ตัวอย่างปืนส่วนบุคคลแบบอัจฉริยะ ยิงได้เฉพาะเมื่อตรวจพบลายนิ้วมือที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
จับตาโลกแจ้งเกิดปืนส่วนบุคคลแบบอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีไอทีในการลดอุบัติเหตุ คาดตลาดบูมในสหรัฐอเมริกา ฟังก์ชันเด็ดคือ การยิงได้เฉพาะเมื่อตรวจพบลายนิ้วมือที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
อาวุธทรงพลังอย่างปีนนั้นเป็นตลาดที่ยังคงมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ไม่ขาดสาย ประชาชนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจซื้อปืน ทั้งที่ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของปืนยังคงเป็นปัญหาตลอดเวลา ล่าสุดตลาดปืนกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยการแจ้งเกิดเซกเมนต์ใหม่ที่มีจุดขายว่าสามารถป้องกัน “การใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ” พระเอกของเซกเมนต์นี้คือ ปืนอัจฉริยะที่สามารถลั่นไกยิงได้หลังจากการตรวจสอบลายนิ้วมือของเจ้าของ หรือผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดยปีนกลุ่มนี้กำลังได้รับการทดสอบจากผู้บังคับใช้กฎหมายในสหรัฐอเมริกา และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ
รายงานของรอยเตอร์ (Reuters) ระบุว่า มีบริษัทอย่างน้อย 2 แห่งในสหรัฐฯ ที่มุ่งมั่นพัฒนาปืนอัจฉริยะเหล่านี้ ได้แก่ LodeStar Works ในไอดาโฮ กำลังพัฒนาในรูปปืนพกขนาด 9 มม. ตัวปืนมีเทคโนโลยีจดจำลายนิ้วมือและระบบระบุความถี่วิทยุ (RFID) ในขณะที่ SmartGunz LLC ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคนซัส กำลังพัฒนาและทดสอบปืน RFID ในขั้นเบต้า
รายงานจากยูเอสเอทูเดย์ (USA Today) อธิบายว่า ปืนอัจฉริยะสามารถเปิดใช้งานได้ผ่าน RFID ด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถรองรับอุปกรณ์สวมใส่ที่ผู้ใช้กำลังสวมอยู่ได้ เช่น นาฬิกา และสร้อยข้อมือไฮเทคที่เปิดใช้งานระบบตรวจจับสัญญาณบริเวณใกล้เคียง ขณะเดียวกัน ปืนจะมีระบบจดจำข้อมูลไบโอเมตริกซ์ ซึ่งตรวจจับผู้ใช้ผ่านลายนิ้วมือและฝ่ามือได้แม่นยำ
การตรวจสอบความถูกต้องของผู้ใช้ปืนอัจฉริยะแบบหลายชั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันปัญหา “ปืนลั่น” หรือการยิงโดยไม่ได้ตั้งใจ และปิดโอกาสเป็นไปได้ที่ปืนจะถูกใช้โดยผู้ที่ไม่เหมาะสม เมื่อตรวจพบผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาต ปืนอัจฉริยะสามารถปิดใช้งานได้อัตโนมัติ เป็นการลดความเสี่ยงจากการสูญเสียได้อีกทาง
รายงานย้ำอีกว่า LodeStar ซึ่งสาธิตและทดสอบการยิงให้สำนักข่าว Reuters ได้ชมนั้นไม่พบปัญหาใดในการใช้งาน ซึ่งนอกจากระบบอ่านลายนิ้วมือ ตัวปืนยังมีแป้น PIN สำหรับเจ้าของในการรีเซ็ตกรณีสำรองด้วย
อีกมุมของปืนอัจฉริยะจาก LodeStar ขนาด 9 มม.
ข้อสังเกตของปืนอัจฉริยะคือ ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อปืนเปียก และผู้ใช้ไม่สามารถปลดล็อกอาวุธปืนในหน่วยไมโครวินาทีเหมือนในปืนดั้งเดิม คาดว่าจะมีการพัฒนาต่อเนื่องใน 2 ข้อสังเกตนี้ ระหว่างที่ปืนอัจฉริยะกลุ่มแรกเริ่มวางจำหน่ายแล้ว
ทั้ง 2 บริษัทคาดว่าจะนำปืนอัจฉริยะออกสู่ตลาดในปีนี้ โดยรุ่นของ LodeStar ตั้งราคาไว้เริ่มต้น 895 ดอลลาร์สหรัฐ (29,776 บาท) และ SmartGunz มี 2 ราคา คือ 1,795 ดอลลาร์ (59,719 บาท) สำหรับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และ 2,195 ดอลลาร์ (73,027 บาท) สำหรับพลเรือน
ยังไม่แน่ชัดว่าตลาดปืนอัจฉริยะจะลูกผีหรือลูกคน เพราะนักวิจารณ์ตั้งคำถามถึงความสามารถของปืนอัจฉริยะในการตอบสนองอย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย ซึ่งเมื่อขั้นตอนการตรวจสอบของปืนอาจทำให้การยิงล่าช้า แปลว่าปืนอัจฉริยะยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองว่าจะตอบหรือไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
Rob Regert จากบริษัท SGW Designworks กับปืนอัจฉริยะของ LodeStar ขนาด 9mm
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 13 ม.ค. 2565
Link : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9650000003764