MGR Online – ผู้บัญชาการทหารสูงสุด KNLA มีคำสั่งเด็ดขาด ห้ามกองพลที่ 6 และ 7 ยิงหรือเผารถสินค้า และรถของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่วิ่งอยู่บน AH1 โดยไม่มีเหตุผล ผู้ใดฝ่าฝืนต้องถูกลงโทษ
วันที่ 23 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พล.อ.ซอ จ่อนี (นายพลจอห์นนี่) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU/KNLA) มีคำสั่งส่งตรงถึงผู้บัญชาการกองพลที่ 6 และ 7 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA 6-7) ระบุว่า หากไม่มีเหตุผลอันสมควรห้ามทหารของทั้ง 2 กองพล ยิงหรือเผารถยนต์ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมถึงรถบรรทุกสินค้าที่วิ่งอยู่บนทางหลวงเอเชีย หมายเลข 1(AH1) ช่วงระหว่างเมืองเมียวดีถึงเมืองกอกะเรก โดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ต้องถูกลงโทษ
คำสั่งดังกล่าวนับเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของการค้าระหว่างพม่า-ไทย ผ่านด่านชายแดนเมียวดี เนื่องจากสินค้าจำนวนมากที่พม่านำเข้าจากประเทศไทย ต้องใช้เส้นทาง AH1 เพื่อลำเลียงเข้าไปกระจายต่อยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศพม่า
คำสั่งห้ามยิง/เผารถผู้บริสุทธิ์บนถนน AH1 ที่นายพลจอห์นนี่ ประกาศเมื่อเย็นวันที่ 23 เมษายน 2565
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 กองพลที่ 6 KNLA ได้สั่งปิดการสัญจรบนถนน AH1 ช่วงเมียวดี-กอกะเรก อย่างเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า เป็นเส้นทางที่กองทัพพม่าใช้ในการลำเลียงทหารเข้ามาในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง และนับจากวันที่คำสั่งของ KNLA 6 มีผลบังคับใช้ มีรถบรรทุกสินค้า รถบัสโดยสาร ตลอดจนรถยนต์ส่วนบุคคล และจักรยานยนต์มากกว่า 20 คันถูกเผา เนื่องจากฝ่าฝืนขึ้นไปวิ่งบนถนน AH1 และมีคนขับรถอย่างน้อย 2 ราย ที่ถูกยิงเสียชีวิต เพราะจำเป็นต้องเดินทางโดยใช้ถนน AH1
คำสั่งของ KNLA 6 ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างมากให้แก่ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ รวมถึงบริษัทขนส่งสินค้าและบริษัทผู้นำเข้าสินค้า เพราะทุกคนต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่การสัญจรยากลำบาก บริษัทผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทยหลายรายจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ถนนจากด่านเจดีย์สามองค์ หรือขึ้นไปใช้ช่องทางชายแดนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขนส่งสินค้าเข้าไปในพม่า ทำให้ต้นทุนสินค้ามีราคาสูงขึ้น และใช้เวลาในการขนส่งมากขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว
กองพลที่ 6 และ 7 ของ KNLA รับผิดชอบพื้นที่ตอนกลางของรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งทางหลวงสาย AH1 พาดผ่าน โดยพื้นที่ตามแนว AH1 ของ KNLA 6 ครอบคลุมจากเมืองเมียวดีไปถึงกอกะเรก ส่วนพื้นที่ของ KNLA 7 ครอบคลุมจากเมืองกอกะเรกไปถึงเมืองผะอัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนายพลจอห์นนี่เซ็นคำสั่งนี้ออกมาเมื่อเย็นวันที่ 23 เมษายน ยังไม่มีรายงานว่า KNLA 6 และ 7 ได้ยินยอมปฏิบัติตามหรือไม่ และมีคนเริ่มกลับมาใช้เส้นทาง AH1 ในการสัญจรแล้วมากน้อยเพียงใด.
ภาพที่ถูกเผยแพร่ทางเพจ The Karen Post เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 เมษายน 2565 ระบุว่าถนนสายเมียวดีได้กลายเป็นพื้นที่สงครามแล้ว
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 25 เม.ย.65
Link : https://mgronline.com/indochina/detail/9650000039370