ในยุคดิจิทัลที่ “ข้อมูล” มีบทบาทมากขึ้น และกลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกประตู สู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ
จึงนับเป็นโอกาสของภาคธุรกิจในการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ตลอดจนส่งเสริมไอเดียธุรกิจใหม่ ๆ สำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืนต่อไป
ข้อมูลดิจิทัลจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ไม่มีคู่แข่งในการบริโภค (non-rival good) ที่ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้พร้อม ๆ กันและสามารถนำไปใช้ซ้ำได้หลายครั้ง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและไม่ต้องกังวลว่าปริมาณสินค้าจะลดน้อยลง
ในชีวิตประจำวันมีการผลิตและจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่มีพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น จึงคาดการณ์ได้ว่าภายในปี ค.ศ. 2025 จะมีปริมาณข้อมูลกว่า 175 เซตตะไบต์ (ล้านล้านกิกาไบต์) ในเศรษฐกิจสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ถูกนำไปใช้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะข้อมูลอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันถูกนำไปใช้ประโยชน์เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น
มาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจข้อมูลของอียู
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้เสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าถึงและใช้ข้อมูล (Data Act) เพื่อปลดล็อกให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น เพื่อเปิดโอกาสด้านนวัตกรรมที่เน้นการใช้ข้อมูล (date-driven innovation) และนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์ด้านข้อมูลของสหภาพยุโรป (European strategy for Data) โดยกำหนดมาตรการว่าใครสามารถเข้าถึงและ/หรือนำข้อมูลที่ผลิตในสหภาพยุโรปไปใช้ได้ ตลอดจนลดอุปสรรคด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐกิจ และด้านเทคนิคที่จำกัดการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ โดยได้เสนอมาตรการที่สำคัญ ดังนี้
(1) มาตรการเพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อสามารถเข้าถึงและจัดการข้อมูลที่ตนผลิตได้ เช่น เดียวกับผู้ผลิตอุปกรณ์ โดยผู้ใช้สามารถมอบสิทธิ์ในการใช้ข้อมูลนี้ให้แก่บุคคลที่สามเพื่อให้บริการหลังการขายหรือบริการอื่น ๆ ที่ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
โดยมีข้อยกเว้นว่าผู้ใช้ไม่สามารถแบ่งปันข้อมูลให้กับบริษัทคู่แข่งของผู้ผลิต และบริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้คุมประตูตามเกณฑ์ของกฎหมายการตลาดดิจิทัลของอียู (Digital Markets Act (DMA)
(2) มาตรการเพื่อรักษาสมดุลของอำนาจ ในการเจรจาสัญญาการแบ่งปันข้อมูลระหว่าง SMEs และบริษัทยักษ์ใหญ่ ป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยเสียเปรียบในสัญญาที่ไม่เป็นธรรม โดยคณะกรรมาธิการยุโรปจะพัฒนา “สัญญาต้นแบบ” เพื่อช่วยสนับสนุนบริษัทรายย่อยในการร่างและเจรจาสัญญาแบ่งปันข้อมูลอย่างเป็นธรรม
(3) มาตรการเพื่ออนุญาตให้ภาครัฐมีสิทธิ์เข้าถึงและใช้ข้อมูลที่จัดเก็บ โดยภาคเอกชนในบริบทเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาทิ การก่อการร้าย อุทกภัย ไฟป่า และ/หรือเพื่อดำเนินการตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยภาครัฐจำเป็นต้องมีข้อมูลเชิงลึกเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
(4) มาตรการเพื่อให้ลูกค้าสามารถพิจารณาเปลี่ยนผู้ให้บริการระบบคลาวด์ได้ โดยมีมาตรฐานระบบคลาวด์ที่สามารถเชื่อมต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ (Interoperability) และกำหนดมาตรการป้องกันการถ่ายโอนข้อมูลที่ผิดกฎหมาย อาทิ การโอนถ่ายข้อมูลอุตสาหกรรมออกนอกสหภาพยุโรป และการเข้าถึงข้อมูลจากรัฐบาลจากประเทศที่สามที่ขัดแย้งกับกฎหมายสหภาพยุโรป/กฎหมายของประเทศสมาชิก
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้มีการทบทวนกฎหมายฐานข้อมูล (Database Directive) จากปี ค.ศ. 1990 เพื่อชี้แจงให้ชัดเจนว่าฐานข้อมูลที่มีการจัดเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Internet of Things (IoT) ไม่ควรอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางกฎหมายแยกต่างหาก เพื่อส่งเสริมให้สามารถเข้าถึงและนำข้อมูลดิจิทัลไปใช้ต่อได้
วงการคริปโทสะเทือน เตรียมปรับตัวตามกฎหมายใหม่
ในมิติด้านผลกระทบของร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าถึงและใช้ข้อมูลต่อระบบนิเวศของสกุลเงินคริปโทนั้น เนื่องจากในร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าถึงและใช้ข้อมูลได้เสนอมาตรการควบคุมสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts)
หรือ กระบวนการทางดิจิทัลที่กำหนดขั้นตอนการทำธุรกรรมโดยอัตโนมัติไว้ล่วงหน้า โดยไม่มีตัวกลางควบคุม ซึ่งเป็นจุดเด่นของการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล อาทิ Bitcoin และ Ethereum
เนื่องจากสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยในร่างกฎหมายฯ กำหนดให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันต้องสร้าง “kill switch” เพื่อเป็นกลไกในการยุติการทำธุรกรรมต่อเนื่อง และกระทบต่อคุณสมบัติการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ (immutability)
กอปรกับข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายการโอนเงินของสหภาพยุโรป ขยายภาระผูกพันของสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินให้ครอบคลุมการทำธุรกรรมคริปโท
ผู้ให้บริการจะต้องมีการบันทึกและตรวจสอบข้อมูลชื่อลูกค้า ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขบัญชี และชื่อของผู้รับเงินทุกรายการ เพื่อความโปร่งใสและให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
วงการคริปโทไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปรับปรุงกฎหมายนี้ และมองว่าเป็นการสอดแนมที่เกินจำเป็น ซึ่งเป็นความท้าทายของสหภาพยุโรปในการพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของประชาชน ในขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อไม่ออกกฎหมายที่กีดกันการพัฒนานวัตกรรมในอนาคต
สุดท้ายนี้ สหภาพยุโรปมีแผนจัดตั้ง “Common European Data Spaces” เพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 9 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลด้านอุตสาหกรรม ข้อมูลด้านสุขภาพ ข้อมูลด้านการเกษตร และข้อมูลด้านพลังงาน เป็นต้น สำหรับประยุกต์ใช้ในเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า กฎหมายเกี่ยวกับการเข้าถึงและใช้ข้อมูลจะสามารถสร้าง GDP เพิ่มให้แก่เศรษฐกิจสหภาพยุโรปกว่า 270 พันล้านยูโรภายในปี ค.ศ.2028.
คอลัมน์ : EU watch
ทีมงาน ThaiEurope.net
คณะผู้แทนไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ ทำหน้าที่ ‘คัด’ และ ‘กรอง’ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับยุโรป/สหภาพยุโรป เพื่อนำเสนอในลักษณะข้อมูลเชิงลึก เตือนให้ภาคธุรกิจไทยไทยรับทราบ
facebook @thaieurope.net
www.thaieurope.net
——————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 2 พ.ค.65
Link : https://www.bangkokbiznews.com/columnist/1002157