เปิดสถิติน่าสนใจ เหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกา 2022

Loading

  ข่าวคราวเหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกาดูเหมือนว่าจะกลับมาเกิดขึ้นบ่อยครั้งยิ่งขึ้น หลังจากที่ดูห่างหายไปจากพื้นที่สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดกระจายไปในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยหลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์ในเมืองอูวัลเด รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุกราดยิงภายในสถานศึกษาครั้งรุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษของสหรัฐฯ ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 22 ราย รวมผู้ลงมือก่อเหตุ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย ในจำนวนนี้คือยายของผู้ลงมือก่อเหตุ นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ของพลเมืองอเมริกัน ซึ่งนับจากเหตุกราดยิงครั้งนั้น เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ ขึ้นอีกอย่างน้อย 35 ครั้ง แค่เฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ (3-5 มิถุนายน) เกิดเหตุกราดยิงอย่างน้อย 15 ครั้ง ทั่วสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย ในจำนวนนี้ 2 รายคือผู้ลงมือก่อเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 74 ราย สะท้อนถึงปัญหาการใช้ความรุนแรงและการก่ออาชญากรรมโดยอาวุธปืน ที่แต่ละรัฐในสหรัฐฯ จำเป็นต้องลงมือแก้ไขและจำกัดสิทธิในการเข้าถึงและครอบครองอาวุธปืนอย่างจริงจัง เพื่อยุติปีศาจร้ายที่พร้อมจะพรากชีวิตของผู้คนบริสุทธิ์ไปได้แทบทุกเมื่อ     ภาพประกอบ: เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล อ้างอิง: https://abcnews.go.com/US/gunviolence/ https://www.motherjones.com/politics/2012/12/mass-shootings-mother-jones-full-data/…

มือมืดลอบเข้าพิพิธภัณฑ์ดัลลัส ทุบงานศิลปะโบราณ โถ 2,000 ปีไม่เหลือ

Loading

  เกิดเหตุคนร้ายบุกรุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองดัลลัส และทุบทำลายผลงานศิลปะหลายชิ้น รวมถึงภาชนะยุคกรีกโบราณอายุกว่า 2,000 ปีด้วย สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานในวันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย.2565 ว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะดัลลัส ในรัฐเทกซัส ออกแถลงการณ์เปิดเผยว่า มีผู้คนร้ายบุกรุกเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และทุบทำลายผลงานศิลปะเก่าแก่หลายชิ้น รวมถึงภาชนะกรีกโบราณอายุ 2,000 ปีด้วย “เมื่อ 1 มิ.ย. หลังพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว มีบุคคลบุกรุกเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ศิลปะดัลลัส” แถลงการณ์ระบุ “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ตอบสนองในทันที และตำรวจเมืองดัลลัสก็จับกุมตัวบุคคลนี้ได้ในที่เกิดเหตุ” ด้านนายอากุสติน อาร์เตียกา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ระบุว่า ผู้บุกรุกรายนี้ไม่มีอาวุธ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ แต่ภาชนะเซรามิกยุคกรีกโบราณ 3 ใบ กับงานเซรามิกร่วมสมัยของชาวอเมริกันพื้นเมือง 1 ชิ้น ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และงานศิลปะขนาดเล็กกว่าในตู้โชว์เดียวกันอีกราว 10 ชิ้นได้รับความเสียหายเล็กน้อย ทั้งนี้ ภาชนะกรีกทั้ง 3 ใบนั้นประกอบด้วย ถ้วยสีดำสำหรับใส่เครื่องดื่มเรียกว่า “ไคลิกซ์” (kylix) หลงเหลือมาจากยุค 550-530 ปีก่อนคริสตกาล ประดับภาพสิ่งมีชีวิตในตำนาน ,…

สงครามกับความมั่นคงด้านอาหาร

Loading

  โดย…ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ ************ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ให้บทเรียนในประเด็นความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานแก่โลก สหรัฐฯ ใช้สงครามเศรษฐกิจและการเงินกดดันรัสเซีย รัสเซียตอบโต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปโดยห้ามส่งออกน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายดิบ ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปยังยุโรป รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก โดยส่งออกข้าวสาลีร้อยละ 30 ข้าวโพดร้อยละ 20 และน้ำมันทานตะวันร้อยละ 75 ของความต้องการตลาดโลก รัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีลำดับ 5 ของโลก สองประเทศส่งออกข้าวบาร์เลย์ร้อยละ 19 ของโลก นอกจากนั้น ทั้งรัสเซียและยูเครนเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกน้ำมันดอกทานตะวันรายใหญ่ของโลก ซึ่งน้ำมันนี้นำไปใช้ประกอบอาหาร ปีการผลิต 2565 ผลผลิตข้าวสาลีลดลงอยู่แล้ว บวกกับการขึ้นภาษีส่งออกธัญพืช ซ้ำมาเจอกับมาตรการที่รัฐบาลรัสเซียห้ามส่งออก ยูเครนก็ส่งออกไม่ได้ ราคาข้าวสาลีและธัญพืชอื่นๆ ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาก ปี 2564 ราคาข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 คาดว่าในปี 2565 ราคาจะเพิ่มขึ้นอีก น้ำมันดอกทานตะวันคาดว่าจะสูงขึ้นกว่าร้อยละ 60 สงครามทำให้การเลี้ยงปศุสัตว์และการผลิตผักผลไม้ ลดลงเช่นกัน ซึ่งหมายถึงว่าราคาในตลาดโลกก็จะสูงขึ้น ระบบการขนส่งก็ไม่สะดวก น้ำมันขึ้นราคา ค่าขนส่งก็ขึ้นด้วย…

สยองไนจีเรีย! มือปืนโจมตีโบสถ์ สังหารหมู่ประชาชนมากกว่า 50 ศพ

Loading

  มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน จากเหตุคนร้ายบุกโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ว่าทางการรัฐออนโด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย รายงานการเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยังไม่ทราบจำนวนและไม่ทราบฝ่าย บุกโจมตีโบสถ์คาทอลิก เซนต์ฟรานซิส ในเมืองโอโว ระหว่างที่คริสต์ศาสนิกชนจำนวนมากกำลังประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ราย รวมถึงเด็กและผู้หญิง อีกทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน   ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงที่โบสถ์ เซนต์ฟรานซิส เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้านประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำไนจีเรีย ประณามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างหนัก ด้านสันตะสำนักวาติกันเผยแพร่แถลงการณ์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ว่าพระองค์ทรงอธิษฐานและประทานกำลังพระทัยให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายทุกคน   Victims of an attack on a Catholic church in Nigeria were being treated at a local hospital after unknown…

เว็บกระทรวงก่อสร้างรัสเซียถูกแฮ็ก สื่อรัสเซียยันข้อมูลผู้ใช้ปลอดภัย

Loading

  สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานว่า เว็บไซต์กระทรวงก่อสร้าง การเคหะ และสาธารณูปโภคของรัสเซียถูกแฮ็ก หลังจากผลการค้นหาเว็บไซต์ดังกล่าวบนอินเทอร์เน็ตได้ถูกลิงก์ไปยังสัญลักษณ์ “Glory to Ukraine (เกียรติยศแด่ยูเครน)” ในภาษายูเครน สำนักข่าว RIA รายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ว่า เว็บไซต์ดังกล่าวล่ม แต่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ยังคงปลอดภัย นอกจากนี้ RIA ระบุว่า สื่ออื่น ๆ ได้รายงานว่าแฮ็กเกอร์ต้องการเรียกค่าไถ่เพื่อแลกกับการไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า RIA หมายถึงสื่อสำนักใด บริษัทและองค์กรข่าวรัสเซียหลายแห่งเผชิญปัญหาถูกพยายามแฮ็กข้อมูลหลายครั้งนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แฮกเกอร์ได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้ง ส่งผลให้เว็บไซต์ RuTube ล่มเป็นเวลา 3 วัน และมีการเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ดาวเทียมในมอสโกในวันแห่งแห่งชัยชนะ (Victory Day) ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 77 ปีแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีของสหภาพโซเวียต ที่ผ่านมานั้น รัสเซียอ้างว่าได้ใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อปลดอาวุธชาวยูเครนและปกป้องชาวยูเครนจากกลุ่มฟาสซิสต์ อย่างไรก็ตาม ยูเครนและประเทศตะวันตกไม่ยอมรับคำกล่าวอ้างดังกล่าวของรัสเซีย     ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …

รัฐบาลแคนาดา เผยร้านกาแฟ Tim Hortons สอดแนมลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อวิเคราะห์คู่แข่ง

Loading

  ทิม ฮอร์ตันส์ (Tim Hortons) ร้านกาแฟและโดนัทชื่อดังจากแคนาดา ถูกหน่วยงานของรัฐบาลแคนาดา สอบสวนในประเด็นการใช้ข้อมูลลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับการวิเคราะห์คู่แข่ง คณะกรรมการธิการความเป็นส่วนตัวของแคนาดาเปิดเผยว่า ในปี 2020 ที่ผ่านมา ร้านทิม ฮอร์ตันส์ ได้ใช้แอปพลิเคชันของพวกเขา เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งและสถานที่เป็นจำนวนมากจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกค้าของร้านได้เข้าไปใช้บริการร้านกาแฟที่เป็นคู่แข่งกับทิม ฮอร์ตันส์ ในประเด็นข้างต้น คณะกรรมการธิการความเป็นส่วนตัวของแคนาดา ได้เรียกร้องให้ลบข้อมูลและการรวบรวมข้อมูลจากในแอปพลิเคชันทั้งหมด ซึ่งทางด้าน ทิม ฮอร์ตันส์ ยินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว รายงานฉบับเต็มของคณะกรรมการธิการความเป็นส่วนตัว เปิดเผยว่า การเก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นเก็บข้อมูลเพื่อดูพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า สำหรับใช้การกำหนดโฆษณา แต่บริษัทไม่ได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์นั้น ในปี 2019 ทิม ฮอร์ตันส์ ได้มีการอัปเดตแอปพลิเคชันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลตำแหน่งการใช้งาน เพื่อคาดเดาว่า ผู้ใช้งานอยู่ในบริเวณใด ทำงานอยู่ในพื้นที่ไหน เดินทางเมื่อใด ซึ่งสิ่งนี้ขัดกับวัตถุประสงค์การขอข้อมูล เพราะควรจะเก็บข้อมูลได้เฉพาะยามที่ผู้ใช้งานเปิดแอปพลิเคชันเท่านั้น ตามบันทึกของคณะกรรมาธิการความเป็นส่วนตัว ตรวจสอบพบว่า แอปพลิเคชันของทิม ฮอร์ตันส์ ได้ขอข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ว่า ลูกค้ามีโอกาสที่จะย้ายไปใช้บริการของร้านกาแฟคู่แข่งหรือไม่ อีกด้วย ตามด้วยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็มีการติดตามว่า ลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่จากที่อยู่เดิม ไปยังที่อยู่อื่นหรือไม่อย่างไร รวมถึงการตรวจสอบเวลาที่ลูกค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชันว่ามีการเข้าไปรับชมการแข่งขันกีฬาใดบ้าง…