ ขณะที่ตำรวจปากีสถานระบุว่า เป็นที่ชัดเจนว่าเกิดจากระเบิดที่มีคนนำมาวางไว้ ขณะที่กำลังเร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. ที่มา Aljazeera     ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์     /    วันที่เผยแพร่ 21 ม.ค.2565…

คืบหน้าปะทะโจรใต้ 2 ศพที่สายบุรี จนท.พบทั้ง 2 ราย มีหมายจับคดีความมั่นคง

Loading

  คืบเหตุปะทะโจรใต้ที่สายบุรียิงสู้ จนท. แล้วถูกยิงตาย 2 ศพ ล่าสุดพบทั้งคู่มีหมายจับคดีความมั่นคงติดตัว เป็นคนร้ายรายสำคัญที่ทางการต้องการตัว คาดเตรียมมาก่อเหตุ แล้ว จนท.ดักตรวจค้นทัน เลยปะทะก่อน กรณีเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงหลบซ่อนตัว เจ้าหน้าที่และผู้นำศาสนาร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ทั้งสองออกมามอบตัว แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้กระโดดออกจากหน้าต่างข้างบ้าน พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่หวังเปิดทางหนี แต่ไปไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่ยิงสวนกลับทำให้คนร้ายเสียชีวิตทันที 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา       ล่าสุดภายหลังปะทะ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ม.ค. 2565 พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี พ.อ.อิศรา จันทกระยอม ผบ.กกล.ทพ.จชต. พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผบ.ฉก.ทพ.43 พร้อมด้วย อัยการ และแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี เดินทางเข้าชันสูตรพลิกศพคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 2…

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แยกกันไม่ออก

Loading

โดย…ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็น “วันกองทัพไทย” โดยถือเอาวันสำคัญในประวัติศาสตร์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชย์แห่งพม่า และทำให้กรุงศรีอยุธยาปลอดจากศึกใหญ่จากพม่าไปประมาณ 100 ปี เป็นที่น่าเสียดายที่เด็กไทยสมัยนี้แทบไม่รู้จักพระมหากษัตริย์และบุคคลสำคัญที่กอบกู้และรักษา พัฒนาประเทศให้มั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน เพราะรัฐมนตรีศึกษาธิการในรัฐบาลสมัยหนึ่ง ให้ปรับปรุงการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ไทยเสียใหม่ จนเด็กไทยแทบไม่รู้จักที่มาที่ไปของแผ่นดินที่ตนเกิดและเติบโตขึ้นมา กล่าวกันว่า วิธีดีที่สุดและได้ผลที่สุดในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข คือ การทำให้เด็กไทยไม่รู้ที่มาที่ไปของตนเอง ไม่รู้ความเป็นมาของประเทศ ไม่มีความภูมิใจในความเป็นมาของประเทศ ไม่รู้ถึงบทบาทและความสำคัญของสถาบันกษัตริย์ พวกเขาใช้เวลายี่สิบปีจนบรรลุวัตถุประสงค์ระดับหนึ่ง เมื่อความภูมิใจ ความหยิ่งในความเป็นมาของประเทศของคนรุ่นใหม่แทบจะไม่เหลือ เรื่องนี้ไปโทษเด็กไม่ได้ แต่ต้องโทษนักการเมืองบางคนตั้งแต่รุ่นนั้นจนถึงปัจจุบัน มีสิ่งละอันพันละน้อยที่ไม่ได้เป็นประวัติศาสตร์เกี่ยวกับยุทธหัตถีมาเลาให้ฟัง นักประวัติศาสตร์บางคนได้ตั้งคำถามด้วยความสงสัยว่า ช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ใช้กระทำยุทธหัตถีวันนั้น ตัวเล็กกว่าช้างของพระมหาอุปราชมาก ซึ่งหมายถึงว่า เมื่อตัวเล็กกว่า พละกำลังก็ย่อมน้อยกว่า แล้วจะงัดแบกคู่ต่อสู้จนตัวลอย ทำให้พระมหาอุปราชถูกพระนเรศวรมหาราชฟันจนขาดสะพายแล่งบนคอช้าง ได้อย่างไร นับว่าคนตั้งข้อสังเกตเป็นคนละเอียดมาก ผู้เขียนเคยอ่านเรื่องนี้มาเหมือนกัน ซึ่งน่าจะยืนยันได้ว่า ช้างพระที่นั่งของพระนเรศวรมหาราชตัวเล็กกว่าช้างของพระมหาอุปราชจริง แล้วทำไมจึงดันจนคู่ต่อสู้จนเสียศูนย์ ทำให้ผู้นั่งบนคอข้างเสียศูนย์และถูกฟันจนตาย เรื่องเล่าว่า ก่อนนี้ช้างพม่าซึ่งใหญ่กว่าได้ใช้พละกำลังดันและแบกช้างพระที่นั่งจนตัวลอย พระมหาอุปราชได้ ฉวยโอกาสนี้จ้วงฟันพระนเรศวรมหาราชแต่ทรงหลบได้ แต่พระมาลาถูกฟันขาดจนกลายเป็นพระมาลาเบี่ยงซึ่งเล่าไว้แล้วในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ดี ช้างพระที่นั่งของพระนเรศวรมหาราช ได้รวมพลังแรงฮึดเป็นครั้งสุดท้ายแบกช้างคู่ต่อสู้จนตัวลอย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชใช้โอกาสนี้จ้วงฟันพระมหาอุปราชจนเสียชีวิตบนคอช้าง…

แบงก์ชาติอินโดนีเซียยอมรับถูกแฮกเกอร์โจมตีระบบ

Loading

  ธนาคารกลางอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี (20 ม.ค.) ระบุว่า ธนาคารได้ถูกแฮกเกอร์โจมตีด้วยวิธี ransomware แต่ความเสี่ยงจากการโจมตีดังกล่าวมีไม่มากนัก และไม่กระทบต่อระบบการให้บริการของทางธนาคาร “เราถูกโจมตี แต่ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากเรามีการใช้มาตรการป้องกันล่วงหน้า และที่สำคัญที่สุดคือการให้บริการสาธารณะของธนาคารกลางอินโดนีเซียไม่ได้ถูกกระทบแต่อย่างใด” นายเออร์วิน ฮาร์โยโน โฆษกธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าว นายเออร์วินกล่าวเสริมว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.2564 และธนาคารกลางได้ทำการกู้ระบบเรียบร้อยแล้ว DarkTracer ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในระบบออนไลน์ เปิดเผยว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียอยู่ในรายชื่อเป้าหมายของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้ซอฟท์แวร์ที่เรียกว่า Conti ในการโจมตีระบบ DarkTracer ระบุว่า แฮกเกอร์ดังกล่าวจะใช้ซอฟท์แวร์ Conti เข้าโจมตีระบบของเหยื่อ ทำให้ระบบถูกเข้ารหัส และเพื่อแลกกับการถอดรหัส เหยื่อจะต้องจ่ายค่าไถ่เป็นเงินสกุลคริปโทมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งหากขัดขืน แฮกเกอร์ก็จะขู่เปิดเผยข้อมูลลับในระบบเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงินค่าไถ่ ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียเคยถูกแฮกเกอร์โจมตีด้วยวิธี DDoS (Distributed Denial of Service) ในปี 2559 แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ไม่มีการสูญเสียเงินจากการโจมตีดังกล่าว _____________________________________________________________ ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ    /   …

เล่นไม่เลือก แฮกเกอร์โจมตีกาชาด ทำข้อมูลคนครึ่งล้านหลุด

Loading

  แฮกเกอร์โจมตีกาชาด ทำข้อมูลหลุดว่า 5 แสนคน ขึ้นชื่อว่าแฮกเกอร์ ก็เล่นโจมตีไม่เลือกหน้าจริง ๆ โดยตอนนี้เกิดการโจมตีขึ้นกับหน่วยงานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีภาวะความเสี่ยงสูง หรือ highly vulnerable people ซึ่งรวมถึงบุคคลที่ต้องแยกออกจากครอบครัวด้วยความขัดแย้งและภัยพิบัติต่าง ๆ . การแฮกครั้งนี้บังคับให้หน่วยงานกาชาดต้องปิดระบบไอทีที่สนับสนุนการใช้งานโปรแกรมที่รวบรวมข้อมูลครอบครัวที่แยกจากกันด้วยความขัดแย้ง การอพยพ หรือภัยพิบัติ และยังไม่ชัดเจนใครจะมีใครออกมาเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ข้อกังวลเร่งด่วนที่สุดคือข้อมูลที่อาจรั่วไหลออกไปได้ . การแฮกดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริษัทในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งสภากาชาดได้ว่าจ้างให้เป็นผู้จัดเก็บข้อมูลเกือบจะทั้งหมดของกาชาด โดยมาจากหน่วยงานกาชาดทั่วโลกกว่า 60 แห่ง รวมทั้งเครือข่ายอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ทั่วโลกที่กาชาดใช้ในเข้าช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ . ความกังวัลดังกล่าวคือ มีข้อมูลส่วนบุคคลหลุดออกไปมากกว่า 515,000 คน และข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน และคาดว่าแฮกเกอร์จะนำข้อมูลดังกล่าวไปขายครับ ที่มาข้อมูล https://edition.cnn.com/2022/01/19/politics/red-cross-cyberattack/     ที่มา : techhub.      /     วันที่เผยแพร่ 20 ม.ค.2565 Link : https://www.techhub.in.th/red-cross-cyberattack/