ในภูเขาแห่งนี้มีฐานทัพลับสุดแข็งแกร่งซ่อนอยู่ ขนาดระเบิดปรมาณูก็ทำอะไรไม่ได้
Cheyenne Mountain Complex (ไชแอนน์ เมาน์เทน คอมเพล็กซ์) บนเทือกเขาไชแอนน์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์บัญชาการลับใต้ดินของสหรัฐ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่ปลอดภัยที่สุดในโลก และยังใช้เป็นหลุมหลบภัยจากเครื่องบินทั้งระเบิดระยะไกลของโซเวียต ในช่วงจุดพีกของสงครามเย็น ตลอดจนเป็นที่หลบภัยหากเกิดสงครามนิวเคลียร์
แน่นอนว่าศูนย์บัญชาการลับแห่งนี้ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนามากๆ ถึงขั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาคารที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
– ศูนย์บัญชาการอยู่ลึกลงไปใต้ดินกว่า 600 เมตร มีการขุดเจาะหินแกรนิตมากกว่า 693,000 ตัน พร้อมกับประตูนิรภัยบานใหญ่ที่ทำจากคอนกรีตและเหล็ก ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 20 ตัน มีระบบป้องกันการสั่นไหวของอาคาร ทำให้ปลอดภัยต่อแรงระเบิดนิวเคลียร์ การโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แผ่นดินไหว การทิ้งระเบิด และการโจมตีรูปแบบอื่นๆ
– คอมเพล็กซ์แห่งนี้สามารถทนต่อระเบิดปรมาณู 30 เมกะตันในระยะใกล้ถึง 1.24 ไมล์ (2 กิโลเมตร) ในกรณีที่มีระเบิดปรมาณูกระทบคอมเพล็กซ์ประตูสามารถทนต่อคลื่นระเบิดได้ และตัวคอมเพล็กซ์ยังมีตัวกรองเพื่อดักจับสารปนเปื้อนทางเคมี ชีวภาพ กัมมันตภาพรังสี และนิวเคลียร์ในอากาศ
– แม้ว่าภายหลังจะมีการยกเลิกระบบเฝ้าระวังนิวเคลียร์ไปแล้วหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่อาคารนี้ยังเต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรับมือกับการจู่โจมของศัตรู รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์
USAF photo/Wikipedia
กระทรวงกลาโหม (DOD) ระบุว่าคอมเพล็กซ์นี้จัดขึ้นและดำเนินการโดยกองบัญชาการอวกาศของกองทัพอากาศ (Air Force Space Command) ปัจจุบันเป็นศูนย์บัญชาการสำรองของกองบัญชาการป้องกันการบินและอวกาศอเมริกาเหนือ (NORAD) และบัญชาการเหนือของสหรัฐอเมริกา (USNORTHCOM) และเป็นสถานที่ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่
นอกจากจะมีไว้เพื่อหลบภัยจากศัตรูแล้ว ภายในอาคารแห่งนี้ยังเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์ปฏิบัติการหลายแห่ง
– ศูนย์ปฏิบัติการทางอากาศ (AOC) ทำหน้าที่ตรวจสอบน่านฟ้าในอเมริกาเหนือเพื่อเฝ้าระวังเครื่องบินที่ไม่เป็นมิตร โดยมีการติดตามเครื่องบินมากกว่า 2.5 ล้านลำต่อปี และรวบรวมข้อมูลเครื่องบินต้องสงสัยว่ามียาเสพติดที่เข้ามาในพื้นที่อเมริกาเหนือ และส่งข้อมูลนี้ไปยังองค์กรต่อต้านยาเสพติด
– ศูนย์เตือนภัยขีปนาวุธ (MWC) เฝ้าระวังการยิงขีปนาวุธทั่วโลก และประเมินว่ามีความเสี่ยงต่อภูมิภาคอเมริกาเหนือหรือไม่
– ศูนย์ควบคุมอวกาศ (SCC) ตรวจจับและติดตามวัตถุบนอวกาศ รวมทั้งจรวด ขยะอวกาศ และระบุตำแหน่งวัตถุเหล่านั้นเพื่อสนับสนุนภารกิจต่างๆ รวมถึงการป้องกันการชนของทีมกระสวยอวกาศ
– ศูนย์บัญชาการร่วม NORAD/USSPACECOM (CCC) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทั้งหมดภายในศูนย์ปฏิบัติการ ทำหน้าที่ประสานงานในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ
– ศูนย์ข่าวกรอง (CWIC) รวบรวมข่าวกรองและเตือนภัยคุกคามจากทั่วโลกทั้งทางอวกาศ ขีปนาวุธ และกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจรบกวนอเมริกาเหนือ
– ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ (NWF) ศูนย์เตือนภัยด้านการป้องกันภัยพลเรือนของสหรัฐ ในกรณีที่มีการโจมตี ศูนย์จะแจ้งเตือนระบบเตือนภัยแห่งชาติ
– ศูนย์อวกาศและระบบเตือนภัย (SWSC) จัดการบำรุงรักษาและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความสำคัญต่อภารกิจ
– ศูนย์สนับสนุนสภาพอากาศ (SOLAR) ตรวจสอบรูปแบบสภาพอากาศในท้องถิ่นและทั่วโลกและรายงานไปยังศูนย์บัญชาการ
U.S. Air Force/Wikipedia
นอกจากนี้ยังมีสถานีดับเพลิง โรงไฟฟ้า ระบบทำความร้อนและความเย็น และการประปาเป็นของตัวเอง โดยน้ำพุบนภูเขาสามารถผลิตน้ำได้อย่างเหลือเฟือ พร้อมกับถังเก็บน้ำขนาด 1.5 ล้านแกลลอน รับประกันว่าแม้ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ก็ยังมีน้ำเพียงพอ ตลอดจนถึงเก็บน้ำขนาด 4.5 ล้านแกลลอนสำหรับใช้เป็นฮีตซิงก์ นอกจากนี้ยังมีถังน้ำมันขนาดใหญ่สำหรับน้ำมันดีเซล และแบตเตอรีขนาดใหญ่พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากภายนอก
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในศูนย์บัญชาการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการอยู่ในภูเขาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงอาหาร สถานพยาบาล ที่จอดรถ ที่พักสำหรับพนักงาน รวมถึงห้องสวีทสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจอย่าง สวนสาธารณะ พื้นที่ปิกนิก สนามแร็กเก็ตบอล สนามซอฟต์บอล สนามวอลเลย์บอลทราย และสนามบาสเก็ตบอล
ศูนย์บัญชาการลับแห่งนี้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ วิดีโอเกม และวรรณกรรมหลายเรื่อง รวมถึงโปรดักชั่นฮอลลีวูดรายใหญ่อย่าง War Games และ Stargate
————————————————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ / วันที่เผยแพร่ 11 มี.ค.65
Link : https://www.posttoday.com/world/677918