ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินหลายคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตกที่ไม่ปกติของเครื่องบินสายการบิน China Eastern Airlines ที่เป็นอุบัติเหตุด้านการบินที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปีของจีน
ข้อมูลการบินจาก Flightradar24 ระบุว่า เที่ยวบิน MU5735 บินอยู่ที่ระดับความสูง 29,000 ฟุต (8,839.2 เมตร) และอยู่ห่างประมาณ 100 ไมล์ (160.93 กิโลเมตร) จากจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นจุดที่นักบินจะเริ่มลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงจอด แต่แทนที่จะค่อย ๆ ปรับลดเพดานบินลงประมาณ 1,000 ฟุตต่อนาที เครื่องบินกลับดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 30,000 ฟุต (9.1 กิโลเมตร) ต่อนาทีภายในเวลาไม่กี่วินาที
โดยรวมแล้วเครื่องบินลำนี้ดิ่งลงเกือบ 26,000 ฟุต (7.9 กิโลเมตร) ภายในเวลาราว 1 นาที 35 วินาที และดูเหมือนว่าการดิ่งลงของเครื่องบินหยุดไปราว 10 วินาทีแล้วไต่ระดับความสูงขึ้นไปช่วงสั้นๆ ก่อนจะดิ่งลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ซึ่งเพิ่มความผิดปกติให้กับเหตุการณ์เข้าไปอีก
ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สอบสวนเหตุเครื่องบินตกแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ตัวเครื่องดิ่งลงจากการบินรักษาระดับความสูงในการเดินทางไปยังจุดหมาย (cruising altitude) แต่มีน้อยครั้งมากที่จะเหมือนกับการตกของเครื่องบินโบอิง 737-800 ที่ดิ่งลงฮวบฮาบสู่พื้นดิน
จอห์น ค็อกซ์ (John Cox) ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยการบินและอดีตนักบินเครื่องบินโบอิงตระกูล 737 เผยกับ Bloomberg ว่า “มันแปลกมาก มันยากมากที่เครื่องบินจะบินในลักษณะนี้”
เจฟฟ์ กัซเซตติ (Jeff Guzzetti) อดีตหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบอุบัติเหตุประจำสำนักงานการบินของรัฐบาลสหรัฐเผยกับ Bloomberg ว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่แปลกมาก
ทั้งค็อกซ์และกัซเซตติบอกว่า แม้ว่าข้อมูลจาก Flightradar24 เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น แต่เส้นทางบินที่ค่อนข้างตรงของเที่ยวบิน MU5735 และช่องสัญญาณสื่อสาร (transponders) ของเครื่องที่ยังทำงานอยู่ในระหว่างที่เกิดเหตุ บ่งชี้ว่าเครื่องบินไม่ได้หยุดทำงานเหมือนกับกรณีที่กลุ่มก่อการร้ายวางระเบิดเครื่องบินในบางกรณี
ผู้เชี่ยวชาญทั้งคู่เผยกับ Bloomberg อีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่เครื่องบินลดระดับลงอย่างรวดเร็วจากการบินรักษาระดับความสูง ทว่าส่วนใหญ่มีความแตกต่างกันมาก
ตัวอย่างเช่น การสอบสวนของสำนักสอบสวนและวิเคราะห์ความปลอดภัยการบินพลเรือนของฝรั่งเศสระบุว่า เที่ยวบิน 447 ของสายการบิน Air France ที่ตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2009 แต่เครื่องบินลำนี้ตกลงช้ากว่าหลังจากเซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วถูกเคลือบด้วยน้ำแข็ง และนักบินเกิดความสับสน โดยผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 228 คนบนเครื่องบินแอร์บัส SE A330 เสียชีวิต
อีกกรณีหนึ่งคือ คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (NTSB) พบว่า เครื่องบินขนส่งของบริษัท Atlas Air Worldwide ตกลงในหนองน้ำใกล้กับเมืองฮุสตันเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2019 เนื่องจากนักบินผู้ช่วยเกิดความสับสนและพาเครื่องบินดิ่งลงพื้น เครื่องบินลำนี้ตกลงมาในช่วงเวลาที่สั้นกว่าและตกไม่เร็วเท่ากับเครื่องบินของ China Eastern
อีกครั้งหนึ่งที่คล้ายกับกรณีของ China Eastern คือ เครื่องบินโบอิง 737-300 ของสายการบิน Silk Air ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือ 104 รายตกลงในแม่น้ำในอินโดนีเซียเสียชีวิตยกลำเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 1997 โดยเครื่องบินลำดังกล่าวดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 38,000 ฟุต (11,582 เมตร) ต่อนาที
เหตุการณ์นี้ NTSB สรุปว่า นักบินตั้งใจทำเครื่องตก โดยระบบบันทึกข้อมูลการบินและระบบบันทึกเสียงและสัญญาณวิทยุภายในห้องนักบินถูกปิดอย่างเป็นปริศนาไม่นานหลังจากเกิดความผิดปกติ ดังนั้นจึงไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับวิถีการตก
อย่างไรก็ดี เบนจามิน เบอร์แมน (Benjamin Berman) อดีตผู้สอบสวนเหตุเครื่องบินตกของ NTSB ที่เคยมีประสบการณ์ขับเครื่องบินโบอิง 737 เผยกับ Bloomberg ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุการตกของเครื่องบินของ China Eastern
เบอร์แมนบอกว่า เป็นไปได้ที่จะเกิดสถานการณ์ต่างๆ มากมายสำหรับความผิดพลาดบางประเภท ความผิดพลาดของนักบิน หรือหลายอย่างรวมกันที่นำไปสู่การตก
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้บอกว่า แต่ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้เลย โดยเขาเห็นด้วยกับค็อกซ์และกัซเซตติที่บอกว่า เครื่องบินโบอิง 737-800 ก็เหมือนกับเครื่องบินอื่นๆ ที่ถูกออกแบบเพื่อไม่ไห้ดิ่งลงแบบตั้งฉาก
เบอร์แมนกล่าวว่า นั่นหมายความว่านักบินต้องใช้ความพยายามอย่างมาก หรือต้องเป็นความผิดพลาดที่ผิดปกติอย่างมาก และว่ามีหลายสาเหตุที่ทำให้เครื่องดิ่งลง ตั้งแต่นักบินหัวใจวายแล้วทรุดลงไปทับแผงควบคุม ไปจนถึงเครื่องยนต์ที่ใช้ยกหรือกดหัวเครื่องบินขัดข้อง แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ หรือมีวิธีที่ง่ายสำหรับนักบินในการรับมือเหตุขัดข้องดังกล่าว
“มันต้องมีอะไรบางอย่างถึงทำให้หัวเครื่องบินปักลง” เบอร์แมนทิ้งท้าย
เช่นเดียวกับ ฮัสซัน ชาฮิดิ ประธานและซีอีโอมูลนิธิความปลอดภัยทางการบินที่เผยกับ Today ว่า เหตุการณ์ของเที่ยวบิน MU5735 ไม่ปกติ “ตั้งแต่การร่วงลงมาจนถึงเครื่องตกใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที นี่ผิดปกติมากและนี่เรียกว่าการสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (LOC-I)”
ชาฮิดิย้ำว่า โบอิง 737-800 ปลอดภัย เราใช้กันมานานหลายสิบปีแล้ว ทั่วโลกมีประมาณ 4,200 ลำ ราว 1,100 ลำในจีน และมีสถิติความปลอดภัยที่ดีมากมานานหลายสิบปี “ผมไม่กังวลเกี่ยวกับสถิติความปลอดภัยโดยทั่วไปของเครื่องบินนี้”
ส่วน นีล แฮนส์ฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจาก Port Stephens ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเผยว่า การตกในแนวดิ่งสามารถให้เบาะแสว่าเกิดอะไรขึ้น
“มันร่วงลงมาเหมือนก้อนหิน หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างบินเครื่องบินจะต้องตกแบบมีวิธีโค้งเล็กน้อย แต่นี่มันตกลงมาตรงๆ เป็นไปได้ว่าเมื่อตรวจสอบสาเหตุต่างๆ แล้ว มันอาจถูกโจมตีด้วยอาวุธทางการทหาร หรือมีนักบินเข้ามาแทรกแซง หรือการชนกัน” แฮนส์ฟอร์ดเผย
แฮนส์ฟอร์ดกล่าวอีกว่า “มันเป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากว่าจะเป็นความเสียหายอย่างปีกหลุด ที่ทำให้เครื่องตกลงมาจากฟ้าในลักษณะอย่างที่เราเห็น”
———————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ / วันที่เผยแพร่ 22 มี.ค.65
LINK : https://www.posttoday.com/world/678796