ทวิตเตอร์ ‘กรมสรรพากร’ ถูกแฮกขโมยบัญชี โดนโยงปมภาษีคริปโต

Loading

  ทวิตเตอร์ ‘กรมสรรพากร’ ถูกแฮกขโมยบัญชี โดนโยงปมภาษีคริปโต แจ้งผู้ใช้งานบนโซเชียลระมัดระวัง หากได้รับข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว วันที่ 16 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอคเคาท์ทวิตเตอร์ของกรมสรรพากร เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ ชื่อบัญชี และข้อความ รวมถึงข้อความทวีตที่หายไป แล้วประกาศรับโฆษณา เบื้องต้นคาดว่า ทวิตเตอร์ของกรมสรรพากรถูกขโมยบัญชี จึงมีการแจ้งผู้ใช้งานบนโซเชียลระมัดระวัง หากได้รับข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กรมสรรพากรมีความคิดที่จะจัดเก็บภาษีคริปโต ต้องจ่าย 15% ทุกรายการโดยไม่หักรายการที่ขาดทุน ทำให้มีการเชื่อมโยงกับประเด็นนี้ที่คาดว่าโดนโมยบัญชีทวิตเตอร์ของกรมสรรพากร หากมีความคืบหน้าและรายละเอียดจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง         ที่มา : ข่าวสดออนไลน์       /     วันที่เผยแพร่ 16 ม.ค.2565 Link : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6836595

ล้างข้อมูลบนอุปกรณ์ IT ให้ปลอดภัย กับบริษัททำลายข้อมูลมืออาชีพ

Loading

  จาก ผลสำรวจในปี 2012 ได้กล่าวไว้ว่า “ภายใน ปี 2020 โลกจะสร้างข้อมูลดิจิทัลกว่า 5.2 TB ในมนุษย์แต่ละคน” แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการเติบโตของของโลกอินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกกันว่า Internet of Things (IoT) ทำให้ การล้างข้อมูล เมื่อหมดความจำเป็นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บทความนี้เราเลยจะมาบอกถึง 6 เหตุผลว่าทำไมเราถึงควรใช้บริการบริษัททำลายข้อมูลมืออาชีพ ในการล้างข้อมูลในคอมพิวเตอร์ มือถือ หรืออุปกรณ์ IT เก่าที่เราเลิกใช้แล้ว  1. ปกป้องข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัย ข้อมูลของเราไม่ได้มีมูลค่าลดลงเมื่ออยู่บนอุปกรณ์ IT ที่พังแล้ว หรืออยู่ในฮาร์ดดิสก์ที่คุณถอดออกมาเก็บไว้ในกล่องตรงมุมห้อง หรือแม้การ Format HDD ก็ไม่ได้หมายความว่าเราล้างข้อมูลจนหมดสิ้นแล้ว แต่การล้างข้อมูล หรือการทำลายข้อมูลที่ปลอดภัย และถูกต้องที่สุดสามารถทำได้ ดังนี้ – Degaussing คือการล้างข้อมูลด้วยสนามแม่เหล็ก บนแผ่นฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นการล้างข้อมูลที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด – Wiping คือการล้างข้อมูลด้วยโปรแกรมทำลายข้อมูลถาวรที่ไม่สามารถกู้คืนได้ 100% รวมถึงข้อมูลที่อยู่ลึกระดับที่เราไม่สามารถดึงมาดูได้ ซึ่งวิธีนี้เรายังสามารถนำอุปกรณ์ IT ที่เราล้างข้อมูลแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างปลอดภัย ข้อมูลไม่รั่วไหล รวมถึงเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากการสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย –…

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าต้อง ‘เวิร์คฟรอมโฮม’ ในปี 2565

Loading

  แฮกเกอร์จะใช้เทคนิค Social Engineering มาโจมตี การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงไม่จบลง แม้ว่าจะเข้าสู่ปี 2565 แล้วก็ตาม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ดังนั้นบทความนี้จะเป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรหากในปีนี้พนักงานยังต้องเวิร์คฟรอมโฮมกันต่อไปครับ เมื่อพนักงานทำงานจากระยะไกล สิ่งแรกที่ทีมไอทีและทีมซิเคียวริตี้ต้องเผชิญคือ ความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้น เพราะแฮกเกอร์จะใช้เทคนิค Social Engineering มาโจมตีพนักงานและผู้บริหารที่ทำงานจากที่บ้าน เพื่อพยายามแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายขององค์กร ทำให้องค์กรต้องเร่งสรรหาพนักงานใหม่ที่มีความสามารถทางด้านเทคโนโลยี ตลอดจนต้องรักษาพนักงานที่มีความสามารถทางด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ไว้อย่าให้หลุดมือ มีความเป็นไปได้ที่องค์กรต่างๆ จะหันไปพึ่งพาบริการจากบริษัทภายนอก (Outsource) เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือในบางองค์กรอาจหันไปใช้ระบบอัตโนมัติที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร เพราะแม้ว่าภาคธุรกิจจะประสบปัญหาความขาดแคลนนี้มานาน แต่ก็ยังไม่ให้ความสำคัญกับผู้สำเร็จการศึกษาใหม่และนักศึกษา จนทำให้พวกเขาไม่สามารถเรียนรู้ หรือเก็บประสบการณ์จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญได้ ยิ่งไปกว่านั้น องค์กรยังต้องเคร่งครัดในการรักษากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งนั่นรวมไปถึงข้อมูลที่อยู่ในแชทที่มักจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงาน และไฟล์ต่างๆ ที่ถูกแลกเปลี่ยนไปมาอยู่จำนวนมาก โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มีพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ปฏิบัติตามแนวทางการรักษาความปลอดภัยขององค์กรอย่างเคร่งครัด  ขณะที่พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านจะมีอุปกรณ์โดยเฉลี่ย 8 เครื่อง ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้านของพวกเขาที่ไม่ได้มีโซลูชั่นด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ที่ดีเท่าเครือข่ายขององค์กร ทำให้เกิดความเสี่ยงที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านั้นมาเข้าถึงระบบเครือข่ายขององค์กรผ่านระบบเครือข่ายในบ้านของพนักงาน โดยความผิดพลาดของพนักงานเพียงคนเดียวอาจทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงฐานข้อมูลและระบบสำคัญขององค์กรจนก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลได้ การเวิร์คฟรอมโฮมเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับธุรกิจจำนวนมากครับ แม้ว่าอุตสาหกรรมและองค์กรบางแห่งจะตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจ แต่รูปแบบของการคุกคามก็กลายเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นจนองค์กรไล่ตามแทบไม่ทัน…

ตำรวจ’แอลเอ’เผยจับคนร้ายได้แต่ต้องปล่อย?! ทำเหตุอาชญากรรมล้นเมืองยุคโควิด

Loading

Los Angeles Police Deputy Chief, Blake Chow (Right) and Captain III, Brent McGuyre (Left) of the Hollywood Police Division participate in the Thai Business Safety meeting at Thailand Plaza, Thai Town, Hollywood, Los Ang   ผู้บัญชาการตำรวจระดับสูงของนครลอส แอนเจลิส หรือ LAPD เข้าร่วมประชุมกับชาวชุมชนไทยเพื่อหลังได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุก โจรกรรมและชิงทรัพย์ร้านค้าผู้ประกอบการชาวไทยในนครลอส แอนเจลิสบ่อยครั้งมากขึ้น เผยจับมาแล้วต้องปล่อยเพราะนักโทษล้นคุกยุคโควิด-19 “คนร้ายทุบเข้าไปกระจกแตก แล้วก็มุดที่หน้าประตู แล้วก็มุดเข้าไปที่หน้าประตูอันนี้นะคะแล้วก็เดินเข้าไปในร้านทั้งหมด” เจริญพร แฮ็กเกอร์ เจ้าของร้านนวดแผนไทย และฝังเข็ม Thai Spa & Acupuncture ที่เมืองแชทส์เวิร์ธ…

ตำรวจอังกฤษได้จัดตั้งเขตห้ามบินเหนือปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ประทับหลักของควีนอลิซาเบธ

Loading

                                                                ปราสาทวินด์เซอร์ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ห้ามมิให้บินเหนือปราสาทของราชินี ตำรวจอังกฤษได้จัดตั้งเขตห้ามบินเหนือปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ประทับหลักของควีนอลิซาเบธที่ 2 หลังจากการตรวจสอบด้านความปลอดภัย กองกำลังตำรวจเทมส์แวลลีย์ประกาศเมื่อวันที่ 11 มกราคม ว่าห้ามบินเหนือปราสาทวินด์เซอร์จะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม ห้ามเครื่องบินเข้าไปในน่านฟ้าเหนือปราสาท 760 เมตร ภายในรัศมี 2.3 กม.โดยไม่ได้รับอนุญาตพิเศษ “คำสั่งห้ามเป็นมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรักษาความปลอดภัยของชุมชน ที่อาศัยอยู่ใกล้กับสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษแห่งนี้” ถ้อยแถลงระบุ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากชายวัย…

“ดีอีเอส”เตือนข่าวปลอมตรวจสอบสิทธิ สปสช. ทางไลน์ check-sith ระวังถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว

Loading

สปสช.ชี้เป็นการแอบอ้างหน่วยงานรัฐเพื่อหลอกดึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ประสานทางไลน์ระงับการใช้งานแล้ว พร้อมเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างดังกล่าว น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า  ตามที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ตรวจสอบสิทธิเกี่ยวกับ สปสช.ได้ทางไลน์ check-sith ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ โดยการส่งต่อข้อมูลระบุว่า ตอนนี้สามารถตรวจสอบสิทธิผู้ป่วยผ่านช่องทางไลน์ @check-sith ได้แล้ว เพียงแค่พิมพ์เลขบัตรประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด ซึ่งทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ชี้แจงว่า สปสช. ไม่เคยมีการจัดทำการสื่อสารดังกล่าว เป็นการแอบอ้างหน่วยงานรัฐเพื่อหลอกดึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน โดย สปสช. ได้มีการประสานไปยัง บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ระงับการใช้งาน Line @check-sith แล้ว พร้อมกันนี้ทางสำนักกฎหมาย สปสช. ยังได้เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างดังกล่าว จึงขอย้ำกับประชาชนว่า สปสช. ไม่เคยมีการสื่อสารใดๆ ผ่านช่องทางนี้     ซึ่งในกรณีที่ประชาชนต้องการที่จะตรวจสอบสิทธิหลักประกันสุขภาพของตนเอง สามารถดำเนินการได้โดยผ่าน…