รอยเตอร์ – เวียดนามกำลังเตรียมออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ต้องลบเนื้อหาที่ทางการถือว่าผิดกฎหมายภายใน 24 ชั่วโมง
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า การแก้ไขกฎหมายฉบับปัจจุบันตามที่วางแผนไว้นั้นจะยิ่งทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบอบการปกครองที่เข้มงวดที่สุดของโลกสำหรับบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ และจะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองประเทศในการปราบปรามกิจกรรมต่อต้านรัฐ
แหล่งข่าวระบุว่า เนื้อหาและบริการที่ผิดกฎหมายจะต้องถูกลบภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน ขณะที่การสตรีมสดผิดกฎหมายต้องถูกปิดกั้นการเข้าถึงภายใน 3 ชั่วโมง โดยบริษัทที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดเวลาอาจถูกแบนแพลตฟอร์มในเวียดนาม
นอกจากนี้ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ยังได้รับแจ้งว่า เนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติต้องถูกลบออกทันที
ปัจจุบัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมักมีเวลา 2-3 วันในการจัดการตามคำร้องของรัฐบาลเวียดนาม แหล่งข่าวระบุและคาดว่า นายกรัฐมนตรีจะลงนามกฎหมายนี้ในเดือนหน้า และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป
แหล่งข่าวทั้งหมดที่พูดคุยกับรอยเตอร์ปฏิเสธที่จะระบุตัวตนเนื่องจากความอ่อนไหวของประเด็น ด้านกระทรวงการสื่อสารและกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์
ด้านตัวแทนของบริษัทเมตา แพลตฟอร์ม (Meta Platforms Inc) เจ้าของเฟซบุ๊ก และบริษัทอัลฟาเบท (Alphabet Inc) เจ้าของเว็บไซต์ยูทิวป์และกูเกิล ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น ส่วนบริษัททวิตเตอร์ (Twitter) กล่าวว่าบริษัทไม่มีความคิดเห็นในตอนนี้
ติ๊กต็อก (TikTok) ของบริษัทไบท์แดนซ์ (ByteDance) จะยังคงปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นที่บังคับใช้ เพื่อให้แน่ใจว่า แอปพลิเคชันติ๊กต็อกยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ตัวแทนของบริษัทในเวียดนามกล่าวกับรอยเตอร์และเสริมว่า บริษัทจะลบเนื้อหาที่ละเมิดแนวทางของแพลตฟอร์ม
เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน ติดอันดับ 1 ใน 10 ตลาดชั้นนำของเฟซบุ๊ก ด้วยมีผู้ใช้งานราว 60-70 ล้านราย บนแพลตฟอร์มตามข้อมูลของบริษัทในปี 2564 ขณะที่ยูทิวป์มีผู้ใช้งาน 60 ล้านคนในเวียดนาม และติ๊กต็อกมี 20 ล้านคน ตามการประเมินของรัฐบาลในปี 2564 ส่วนทวิตเตอร์ไม่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวเวียดนามเท่าใดนัก
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอดทนต่อการวิพากษ์วิจารณ์เพียงเล็กน้อย และศาลของประเทศมักจำคุกผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหว จากการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบนเฟซบุ๊กและยูทิวป์
ความพยายามของรัฐบาลที่จะควบคุมเนื้อหาออนไลน์นั้นมีแต่จะเพิ่มสูงขึ้น โดยรัฐบาลได้ออกกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ในปี 2562 และตามมาด้วยการออกแนวทางระดับชาติเกี่ยวกับพฤติกรรมการแสดงออกในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเดือน มิ.ย.2564
ในปี 2563 เฟซบุ๊กตกลงที่จะเพิ่มการเซ็นเซอร์โพสต์ต่อต้านรัฐกับผู้ใช้งานท้องถิ่นหลังทางการเวียดนามชะลอการรับส่งข้อมูลไปยังแพลตฟอร์ม และขู่ว่าจะปิดเฟซบุ๊ก ตามที่แหล่งข่าวของบริษัทเคยบอกกับรอยเตอร์ก่อนหน้านี้
เฟซบุ๊กระบุในตอนนั้นว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามคำร้องของรัฐบาลอย่างไม่เต็มใจในการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่รัฐบาลมองว่าผิดกฎหมาย
แหล่งข่าวระบุว่า การปรับแก้กฎหมายในครั้งนี้มาจากความไม่พอใจของรัฐบาลต่ออัตราการลบเนื้อหาตามคำร้องในปัจจุบัน ข้อมูลจากกระทรวงการสื่อสารเวียดนามระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 เฟซบุ๊กปฏิบัติตามคำร้องขอของรัฐบาลที่ให้ลบเนื้อหาเพียง 90% ส่วนบริษัทอัลฟาเบทปฏิบัติตาม 93% และติ๊กต็อกปฏิบัติตาม 73%
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกเหนือจากการลบเนื้อหาผิดกฎหมายแล้ว รัฐบาลยังต้องการให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์แก้ไขอัลกอริทึม เพื่อจำกัดเนื้อหาที่มีการชี้นำทางเพศ การพนัน และการขายยาและอาหารเสริมที่ไม่ได้รับการควบคุม
รัฐบาลยังกระตือรือร้นที่จะลบบัญชีคนดังที่เชื่อว่าใช้ชื่อเสียงของตนขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม หมิ่นประมาทผู้อื่น และส่งเสริมการกุศลปลอม
แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทสื่อสังคมออนไลน์จะเผชิญกับความยากลำบากในการปฏิบัติตามคำร้องขอให้ลบเนื้อหาออกภายใน 24 ชั่วโมง แม้ว่าการละเมิดกฎของบริษัท เช่น ภาพความรุนแรงอย่างสุดโต่งจะสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว แต่คำร้องอื่นๆ นั้นยังต้องใช้เวลาในการประเมินนานกว่า และการหาพนักงานที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย.
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 20 เม.ย.65
Link : https://mgronline.com/indochina/detail/9650000037795