FBI เตือนภัยจาก BEC ขโมยเงินกว่า 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั่วโลก

Loading

Credit: ShutterStock.com ตัวเลข 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาจากรายงานอาชญากรรมต่อ FBI รวมไปถึงข้อมูลการบังคับใช้กฎหมายและการยื่นเอกสารต่อสถาบันการเงิน โดยมีธนาคารในเอเชียเป็นจุดหมายปลายทางหลักในการรับเงินที่ถูก BEC ขโมยไป มากสุดคือ ธนาคารไทย และฮ่องกง จีนมาเป็นอันดับสาม รองลงมาเป็นเม็กซิโกและสิงคโปร์ Business Email Compromise เป็นรูปแบบหนึ่งของการโจมตีแบบ Social Engineering โดย FBI ให้นิยามว่า เป็นการต้มตุ๋นทางอีเมลอันแยบยล ซึ่งมีเป้าหมายสำหรับธุรกิจที่มีการติดต่อกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศ และมีการโอนเงินหากันผ่านทาง Wire Transfer บ่อยครั้ง โดยปกติแล้ว BEC จะเริ่มต้นโดยการแฮ็คหรือปลอมแปลงอีเมลของผู้บริหารระดับสูง จากนั้นก็ใช้อีเมลดังกล่าวส่งไปยังพนักงานทั่วไปที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แล้วหลอกให้ทำการโอนเงินไปยังบัญชีของแฮ็คเกอร์ที่อยู่ต่างประเทศ FBI เผยสถิติจากการรายงานข้อมูลการหลอกลวงทางการเงินในสหรัฐฯ จำนวน 50 รัฐ และอีก 177 ประเทศทั่วโลก โดยระหว่างเดือนกรกฎาคม 2562 ถึงเดือนธันวาคม 2564 มีอัตราเพิ่มขึ้น 65% สำหรับข้อมูลการสูญเสียที่เปิดเผยจากทั่วโลก นับว่าเป็นการสูญเสียจากการพยายามปล้นเงินทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วงการระบาด COVID-19 มีจำนวน 140…

อินเดียผ่านกฎหมายบังคับผู้ให้บริการต่างๆ เก็บข้อมูลผู้ใช้งาน

Loading

  รัฐบาลอินเดียได้ยกระดับการคุมเข้มทางอินเทอร์เน็ตด้วยการออกกฎหมายควบคุมกับผู้ให้บริการประกอบด้วย VPN , Datacenter , ธุรกิจตัวกลาง และนิติบุคคลต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้   ตัวกฏหมายที่ประกาศจาก Indian CERT กล่าวว่า ผู้ให้บริการประกอบด้วย VPN , VPS , Cloud Provider , KYC , Custodian wallet service provider และ virtual asset exchange/service provider ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดใหม่ที่จะมาถึงในมิถุนายนนี้ โดยข้อบังคับว่าด้วยเรื่องการตั้งเวลาระบบให้ตรง การเก็บ Log และสามารถรายงานเหตุการณ์ทางไซเบอร์ได้ภายในหกชั่วโมง รวมถึงมีข้อมูลผู้ใช้บริการหรือลูกค้า สำหรับข้อมูลที่ผู้ให้บริการ Data Center , VPN และ Cloud Provider ต้องมีข้อมูลเหล่านี้อย่างน้อย 5 ปี – วันและช่วงเวลาการว่าจ้าง – วัตถุประสงค์ของการใช้บริการ – ที่อยู่และเบอร์ที่มีอยู่จริงตรวจสอบได้…

“สุวรรณภูมิ” ยกเคส “ชายคลั่ง” เป็นกรณีศึกษา ให้ใช้ “ปืนไฟฟ้า” เป็นอาวุธคู่กาย

Loading

สนามบิน “สุวรรณภูมิ” ยันจับชายคลั่งตามขั้นตอนสากล เหตุสงบใน 10 นาที ยกเป็นกรณีศึกษา ลุยปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่ม เล็งใช้ “ปืนไฟฟ้า” เป็นอาวุธคู่กายเจ้าหน้าที่ วอนผู้โดยสารมั่นใจใช้บริการปลอดภัยแน่ ขณะที่ตำรวจดำเนินคดี 7 ข้อหา ส่งตัวไปศาล 5 พ.ค.นี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) นายกิตติพงศ์  กิตติขจร ผู้อำนวยการ ทสภ. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้บุกรุกเข้าพื้นที่เขตการบินว่า ยืนยันว่าเหตุการณ์บุคคลภายนอกขับขี่รถจักรยานยนต์ พกอาวุธ ฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามภายในเขตการบิน มีเจ้าหน้าที่ติดตามตลอดเวลา และอยู่ในสายตาของศูนย์รักษาความปลอดภัย ทสภ. ตลอด โดยได้ประสานหน่วยต่างๆ เพื่อสกัดกั้น และได้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ รวมทั้งคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ที่กำหนดทุกขั้นตอนตามหลักสากล ทำให้เหตุการณ์จบลงได้ภายใน 10 นาที ก่อนนำผู้บุกรุกส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป     นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้โดยสารเชื่อมั่นว่าเมื่อมาใช้บริการ ทสภ.…

วิเคราะห์: ความเห็นศาลสูงสหรัฐฯ รั่วเรื่องสิทธิการทำแท้ง

Loading

  รายงานข่าวเกี่ยวกับสัญญาณจากศาลสูงสหรัฐฯ ที่จะคว่ำคำตัดสินครั้งสำคัญเมื่อปีค.ศ. 1973 ว่าด้วยสิทธิในการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายของชาวอเมริกันทั่วประเทศ กลายมาเป็นกระแสการเมืองร้อนแรงที่นำมาซึ่งคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ในสหรัฐฯ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งเสรีภาพ ประวัติศาสตร์อเมริกาต้องมีการบันทึกกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้นในแวดวงตุลาการของประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังเว็บไซต์ Politico เปิดเผยร่างความเห็นเสียงส่วนใหญ่ตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ ซึ่งมีเนื้อความระบุว่า ศาลสูงจะคว่ำคำตัดสินประวัติศาสตร์เมื่อ 49 ปีก่อนที่เรียกว่า การตัดสินกรณี Roe v. Wade ซึ่งยอมรับสิทธิของสตรีอเมริกันภายใต้รัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการยกเลิกการตั้งครรภ์ของพวกเธอเอง   Demonstrators protest outside of the U.S. Supreme Court, May 3, 2022 in Washington. กรณีการรั่วไหลของร่างความเห็นดังกล่าวกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ถูกมองว่าเป็น ‘ทะเลเพลิงทางการเมือง’ ที่โหมกระหน่ำและลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ สมาชิกพรรคเดโมแคตออกมาประณามเรื่องนี้ว่าเป็น “การจำกัดสิทธิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 50 ปี” และประกาศที่จะผลักดันการผ่านกฎหมายปกป้องสิทธิการทำแท้งให้ได้ ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันแสดงความยินดีต่อร่างความเห็นดังกล่าวที่เขียนขึ้นโดย ผู้พิพากษาศาลสูงฝ่ายอนุรักษ์นิยม แซมมวล อลิโต พร้อม ๆ กับกล่าวหา “พวกฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง” ว่า “ทำการบูลลี่ (กลั่นแกล้งรังแก)”…

กองทัพอังกฤษ เปิดผลสอบ ชายป่วยทางจิต ปลอมเป็นบาทหลวง เข้าหน่วยรักษาความปลอดภัยควีนอลิซาเบธ

Loading

  กองทัพอังกฤษ เปิดการสอบสวนเหตุการณ์ที่มีชายคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นบาทหลวงเข้าไปพักค้างคืนที่ค่ายโคลด์สตรีม การ์ด หน่วยทหารรักษาพระองค์สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ใกล้พระราชวังวินด์เซอร์ แม้ขณะเกิดเหตุพระองค์ไม่ได้ทรงประทับอยู่ที่พระราชวัง แต่โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กองทัพให้ความสำคัญกับการละเมิดความปลอดภัยอย่างจริงจังและจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด จึงไม่เหมาะสมที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในเวลานี้     หนังสือพิมพ์เดอะซัน รายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันอังคารที่แล้ว (26 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น บาทหลวงปลอมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ชื่อคุณพ่อครูซ (Father Cruise) เป็นเพื่อนของอนุศาสนาจารย์ในกองพัน ทำให้ได้รับเชิญเข้าไปรับประทานอาหารภายในค่ายโดยที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวหรือเอกสารใดๆ แต่เริ่มมีข้อสงสัยมากขึ้นเมื่อเขาเล่าเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในอิรัก การได้รับเหรียญรางวัลจากความกล้าหาญ การทำงานเป็นนักบินทดสอบที่นั่งแบบอีเจ็คเตอร์ และการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังให้เขาพักค้างคืนอยู่ในค่าย จนถึงช่วงเช้าหลังการรับประทานอาหารเช้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงมีการตรวจสอบข้อมูล เมื่อพบว่าไม่ถูกต้อง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวออกจากค่าย รวมเวลาที่เขาอยู่ในค่ายทหารคือ 16 ชั่วโมง ผลการตรวจสอบพบว่า เขามีปัญหาทางจิตจึงถูกนำส่งต่อไปรับการดูแลรักษา ไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใดๆ แต่นับเป็นความผิดพลาดด้านความปลอดภัยที่น่าตกใจที่สุดที่เกิดขึ้นในฐานทัพของสหราชอาณาจักรในรอบหลายปี โคลด์สตรีม การ์ด ก่อตั้งในปี (พ.ศ.) 2193 เป็นกองทหารที่เก่าแก่ที่สุดของกองทัพ และเป็นที่รู้จักจากหน้าที่ในงานพระราชพิธีสำคัญ เป็นผู้พิทักษ์พระราชวังวินด์เซอร์และพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมอธิบายว่าเป็นกองกำลังต่อสู้ชั้นยอด     ที่มา : ศูนย์ข่าวแปซิฟิค …

ญี่ปุ่น-ไทย จรดหมึก “ข้อตกลงยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ” ให้ยืม 50,000 ล้านเยนต้านโควิด

Loading

  นายกฯ ญี่ปุ่นเยือนไทย สองชาติลงนามความร่วมมือเปิดทางญี่ปุ่นขายอาวุธ ถ่ายทอดเทคโนโลยีทหาร รับมือการขยายอิทธิพลของจีน และรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้เงินกู้ 50,000 ล้านเยนกับประเทศไทยเพื่อรับมือโรคโควิด นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้พบกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ที่กรุงเทพฯ ในวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม ผู้นำทั้ง 2 ชาติได้ยืนยันความร่วมมือทวิภาคีในการรับมือกับความท้าทายหลายเรื่องในระดับภูมิภาคและระดับโลก ทั้งสถานการณ์ในยูเครน เกาหลีเหนือ และเมียนมา ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลไทยว่า “การรุกรานอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนด้วยการใช้กำลังทหารหรือข่มขู่ รวมถึงการใช้กำลังแต่เพียงฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคใดก็ตาม” คำกล่าวของนายกฯ ญี่ปุ่นสะท้อนทั้งสถานการณ์ที่รัสเซียรุกรานยูเครน และการขยายอิทธิพลของจีน ซึ่งมีข้อพิพาทด้านดินแดนกับญี่ปุ่น และหลายประเทศอาเซียน     สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้กล่าวกับนายกฯ ญี่ปุ่นว่า “ประเทศไทยยึดมั่นในบูรณภาพด้านดินแดน กฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติ ไทยสนับสนุนการยุติความรุนแรง การยับยั้งชั่งใจ และพร้อมให้ความร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับชาวยูเครน และมุ่งสู่การยุติความขัดแย้งระหว่างกัน” ผู้นำญี่ปุ่น-ไทยยังได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับ ที่น่าจับตาที่สุดคือ “ความตกลงด้านยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ” ซึ่งจะเปิดทางให้ญี่ปุ่นสามารถขายอาวุธ และถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทหารให้กับประเทศไทยได้ จากแผนที่เส้นประ 9…