เอเจนซีส์ – สถานทูตจีนประจำกรุงลอนดอนวันนี้ (8 ก.พ.) แถลงย้ำจุดยืนผู้นำประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เรียกร้องให้อังกฤษส่งมอบหมู่เกาะฟอล์คแลนด์กลับคืนให้อาร์เจนตินาเกิดขึ้นระหว่างที่รายงานลับรัฐบาลกาฐมาณฑุรั่วพิสูจน์ข้อสงสัยปักกิ่งกำลังยึดพื้นที่เนปาลบริเวณแนวพรมแดน
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่าโพสต์รายงานวันนี้ (8 ก.พ.) ว่า สถานทูตจีนประจำอังกฤษในกรุงลอนดอนออกแถลงการณ์ในวันอังคาร (8) ยืนยันอีกครั้งต่อจุดยืนของรัฐบาลปักกิ่งที่ยืนเคียงข้างอาร์เจนตินา เรียกร้องให้อังกฤษส่งมอบหมู่เกาะฟอล์คแลนด์คืนให้อาร์เจนตินาสร้างความไม่พอใจให้อังกฤษเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของทางสถานทูตจีนที่เรียกเกาะฟอล์คแลนด์ (Falklands) ในภาษาสเปนว่า เกาะมาลวินาส (Malvinas) มีใจความว่า
“เราสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งต่อการอ้างสิทธิการถือครองอย่างชอบธรรมต่อการมีอำนาจการปกครองโดยสมบูรณ์หมู่เกาะมาลวินาส จีนสนับสนุนเสมอมาที่ว่าดินแดนพิพาทระหว่างประเทศสมควรที่ได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาสันติภาพเพื่อเป็นไปกับเป้าหมายและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ”
และเสริมต่อว่า “พวกเราหวังว่าอังกฤษจะออกมาในทางบวกต่อคำขอของอาร์เจนตินาโดยเร็วที่สุด และค้นพบทางออกที่ยั่งยืน มีเหตุผล และสันติเพื่อเป็นไปตามมติที่เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ”
ทั้งนี้ พบว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีอาร์เจนตินา อัลเบร์โต เฟร์นันเดซ (Alberto Fernandez) ได้หารือร่วมกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่กรุงปักกิ่ง
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่า ในสนธิสัญญาที่มีการลงนามร่วมกันระหว่างผู้นำทั้งสองในระหว่างการแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ยังรวมไปถึงการสนับสนุนจีนในการอ้างสิทธิเหนือไต้หวัน
ทั้งนี้ อ้างอิงจากเว็บไซต์ของสถานทูตจีนประจำกรุงลอนดอน พบว่า ทั้งสีและเฟร์นันเดซกล่าวถึงความเป็นเพื่อนที่ลึกซึ้งและทางอาร์เจนตินาได้ลงนามในโครงสร้างพื้นฐานหลักของจีน “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ Belt and Road infrastructure initiative
นอกเหนือจากนี้ทั้งคู่ยังลงนามในข้อตกลงที่ระบุว่าจีนยืนยันการสนับสนุนต่อการอ้างสิทธิเหนือเกาะฟอล์คแลนด์ของอาร์เจนตินา แลกเปลี่ยนกับที่เฟร์นันเดซสนับสนุนนโยบายจีนเดียวของปักกิ่งที่อ้างสิทธิเหนือไต้หวัน
รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ลิซ ทรัส (Liz Truss) ไม่พอใจอย่างหนักและยืนยันว่า เกาะฟอล์คแลนด์เป็นของอังกฤษ “เราขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อคำถามใดๆ เกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ ซึ่งหมู่เกาะฟอล์คแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอังกฤษและเราจะปกป้องสิทธิการตัดสินอนาคตตัวเองของพวกเขา จีนต้องเคารพต่ออธิปไตยของหมู่เกาะฟอล์คแลนด์”
การออกมาเรียกร้องสิทธิหมู่เกาะฟอล์คแลนด์คืนให้อาร์เจนตินาเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่บีบีซี สื่ออังกฤษ ได้รายงานลับรัฐบาลกาฐมาณฑุที่รั่วออกมา และเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกจากรัฐบาลเนปาลที่สงสัยว่า ปักกิ่งกำลังบุกยึดพื้นที่บริเวณพรมแดนตะวันตกไกลของตัวเอง
รายงานฉบับนี้ได้รับคำสั่งให้ทำขึ้นเมื่อกันยายนปีที่ผ่านมาตามหลังมีการร้องเรียนเกิดขึ้นว่า “จีน” ได้ทำการบุกรุกเข้าไปในเขตฮัมลา (Humla) เขตตะวันตกไกลของเนปาล
อย่างไรก็ตาม สถานทูตจีนประจำเนปาลออกมาปฏิเสธกับบีบีซีว่าไม่มีการบุกยึดเกิดขึ้น
รัฐมนตรีการสื่อสารของเนปาล Gyanendra Bahadur Karki แถลงว่า ปัญหาข้อพิพาทใดๆ ทางพรมแดนจะได้รับการแก้ไขผ่านช่องทางการทูต
“ไม่ว่าจะเป็นกับอินเดียหรือกับจีน หากว่ามีปัญหาเกี่ยวกับพรมแดนของเรา พวกเราจะทำการแก้ไขผ่านช่องทางการทูต”
สื่ออังกฤษชี้ว่า ในเวลานี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุใดที่รายงานฉบับนี้รัฐบาลกาฐมาณฑุจึงยังไม่ยอมเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะเสียที แต่ทว่าเป็นที่รับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเนปาลและจีนได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโต้อินเดีย
โดยแดนภารตะเพื่อนบ้านที่อยู่ทางใต้ของเนปาลมีปัญหาความขัดแย้งต่อพรมแดนพิพาทมาอย่างยาวนานกับกาฐมาณฑุ
ผลของรายงานการบุกครอบครองพื้นที่เนปาลของจีนในครั้งนี้น่าจะสร้างความกดดันให้เนปาลที่มีความใกล้ชิดกับจีนเพิ่มขึ้น สื่ออังกฤษชี้
ทั้งนี้ พบว่าเนปาลและจีนมีพรมแดนยาวติดต่อกันราว 1,400 กิโลเมตร และอยู่ภายใต้สนธิสัญญาตกลงระหว่างกันที่ลงนามในยุค 60
ในรายงานฉบับนี้มีการค้นพบเป็นต้นว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจีนออกคำสั่งจำกัดกิจกรรมทางศาสนาภายในเขตลูลังจอง (Lalungjong) ในฝั่งเนปาล ซึ่งใกล้กับภูเขาไคลาช (Mount Kailash) ในฝั่งจีนที่ถือเป็นสถานที่ดึงดูดเหล่านักแสดงบุญจากทั้งชาวฮินดูและชาวพุทธ
นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าหน้าที่จีนได้ออกคำสั่งชาวนาเนปาลจำกัดวัวควายของตัวเองเล็มหญ้าในพื้นที่
และพบในพื้นที่เดียวกันนี้พบว่าจีนยังสร้างรั้วรอบหลักพรมแดน และยังพยายามสร้างคลองและถนนขึ้นในฝั่งเนปาล แต่ตอนหลังทางทีมผู้จัดทำรายงานที่ประกอบไปด้วยตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า การสร้างของจีนในครั้งแรกที่คิดว่ากระทำขึ้นในฝั่งเนปาลแต่แท้จริงแล้วที่เกิดขึ้นภายในฝั่งของจีน
ในรายงานผู้จัดทำยังกล่าวว่า พบว่าชาวนาเนปาลในพื้นไม่ค่อยกล้าที่จะให้ข้อมูลในปัญหาพรมแดนมากนักเนื่องมาจากบางส่วนต้องพึ่งพาการเข้าถึงการค้าข้ามพรมแดนกับจีนเพื่อปากท้อง
รายงานได้เสนอให้รัฐบาลกาฐมาณฑุส่งทหารไปประจำในพื้นที่เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในพรมแดนของประเทศ
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 8 ก.พ.65
Link : https://mgronline.com/around/detail/9650000013138