Picture Credit : WBT Systems
การรับรองคุณวุฒิส่วนบุคคลสำหรับสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติที่สำคัญที่สามารถยกระดับความก้าวหน้าในการผลิตและพัฒนากำลังคนในประเทศไทย คุณวุฒิวิชาชีพด้านไอที เป็นการรับรองทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคคล และสามารถสร้างมาตรฐานการบริการให้กับองค์กรได้อย่างยั่งยืน แล้วรูปแบบมาตรฐานของ การรับรองด้านไอที (IT Certification) กับ ใบรับรอง (Certificate) แตกต่าง และมีความสำคัญอย่างไร
ประเทศไทยมีการตื่นตัวในการกำหนดยุทธศาสตร์แห่งชาติ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเป้าหมายการพัฒนาให้คนไทยสามารถใช้คอมพิวเตอร์ระดับพื้นฐานได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ ทั้งภาคการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม จึงได้จัดแผนบูรณาการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่พัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพ อันเป็นกลไกสำคัญที่จะยกระดับความก้าวหน้าและอัตราผลผลิตของกำลังคนในประเทศไทย จึงมีการร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ‘จัดทำมาตรฐานอาชีพ’ อีกทั้งยังรับรองทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคคลด้วยการสร้างมาตรฐานในการวัดสมรรถนะเพื่อรับรอง ‘คุณวุฒิวิชาชีพ’
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก :
สคช.เร่งยกระดับคุณวุฒิคนไอที…รับเปิดประชาคมอาเซียน (komchadluek.net)
Certification (รับรองคุณวุฒิ) และ Certificate (ประกาศนียบัตรรับรอง)การรับรองทั้งสองรูปแบบ ยังคงมีความสับสนในการเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของความหมายและประโยน์ในการนำไปต่อยอด ซึ่งความจริงแล้ว มีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน
IT Certificate (ใบรับรองประกาศนียบัตร)
สถาบันการศึกษา หรือสถาบันอื่นๆ เป็นผู้ออกใบรับรองให้กับ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือ ผู้อบรม ที่สำเร็จการเรียนการอบรมครบถ้วนตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ของโปรแกรมประกาศนียบัตรนั้นๆ แม้ว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษา จะต้องได้คะแนนสอบผ่านตามเกณฑ์ของหลักสูตร แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มเหล่านี้ อาจจะไม่ต้องสอบเพื่อวัดผลตามหลักเกณฑ์เฉพาะวิชาชีพตามความชำนาญการเฉพาะทางอย่างเข้มงวดมากนัก
เช่นเดียวกับสาขาวิชาเอกของสถานศึกษา ใบรับรองจะมีลักษณะเฉพาะสำหรับสถาบันนั้นๆ ที่ได้รับ เพื่อให้ได้รับใบรับรองระดับปริญญาตรี หรือบัณฑิต ตามโปรแกรมที่ลงทะเบียน แม้ว่าใบรับรองจะเป็นใบรับรองทางวิชาการ แต่ก็ไม่ได้รับรองให้ทำงานในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งได้ อาทิ เช่น เรียนจบสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ แต่ไม่สามารถเข้าทำงานในอุตสาหกรรมบางประเภทได้ ถ้าหากยังไม่มีใบรับรองอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ที่ออกให้โดย สภาวิศวกรรม (Engineer’s Certification)
ข้อดีของ Certificate (ใบรับรองประกาศนียบัตร)
– ก้าวสู่สถานะทางการศึกษาระดับที่สูงขึ้น ตามหลักสูตรได้
– ก้าวสู่ตำแหน่งงานสายไอทีระดับเริ่มต้น เมื่อสำเร็จตามหลักสูตรใบรับรองประกาศนียบัตร
IT Certification (ใบรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ)
ทั้งสองชื่อ ออกเสียงคล้ายคลึงกันมาก แต่การรับรองและใบรับรองนั้นไม่เหมือนกัน IT Certification จะได้รับการรับรองจากสมาคมวิชาชีพ บริษัท และองค์กรอิสระ การรับรองเป็นหนังสือรับรองมาตรฐานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้กับบุคคลนั้น เพื่อการนำไปต่อยอดทำงานในอุตสาหกรรมที่มีการระบุคุณสมบัติเหล่านี้ไว้ การรับรองคุณสมบัติของบุคคลในบางประเภทวิชาชีพ อาจจะรวมไปถึงข้อกำหนดการรับรองด้านการศึกษา (Certificate) และรับรองการสอบวัดผลตามเกณฑ์กำหนด (Certification) ควบคู่ด้วย
แม้ว่าใบรับรองจำนวนมากจะใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม แต่โดยทั่วไปแล้ว ใบรับรองเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องทำงานในสาขาใดสาขาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การรับรองบางอย่างอาจจำเป็นสำหรับความก้าวหน้าในวิชาชีพนั้นๆ และก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะสามารถหางานทำในอุตสาหกรรมบางประเภทได้ หากไม่มีใบรับรอง (IT Certification) เพื่อให้สามารถประกอบวิชาชีพตามสาขานั้นๆ ได้ อาทิเช่น สายงานไอที สายงานด้านสาธารณสุข แพทย์ และ วิศวกร เป็นต้น
ตัวอย่าง 5 IT Certification หลักสูตรการรับรองด้านสายงานไอทีที่ทำให้มีโอกาสได้ทำงานในระดับเงินเดือนสูง และบริษัทส่วนใหญ่ให้การยอมรับ
Picture Credit : medium.com
– Cisco Certified Network Associate (CCNA)
– Microsoft Certified Solutions Associate (MCSA)
– CompTIA Security+
– IT Infrastructure Library (ITIL)
– Certified Ethical Hacker (CEH)
เปรียบเทียบ เรื่องค่าใช้จ่าย
เมื่อเปรียบเทียบเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรระหว่าง IT Certificate อาจจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่า IT Certification (ขึ้นอยู่กับสถาบันฯ) แต่อย่างหลังจะต้องมีการลงทะเบียนอบรมเพื่อทบทวนการรับรองใหม่ทุกๆ สองหรือสามปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรนั้น กำหนด
สรุป และเปรียบเทียบ เรื่องการนำไปต่อยอด
IT Certificate เป็นการอบรมและศึกษาตามหลักสูตรเพื่อการรับรองวุฒิการศึกษาในการนำไปสมัครงานในตำแหน่งสาย IT ที่รองรับ เช่น โปรแกรมเมอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์เฉพาะด้าน เป็นต้น ในบางอุตสาหกรรมมีการกำหนดคุณสมบัติทางการศึกษาของการรับสมัครตำแหน่งงานด้าน IT เพื่อความเหมาะสมในเรื่ององค์ความรู้ความสามารถและความชำนาญ ให้มีความสัมพันธ์กับบริบทของงานที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง การเปิดกว้างรับสมัครบุคลากรที่ไม่ได้ผ่านการศึกษาด้านวิชาการด้าน IT อาจจะเป็นดาบสองคมที่ส่งผลเสียทั้งองค์กรและบุคคลกรที่เข้ามาทำงาน เพราะฉะนั้น จ้างบุคลากรให้เหมาะสมกับประเภทของงาน คือสิ่งที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ได้มากที่สุด
IT Certification เป็นการลงทุนซื้อประสบการณ์เพิ่มพูนด้านความรู้ความสามารถ ให้เกิดความชำนาญในระดับที่สูงขึ้น หรือความชำนาญการพิเศษเฉพาะด้าน บุคคลที่ผ่านการรับรอง IT Certification ในแต่ละด้าน ตามมาตรฐานและสถาบันระดับสากลเป็นผู้ออกให้ จึงสามารถการันตีและได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติความรู้ ความสามารถ และความชำนาญการพิเศษเฉพาะทางด้านสายงาน IT ตามประเภทที่ระบุในใบรับรอง Certification ทำให้สามารถทำงานควบคุมดูแลระบบงาน IT ในด้านนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : IT certification vs. certificate: What’s the difference? | ZDNet
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : Techtalkthai / วันที่เผยแพร่ 15 มี.ค.65
Link : https://www.techtalkthai.com/it-certification-vs-certificate-difference/