ดีอีเอส เผยผลประชุมร่วมกับตำรวจ ชี้ 6 เดือนแรก ขอคำสั่งศาล ระงับการทำให้แพร่หลายของเว็บผิดกฎหมายแล้ว 2,630 ยูอาร์แอล 3 อันดับแรก ได้แก่ ความผิดต่อความมั่นคง หรือหมิ่นสถาบัน 1,231 ยูอาร์แอล การพนันออนไลน์ 876 ยูอาร์แอล และขัดศีลธรรมอันดี 312 ยูอาร์แอล ชื่นชม ยูทูบ ติ๊กต็อก ร่วมมือปิดกั้นเฟคนิวส์ เผยห่วงใยโซเซียลทำคนแตกแยก
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เพื่อหารือและติดตามเรื่องคดีที่ผิดกฎหมายออนไลน์ รวมทั้งผลดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ซึ่งจากที่กระทรวงดีอีเอส ได้ดำเนินการยื่นขอศาลปิดกั้นเว็บไซด์ผิดกฎหมายในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายแล้ว 2,630 ยูอาร์แอล (ข้อมูล ณ วันที่ 11 มิ.ย.65) โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ ความผิดต่อความมั่นคง (หมิ่นสถาบัน) 1,231 ยูอาร์แอล การพนันออนไลน์ 876 ยูอาร์แอล และขัดศีลธรรมอันดี 312 ยูอาร์แอล
“จากการทำงานร่วมกันของกระทรวงดีอีเอส และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากเจ้าของแพลตฟอร์มหลังได้รับคำสั่งศาลให้ระงับการแพร่หลาย โดย ยูทูบ และ ติ๊กต็อก ได้มีการปิดกั้นตามคำสั่งศาล 100% เฟซบุ๊ก 80% และทวิตเตอร์ 50%”
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับ กรณีที่ซูเปอร์โพลออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า โชเซียลมีส่วนสำคัญที่ทำให้สังคมเกิดความแตกแยกหรือขัดแย้งนั้น อยากให้ทุกคนไม่ใช้โซเชียลมีเดียในทางที่ผิด ทุกภาคส่วนต้องให้ความรู้กับเยาวชน โดยเฉพาะครอบครัว และสถานศึกษา เราต้องร่วมมือกันในการสร้างความเข้าใจ ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ก็จะใช้อำนาจหน้าที่ที่มีในการปิดกั้นเพจ เว็บไซด์หรือข้อความที่ผิดกฎหมายให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความขัดแย้ง
ด้าน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. กล่าวว่า ได้มีการทำงานร่วมกับกระทรวงดีอีเอส โดยตลอด ในการประสานงานกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ เพื่อให้เข้าใจบริบทของความเป็นไทยมากขึ้น โดยจะใช้แนวทางในเรื่องศีลธรรมอันดีของประชาชน ของแนวปฏิบัติการใช้สื่อสังคมออนไลน์เข้ามาช่วยในการปิดกั้น
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 13 มิ.ย.65
Link : https://www.dailynews.co.th/news/1142919/