เด็ก ผู้สูงวัย คือ กลุ่มเปราะบางที่มิฉาชีพในโลกออนไลน์เข้าถึงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ได้ง่ายที่สุด การป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามบนอินเตอร์เน็ต เป็นวิธีการเบื้องต้นที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีทำงานยากขึ้น ของฟรีและดีไม่มีในโลก วลีที่คุ้นหูกันดี แต่ในบางครั้งของฟรีก็อาจจะช่วยบรรเทาผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เช่นกัน เรามาลองดู 6 เครื่องมือรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีให้ใช้งานฟรี…บนโลกออนไลน์กัน
1. Haveibenpwned
เว็บไซต์ haveibenpwned มีรูปแบบการใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก เพียงแค่กรอกอยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์แล้วกดปุ่ม pwned? จากนั้นเว็บไซต์จะประมวลผลและแสดงรายการบัญชีที่คุณสร้างโดยใช้อีเมล/หมายเลขที่ให้ไว้ และคุณจะเห็นว่าบัญชีของคุณมีความเสี่ยงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรั่วไหลหรือไม่
กรณีข้อมูลอีเมลมีความเสี่ยงต่อการถูกละเมิด จะมีข้อความแสดงให้ทราบดังนี้
Oh no — pwned!
Pwned in 1 data breach (subscribe to search sensitive breaches)
กรณีข้อมูลอีเมลไม่มีความเสี่ยงต่อการถูกละเมิด จะมีข้อความแสดงให้ทราบดังนี้
Good news — no pwnage found!
No breached accounts and no pastes (subscribe to search sensitive breaches)
เว็บไซต์นี้เป็นแค่การตรวจสอบความเสี่ยงเท่านั้น ไม่สามารถโจมตีหรือกำจัดความเสี่ยงเหล่านั้นออกจากคุณได้
2. VirusTotal
เว็บไซต์ VirusTotal จะทำหน้าที่สแกนไฟล์ ลิงก์ และการค้นหาข้อมูล เพื่อวิเคราะห์วิเคราะห์ไฟล์ โดเมน IP และ URL ที่น่าสงสัยเพื่อตรวจจับมัลแวร์และการละเมิดอื่นๆ ที่จะแชร์ออกไปสู่โลกออนไลน์เพื่อความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ
3. เครื่องมือ PGP
เครื่องมือ PGP (Pretty Good Privacy) เป็นวิธีการป้องกันการติดต่อสื่อสารทางอีเมล เพื่อไม่ให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ผู้รับที่กำหนดไว้สามารถอ่านได้ โปรแกรมนี้ช่วยป้องกันไม่ให้อาชญากรทางไซเบอร์สามารถสืบความลับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณได้ และยังสามารถใช้โปรแกรม PGP เพื่อทำการพิสูจน์ว่าอีเมลนั้นๆ ส่งมาจากบุคคลที่ระบุไว้จริง ไม่ใช่ข้อความแปลกปลอมที่ส่งมาจากผู้อื่น
4. KB SSL Enforcer
ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ยอดนิยมจะบังคับใช้ HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure) ที่ส่วนต้นของที่อยู่ลิงก์ นี่แสดงว่าเว็บไซต์มีใบรับรอง SSL เพื่อเข้ารหัสแพ็กเก็ตข้อมูลทั้งหมดที่เข้าและออกจากเว็บไซต์ แต่เว็บไซต์หลายแห่งยังไม่ได้ใช้โปรโตคอลนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณอยู่บนเว็บไซต์ที่ปลอดภัย การติดตั้ง KB SSL Enforcer KB SSL Enforcer สามารถทำให้เบราว์เซอร์ที่ใช้การเชื่อมต่อมีความปลอดภัยทุกครั้งที่เข้าสู่เว็บไซต์
5. DuckDuckGo
DuckDuckGo คือ Search Engine ที่กำลังเป็นที่จับตามอง เพราะเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ และไม่มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเพื่อยิงโฆษณาเหมือนกับ Search Engine จากค่ายอื่นๆ
เมื่อปีที่ผ่านมา DuckDuckGo เพิ่งทุบสถติมีผู้เข้าใช้งานทะลุ 100 ล้านครั้งต่อวันเป็นครั้งแรก และสิ่งที่ทำให้ DuckDuckGo โดดเด่นกว่า Search Engine ค่ายอื่นๆ ก็คือเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลที่ทาง DuckDuckGo กล้าออกมายืนยันว่าข้อมูลทุกการค้นหา หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการจะไม่มีทางหลุดออกไปภายนอกอย่างแน่นอน
6. ToSDR (Terms of Service Didn’t Read)
ToSDR (Terms of Service Didn’t Read : ข้อกำหนดในการให้บริการไม่ได้อ่าน)การเลื่อนเข้าไปอ่านและทำเครื่องหมายที่ช่องทำเครื่องหมายที่แสดงว่า “ฉันได้อ่านและรับทราบ ตามข้อตกลงและเงื่อนไข” ก่อนที่เราจะทำการโหลดข้อมูลนั้นๆ ในขั้นตอนต่อไป แต่ปัญหาก็คือเราไม่เคยอ่านข้อกำหนดในการให้บริการเหล่านั้นเลย เพราะมีเนื้อหาในจำนวนมากทำให้ต้องเสียเวลาในการอ่านนานเกินไป
เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ในการรับรู้ข้อมูลข้อกำหนดในการให้บริการของเว็บไซต์นั้นๆ ได้อย่างชัดเจนและกำชับเวลามากขึ้น tosdr.org คือ เว็บไซต์ที่สรุปสิ่งที่มีอยู่ในข้อกำหนดในการให้บริการและแสดงหัวข้อรายการสาระสำคัญให้รับทราบได้อย่างง่ายดาย
ใช้ชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร เราควรจะเลือกเครื่องมือที่มั่นใจว่าสามารถช่วยรักษาความปลอดภัยให้หลุดพ้นจากโจรไซเบอร์ได้ เพราะทุกคนบนโลกออนไลน์ คือ เป้าหมาย เราไม่เคยรู้ล่วงหน้าว่าเมื่อไหร่ คุณจะเป็นผู้ถูกเลือก ก่อนจะเป็นตัวเลือก การสร้างเกราะป้องกันตัวเอง คือ วิธีการที่ดีที่สุด
ที่มา : 6 Free Online Tools to Improve Your Internet Security (makeuseof.com)
ที่มา : techtalkthai / วันที่เผยแพร่ 1 มี.ค.65
Link : https://www.techtalkthai.com/free-6-tools-internet-security/