ชมคลิป : อุกอาจ! แบ่งแยกดินแดนปากีฯ โจมตี “สถาบันขงจื้อ” ใน “การาจี” ดับ 4 รวม “ผอ.สถาบัน” ต่อต้านอิทธิพลจีนในอิสลามาบัด นายกฯ ชารีฟโร่แสดงความเสียใจ
เอเจนซีส์ – กระทรวงต่างประเทศจีนประณามผ่านแถลงการณ์วันพุธ (27 เม.ย.) การเสียชีวิตของผู้อำนวยการสถาบันขงจื้อ และครูสอนภาษาจีน 2 รายในวันอังคาร (26 เม.ย.) หลังเกิดการโจมตีจากมือระเบิดฆ่าตัวตายกลุ่มแบ่งแยกดินแดนปากีสถาน BLA ที่สถาบันขงจื้อ ในมหาวิทยาลัยการาจีนอกเหนือจากครูสอนภาษีจีนที่เสียชีวิต ยังรวมไปถึงคนขับรถปากีสถาน 1 ราย นายกรัฐมนตรีปากีสถานคนใหม่ ชาบาซ ชารีฟ เดินทางเข้าสถานทูตจีนทันทีพบกับอุปทูตจีน ผาง ชุนซู (Pang Chunxue) เพื่อแสดงความเสียใจ
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (27 เม.ย.) ว่า ในวันพุธ (27) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน จ้าว ลีเจียน (Zhao Lijian) ออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ประณามการโจมตีอุกอาจต่อสถาบันขงจื้อของจีน ภายในมหาวิทยาลัยการาจี ซึ่งถือเป็นซอฟต์ เพาเวอร์ทางการทูตสำคัญของจีน โดยมีเนื้อความว่า
“จีนขอประณามด้วยถ้อยคำที่รุนแรงที่สุดและไม่พอใจอย่างสูงสุดต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่นี้”
จ้าวยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปากีสถานรับมือต่อผลที่ตามมาหลังเหตุโจมตี และ “การต่อสู้อย่างมุ่งมั่นต่อองค์การก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้”
การโจมตีจากฝีมือระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันอังคาร (26) บริเวณประตูรั้วสถาบันขงจื้อในมหาวิทยาลัยการาจี เมืองการาจี ทำให้รถตู้ที่มีครูสอนภาษาจีน 2 คน รวมผู้อำนวยการสถาบันขงจื้อ และคนขับชาวปากีสถาน 1 คนเกิดระเบิดไฟไหม้ลุกท่วมจนกลายเป็นตอตะโก
ถือเป็นการโจมตีครั้งแรกอย่างอุกอาจของมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิง สมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนปากีสถาน กองทัพปลดแอกบาล็อจ BLA (Baloch Liberation Army) ภายหลังออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบ อ้างทำไปเพื่อต้องการต่อต้านปักกิ่งที่แผ่อิทธิพลเพิ่มขึ้นในปากีสถานผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ตามนโยบายของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
ผู้เสียชีวิตพลเมืองจีน 3 คน ที่รวมไปถึงผู้อำนวยการสถาบันขงจื้อ ทำหน้าที่สอนอยู่ภายในสถาบัน และมีผู้บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 4 ราย
สถาบันขงจื้อภายในมหาวิทยาลัยการาจี เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2013 มีเป้าหมายสร้างความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นต่อวัฒนธรรมและภาษาของจีนในปากีสถาน และอีกทั้งยังต้องการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ชาติ
ซึ่งนับตั้งแต่เปิดมา พบว่า คณะผู้สอนของสถาบันที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนถูกคุกคามต่อความปลอดภัยของชีวิต และยังต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ดาวน์ของปากีสถาน
ทั้งนี้ สถาบันขงจื้อเป็นของรัฐบาลจีนที่เปิดให้การศึกษาแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและภาษาทั่วโลก แต่ทว่าในปี 2020 สหรัฐฯ ประกาศว่า สถาบันขงจื้อของจีนเป็นเครื่องมือเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของปักกิ่ง โดยอ้างหลักฐานว่าสถาบันอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงต่างประเทศจีน
ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดแสดงให้เห็นมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่นอกรั้วของสถาบันขณะที่รถตู้กำลังวิ่งผ่านเข้าไป และตามมาด้วยการระเบิดครั้งร้ายแรง
BLA ที่สถาบันขงจื้อ ในมหาวิทยาลัยการาจีนอกเหนือจากครูสอนภาษีจีนที่เสียชีวิต ยังรวมไปถึงคนขับรถปากีสถาน 1 ราย นายกรัฐมนตรีปากีสถานคนใหม่ ชาบาซ ชารีฟ เดินทางเข้าสถานทูตจีนทันทีพบกับอุปทูตจีน ผาง ชุนซู (Pang Chunxue) เพื่อแสดงความเสียใจ
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (27 เม.ย.) ว่า ในวันพุธ (27) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน จ้าว ลีเจียน (Zhao Lijian) ออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ประณามการโจมตีอุกอาจต่อสถาบันขงจื้อของจีน ภายในมหาวิทยาลัยการาจี ซึ่งถือเป็นซอฟต์ เพาเวอร์ทางการทูตสำคัญของจีน โดยมีเนื้อความว่า
“จีนขอประณามด้วยถ้อยคำที่รุนแรงที่สุดและไม่พอใจอย่างสูงสุดต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่นี้”
จ้าวยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปากีสถานรับมือต่อผลที่ตามมาหลังเหตุโจมตี และ “การต่อสู้อย่างมุ่งมั่นต่อองค์การก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้”
การโจมตีจากฝีมือระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันอังคาร (26) บริเวณประตูรั้วสถาบันขงจื้อในมหาวิทยาลัยการาจี เมืองการาจี ทำให้รถตู้ที่มีครูสอนภาษาจีน 2 คน รวมผู้อำนวยการสถาบันขงจื้อ และคนขับชาวปากีสถาน 1 คนเกิดระเบิดไฟไหม้ลุกท่วมจนกลายเป็นตอตะโก
ถือเป็นการโจมตีครั้งแรกอย่างอุกอาจของมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิง สมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนปากีสถาน กองทัพปลดแอกบาล็อจ BLA (Baloch Liberation Army) ภายหลังออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบ อ้างทำไปเพื่อต้องการต่อต้านปักกิ่งที่แผ่อิทธิพลเพิ่มขึ้นในปากีสถานผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ตามนโยบายของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
ผู้เสียชีวิตพลเมืองจีน 3 คน ที่รวมไปถึงผู้อำนวยการสถาบันขงจื้อ ทำหน้าที่สอนอยู่ภายในสถาบัน และมีผู้บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 4 ราย
สถาบันขงจื้อภายในมหาวิทยาลัยการาจี เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2013 มีเป้าหมายสร้างความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นต่อวัฒนธรรมและภาษาของจีนในปากีสถาน และอีกทั้งยังต้องการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ชาติ
ซึ่งนับตั้งแต่เปิดมา พบว่า คณะผู้สอนของสถาบันที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนถูกคุกคามต่อความปลอดภัยของชีวิต และยังต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ดาวน์ของปากีสถาน
ทั้งนี้ สถาบันขงจื้อเป็นของรัฐบาลจีนที่เปิดให้การศึกษาแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและภาษาทั่วโลก แต่ทว่าในปี 2020 สหรัฐฯ ประกาศว่า สถาบันขงจื้อของจีนเป็นเครื่องมือเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของปักกิ่ง โดยอ้างหลักฐานว่าสถาบันอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงต่างประเทศจีน
ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดแสดงให้เห็นมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่นอกรั้วของสถาบันขณะที่รถตู้กำลังวิ่งผ่านเข้าไป และตามมาด้วยการระเบิดครั้งร้ายแรง
BLA เผยแพร่ภาพมือระเบิดหญิงที่ชูมือ 2 นิ้วเป็นสัญลักษณ์แสดงชัยชนะ แถลงการณ์กล่าวว่า มือระเบิดหญิงผู้ลงมือชื่อ ชารีอะห์ บาล็อจ (Shariah Baloch) หรือที่รู้จักในชื่อบรามช์ (Bramsh)
สื่อปากีสถานรายงานว่า มือระเบิดเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการาจี
สถานทูตจีนประจำกรุงอิสลามาบัดในวันอังคาร (26) ยืนยันว่า มีพลเมืองจีน 3 รายเสียชีวิตในเหตุระเบิด ขณะที่รัฐบาลปากีสถานออกมาประณามการโจมตีว่าเป็นการกระทำที่ขี้ขลาด
เหตุโจมตีล่าสุดเป็นการท้าท้ายสำคัญต่อรัฐบาลใหม่ปากีสถานของนายกรัฐมนตรี ชาบาซ ชารีฟ (Shahbaz Sharif) น้องชายอดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า และประกาศนโยบายหันเข้าหาจีน ได้เดินทางเป็นการส่วนตัวในวันอังคาร (26) ไปยังสถานทูตจีนประจำกรุงอิสลามาบัด เพื่อพบกับอุปทูตจีน ผาง ชุนซู (Pang Chunxue) แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของพลเมืองจีนครั้งนี้
สื่ออังกฤษชี้ว่า ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เห็นบ่อยครั้ง ซึ่งผู้นำปากีสถานได้ยื่นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือแสดงการยืนยันถึงพันธะของรัฐบาลอิสลามาบัดของเขาในการกำจัดกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มก่อการร้ายให้หมดไปจากดินแดนปากีสถาน
ในบางส่วนของข้อความชารีฟ กล่าวว่า “พวกเราจะไม่หยุดพักจนกว่าคนร้ายจะถูกจับและได้รับการลงโทษอย่างสาสม”
นอกเหนือจากชารีฟ ยังพบว่ามุขมนตรีของแคว้นสินธ์ ซึ่งมีการาจีเป็นเมืองเอกยังเดินทางไปสถานกงสุลจีน ต้องการยืนยันกับเจ้าหน้าที่การทูตจีนว่า ปากีสถานเห็นถึงความสำคัญต่อสิ่งที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญจีนสร้างคุณประโยชน์ขึ้นในประเทศและในจังหวัด และกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายเหล่านี้ต้องถูกนำตัวมาลงโทษ
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์ประณามว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และอีกทั้งยังโจมตีโดยตรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานและจีน
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 27 เม.ย.65
Link : https://mgronline.com/around/detail/9650000040044