เจ้าหน้าที่ยูเครนกำลังสอบสวนการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ต่อระบบอินเทอร์เน็ตของหน่วยงานรัฐบาลประมาณ 70 แห่ง รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ คณะรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสภากลาโหม แม้ยูเครนหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวหามอสโกโดยตรง แต่เป็นที่เข้าใจได้ชัดว่า รัสเซียคือผู้ต้องสงสัย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า ข้อความที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลยูเครนที่ถูกโจมตีไซเบอร์ เขียนเป็นภาษายูเครน รัสเซีย และโปแลนด์ อ่านว่า “ชาวยูเครนทั้งหลาย! ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของพวกแก ถูกอัพโหลดเข้าเครือข่ายสาธารณะแล้ว ข้อมูลทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ถูกทำลายและจะไม่มีทางกอบกู้กลับคืนได้” และ “ข้อมูลเกี่ยวกับพวกแกทั้งหมด ได้กลายเป็นสาธารณะ จงกลัวและรอรับมือสิ่งเลวร้ายที่สุด นี่คือสิ่งตอบแทนสำหรับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของพวกแก”
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีคล้ายกันนี้ในอดีต
รัฐบาลยูเครนเผยเมื่อวันศุกร์ว่า สามารถกู้เว็บไซต์ที่ถูกโจมตีได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว และข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกขโมย เว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐจำนวนมาก ถูกสั่งระงับใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้การโจมตีแพร่กระจาย
นายโจเซฟ บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง กล่าวประณามการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ และว่าคณะกรรมาธิการการเมืองและความมั่นคง และสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหภาพยุโรป เตรียมนัดประชุมหารือกัน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือยูเครน “ผมไม่สามารถกล่าวโทษใครได้ เพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่เชื่อว่าทุกคนคงเดาออกว่าเป็นฝีมือใคร” บอร์เรลล์ กล่าว
ความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังปิดฉากการเจรจา โดยไม่มีความคืบหน้า ระหว่างรัสเซียกับกลุ่มชาติตะวันตก ที่กลัวว่ามอสโกจะบุกโจมตียูเครนครั้งใหม่ เหมือนที่เคยทำเมื่อปี 2557.
เครดิตภาพ – Reuters
เครดิตคลิป – NBC News
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 14 ม.ค.2565
Link : https://www.dailynews.co.th/news/668205/