เช็ค! ความช่วยเหลือ คนไทยในยูเครน- รัสเซีย ต้องทำอย่างไรบ้าง?

Loading

สถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างยูเครนและรัสเชีย ส่งผลให้รัฐบาลยูเครนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 เป็นต้นไป “กรมการจัดหางาน”ได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 -10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ ถึงสถานการณ์ในประเทศยูเครนและรัสเซีย เพื่อให้ประชาสัมพันธ์ต่อไปยังคนหางานที่ต้องการเดินทางไปทำงานประเทศยูเครนและสหพันธรัฐรัสเซียทราบสถานการณ์ก่อนตัดสินใจเดินทาง  – ระงับคนไทยไปทำงานในยูเครน ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานในประเทศยูเครน จำนวน 139 คน เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 126 คน และทำงานประเทศรัสเซีย จำนวน 441 คน เป็นสมาชิกกองทุนฯ จำนวน 406 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานที่เดินทางไปทำงานด้วยตนเอง และ Re-entry ซึ่งหากมีประกาศอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการอพยพคนไทยกลับประเทศ ทั้งนี้ สำหรับแรงงานไทย ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และได้รับผลกระทบจนต้องเดินทางกลับประเทศจะได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ รายละ 15,000 บาทตามระเบียบกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยกิจการที่จะใช้จ่ายเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ พ.ศ.2549 โดยให้จ่ายเงินจากกองทุน สงเคราะห์กรณีสมาชิกกองทุนประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสิ้นสุดการเป็นสมาชิกกองทุน เนื่องจากภัยสงครามหรือปัญหาความไม่สงบหรือภัยธรรมชาติหรือเกิดโรคระบาด ซึ่งทางการของประเทศนั้นๆ ประกาศกำหนดแล้ว  – เช็คข้อมูลญาติพี่น้องทำงานที่ยูเครน สำหรับผู้ที่มีญาติพี่น้องทำงานอยู่ที่ประเทศยูเครนในขณะนี้ หากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศยูเครน…

นายกฯ ห่วงใย สั่งการให้ กต.ดูแลคนไทยในยูเครน ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง กำหนดแผนอพยพให้ความช่วยเหลือ

Loading

  นายกฯ ห่วงใย สั่งการให้กต.ดูแลคนไทยในยูเครน ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง กำหนดแผนอพยพให้ความช่วยเหลือให้ดีที่สุด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนซึ่งมีความตึงเครียดสูงขึ้น และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน จึงได้สั่งการอย่างใกล้ชิด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นหลักในการวางแผนให้ความช่วยเหลือคนไทย เตรียมพร้อมให้เท่าทันสถานการณ์ ซึ่งมีความคืบหน้าล่าสุดดังนี้ นับตั้งแต่วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2565) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน (เมืองลวิฟ)” โดยจะใช้โรงแรม Цісар หรือ Tsisar เป็นศูนย์หลัก (ที่อยู่ Horodotska St , 65 , Lviv , Lviv Oblas t, Ukraine , 79000) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไปประจำ เพื่อใช้เป็น…

ชาวยูเครนแห่หนีภัยสงคราม ใช้สถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบภัย

Loading

ชาวยูเครนในกรุงเคียฟจำนวนมาก แห่อพยพมาหลบภัยภายในสถานีรถไฟใต้ดินในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา หลังรัสเซียยังรุกหนักโจมตียูเครนจากหลายทิศทาง กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ยังอยู่ภายใต้การประกาศภาวะเคอร์ฟิว โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานยามวิกาลตั้งแต่เวลา 22.00 น. ไปจนกระทั่งถึงเวลา 07.00 น. ของวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ยูเครนถูกโจมตีอย่างเต็มรูปแบบโดยรัสเซีย ขณะที่การขนส่งสาธารณะก็จะหยุดให้บริการในช่วงเวลาเคอร์ฟิวด้วย เว้นแต่สถานีรถไฟใต้ดินที่จะยังคงเปิดตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่อใช้เป็นหลุมหลบภัยหรือสถานที่หลบระเบิดสำหรับประชาชน มีรายงานว่าค่ำคืนที่ผ่านมาสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงเคียฟคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนจำนวนมาก ที่อพยพและพาครอบครัวลูกเด็กเล็กแดงรวมทั้งสัตว์เลี้ยง หอบข้าวของที่จำเป็นมาจับจองพื้นที่ เพื่ออาศัยพักหลับนอนภายในสถานีรถไฟใต้ดิน โดยส่วนใหญ่เตรียมเสบียงมาเพียงพอราว 2 วัน เพราะหวังว่าสถานการณ์การสู้รบจะยุติลงโดยเร็ว และคิดว่าจุดนี้จะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขา     ทั้งนี้ ผู้อพยพหลายคนเปิดใจว่า พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดสงครามขึ้น และรู้สึกช็อกที่ประธานาธิบดีปูตินตัดสินใจเช่นนี้ โดยมีรายงานว่ามีเสียงไซเรนดังขึ้นเกือบตลอดทั้งคืนในพื้นที่ดาวน์ทาวน์ของกรุงเคียฟ และยังมีรายงานเหตุระเบิดทั้งในเมืองคาร์เคียฟ และโอเดสซาด้วย ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่ามีประชาชนราว 100,000 คน ที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และยังมีพลเรือนอีกหลายพันคนที่หนีออกนอกประเทศเพื่อหนีภัยสงครามในครั้งนี้. ที่มา :เดลี่เมล์     ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    /  วันที่เผยแพร่ 25 ก.พ.65 Link :…

พบมัลแวร์ชั้นสูง Bvp47 กระจายตามบริษัทโทรคม หน่วยงานทหาร คาดเป็นของ NSA

Loading

  Pangu Lab บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์จากจีนรายงานถึงมัลแวร์ Bvp47 ที่ตั้งชื่อตามสตริงที่เจอซ้ำๆ กันในตัวมัลแวร์ว่าเป็นมัลแวร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก และมีความสามารถซับซ้อน สามารถซ่อนการสื่อสารได้ค่อนข้างแนบเนียน โดยคาดว่าจะเป็นมัลแวร์ตัวหนึ่งของ NSA Bvp47 ซ่อนการสื่อสารกับต้นทางผ่านทางแพ็กเก็ต TCP SYN เพื่อกระตุ้นการทำงานมัลแวร์และส่งคำสั่ง กระบวนการเชื่อมต่อเข้ารหัสอย่างรัดกุม และเมื่อเจาะเซิร์ฟเวอร์ต้นทางได้แล้วก็จะเจาะออกด้านข้างหาเซิร์ฟเวอร์ตัวอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จากการวิเคราะห์มัลแวร์ พบว่ามีการใช้เครื่องมือเจาะหลายตัว ตรงกับ Equation Group ที่ทำเครื่องมือรั่วออกมาเมื่อปี 2016 ทำให้คาดได้ว่า Bvp47 นี้ก็น่าจะเป็นของ NSA เหมือนกัน ทาง Pangu Lab ระบุว่า Bvp47 มีรายชื่อเหยื่ออยู่ในไฟล์ด้วย (โดยรายชื่อกระจายตามบริษัทโทรคมนาคม , สถาบันวิทยาศาสตร์ , มหาวิทยาลัย , หน่วยงานทางทหาร , และหน่วยงานทางเศรษฐกิจทั่วโลก โดยจีนมีเยอะสักหน่อย สำหรับประเทศไทยเองก็ระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญอยู่ในรายการ ที่มา – Pangu Lab     ที่มา…

เปิดโปง ‘ธนาคารสวิส’ ถูกใช้เป็นเส้นทางการเงินให้อาชญากรได้อย่างไร? ไทยแห่เปิดนับพันบัญชี

Loading

  ประเทศที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่สุดที่ใช้บริการเครดิตสวิสนั้นคือประเทศอย่างเวเนซุเอลาและประเทศอียิปต์ ซึ่งมีผู้เปิดบัญชีเครดิตสวิสประเทศละประมาณ 2,000 บัญชี และประเทศยูเครนกับประเทศไทย ที่มีผู้เปิดบัญชีอยู่ที่ประเทศละประมาณ 1,000 บัญชี สืบเนื่องจากที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้รายงานข่าวการเปิดโปงครั้งใหญ่อันเกี่ยวข้องกับธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของโลกอันได้แก่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) โดยการเปิดโปงดังกล่าวนั้นได้บอกเล่าถึงวิธีการที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยของธนาคารนั้นได้ดำเนินการปกปิดความมั่งคั่งของพวกเขา ซึ่งความมั่งคั่งดังกล่าวนั้นมีที่มาอันไม่ถูกกฎหมาย อาทิ มาจากการทรมาน การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการทุจริตเป็นต้น จากกรณีดังกล่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเอารายงานข่าวส่วนหนึ่งของสำนักข่าวการ์เดียน ซึ่งเป็นสำนักข่าวแรกๆที่รายงานการเปิดโปงนี้มานำเสนอมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การเปิดโปงข้อมูลบัญชีลูกค้าจำนวนกว่า 30,000 บัญชี ของธนาคารเครดิตสวัสจากทั่วโลกที่อยู่ในเอกสารที่รั่วไหลนั้นได้แสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านฟรังก์สวิส (3,538,151,085,000 บาท) ที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ในหนึ่งในสถาบันการเงินอันเป็นที่รู้จักดีที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และการเปิดโปงดังกล่าวนี้นั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับความล้มเหลวในกระบวนการตรวจสอบของธนาคารเครดิตสวิส แม้ว่าจะมีการให้คำมั่นสัญญาจากทางธนาคารมาโดยตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาว่าจะขจัดลูกค้าและเงินทุนอันน่าสงสัยออกไป อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานของสำนักข่าวการ์เดี้ยนร่วมกับสำนักข่าวอื่นๆนั้นพบว่า เครดิตสวิสยังคงมีการคงบัญชีและเปิดบัญชีใหม่ให้กับลูกค้าที่มีความเสี่ยงในด้านอาชญากรรมทั่วโลก ซึ่งอาชญากรรมที่ว่านี้ก็รวมไปถึงกรณีการค้ามนุษย์ในประเทศฟิลิปปินส์,ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงที่ต้องโทษจำคุกเพราะกรณีการจ่ายสินบน,มหาเศรษฐีผู้สั่งให้ฆาตกรรมแฟนสาป๊อปสตาร์ชาวเลบานอนที่ตอนนี้กำลังต้องต่อสู้ในหลายคดี,ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจน้ำมันของเวเนซูเอลา รวมไปถึงนักการเมืองผู้ทุจริตในยูเครนไปจนถึงอียิปต์ มีรายงานต่อไปด้วยว่า หนึ่งในบัญชีที่ถูกเปิดนั้น เจ้าของบัญชีเป็นผู้อยู่ในนครรัฐวาติกัน และยังพบด้วยว่าบัญชีนี้มีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนกว่า 350 ล้านปอนด์ (15,403,082,194 บาท) อันเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ไม่โปรงใสในอสังหาริมทรัพย์ที่กรุงลอนดอน ซึ่งจากการสืบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนี้นั้น ก็ทำให้เกิดกรณีการฟ้องร้องไปยังจำเลยหลายคนรวมไปถึงพระคาร์ดินัล อนึ่งที่ไปที่มาของการเปิดโปงข้อมูลจำนวนมหาศาลดังกล่าวนั้นมาจากผู้เปิดโปงอันไม่ระบุนามที่ได้ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์สัญชาติเยอรมนีชื่อว่า Süddeutsche Zeitung ซึ่งทางด้านของผู้เปิดโปงได้กล่าวว่า ตัวเขาเชื่อว่ากฎระเบียบเรื่องความลับของธนาคารสวิสนั้นเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศีลธรรมและข้ออ้างในเรื่องของการปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงินนั้นแท้จริงแล้วเป็นการปกปิดบทบาทของธนาคารสวิสในการทำงานร่วมกันกับผู้หลีกเลี่ยงภาษี…

ห่วงคนไทยในยูเครน นายกฯ สั่งเตรียมพร้อมเครื่องบินเช่าเหมาลำหากต้องอพยพ

Loading

“บิ๊กตู่” ห่วงใยคนไทยในยูเครน สั่งเตรียมพร้อมจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำหากเกิดเหตุฉุกเฉินจำเป็นต้องอพยพ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ได้กำหนดแผนอพยพคนไทยไว้พร้อมแล้ว หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินสืบเนื่องจากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ แต่หากมีการปิดน่านฟ้าจะจัดรถรับคนไทยข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานถึงสถานการณ์ในยูเครนเป็นระยะๆ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยความห่วงใยคนไทยที่อยู่ในยูเครน ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงทีหากมีเหตุจำเป็น รวมทั้งสอบถามความเป็นอยู่ของชาวไทยและให้เตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ได้กำหนดแผนการว่าจะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำอพยพคนไทยจากยูเครนโดยตรง ส่วนกรณีน่านฟ้าปิด จะอพยพคนไทยมารวมกันเพื่อเดินทางข้ามแดนโดยรถต่อไปยังกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย และกรณีสุดท้ายคือ ทางการไทยจะจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับคนไทยที่ยูเครน หรือ กรุงวอร์ซอ ซึ่งการบินไทยและกองทัพอากาศร่วมเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ทั้งนี้ คนไทยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หมายเลข +48-696-642-348 (24 ชม.) หรือ E-mail : thaiconsularwarsaw@thaiemb.pl     ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    /   วันที่เผยแพร่ 24 ก.พ.65 Link :…