เอพี – สำนักงานข่าวกรองเนเธอร์แลนด์ AIVD แถลงเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ว่า ทางหน่วยงานสามารถทลายแผนจารกรรมลับของรัสเซียที่มีเป้าหมายไปที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ที่กำลังสอบสวนคดีอาชญากรรมที่รัสเซียเป็นผู้ก่อในยูเครน โดยคนที่ถูกจับได้ปลอมตัวเป็นเด็กฝึกงานชาวบราซิล
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ว่า สำนักงานข่าวกรองและบริการความมั่นคงเนเธอร์แลนด์ AIVD (The General Intelligence and Security Service of the Netherlands) แถลงวันพฤหัสบดี (16) ว่า คนร้ายที่จับได้เป็นชายวัย 36 ปี ถูกชี้ตัวว่าเป็น เซอร์เก วลาดิมีโรวิช เชอร์คาซอฟ (Sergey Vladimirovich Cherkasov) ทำงานให้สำนักงานข่าวกรองกองทัพรัสเซีย GRU ที่อื้อฉาว
ทั้งนี้ พบว่า เชอร์คาซอฟ พยายามเพื่อจะสามารถเข้าไปด้านในศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก โดยพยายามแฝงตัวเป็นเด็กฝึกงานชาวบราซิล วัย 36 ปี ชื่อวิคเตอร์ มุลเลอร์ เฟอร์ไรรา (Viktor Muller Ferreira)
แถลงการณ์ของสำนักงานข่าวกรองดัตช์ AIVD มีใจความว่า “หากว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสามารถประสบความสำเร็จในการเข้าไปด้านในศาล ICC ในฐานะฝึกงาน เขาจะสามารถรวบรวมข้อมูลข่าวกรองจากที่นั่นและสามารถว่าจ้างแหล่งข่าว และสามารถจัดการเข้าถึงระบบดิจิทัลของศาล ICC”
และกล่าวต่อว่า “ในหนทางนี้จะทำให้เขาสามารถให้ข่าวกรองที่ทรงคุณค่าที่ทางหน่วย GRU ต้องการ เขาอาจจะสามารถมีอิทธิพลต่อกระบวนการทางอาญาของศาล ICC”
สำนักข่าวกรองดัตช์ AIVD แถลงว่า ทางสำนักงานสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของสายลับรัสเซียรายนี้ที่แฝงเข้ามาและได้แจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเนเธอร์แลนด์เมื่อเมษายนว่า “บุคคลผู้นี้ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศ”
ในแถลงการณ์ยังชี้ว่า “จากเหตุผลเหล่านี้ทำให้เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง (รัสเซีย) ถูกปฏิเสธเข้าเนเธอร์แลนด์ในเดือนเมษายน และถูกประกาศห้ามเข้า เขาถูกส่งตัวกลับไปยังบราซิลในเที่ยวบินแรก”
เอพีชี้ว่า อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวกรองดัตช์ AIVD ไม่ได้เปิดเผยว่าทางหน่วยใช้วิธีใดจึงสามารถค้นพบการแฝงตัวของสายลับรัสเซียครั้งนี้ได้สำเร็จ
แต่ในแถลงการณ์ชี้ว่า สายลับรัสเซียที่แอบแฝงตัวมาอย่างดีทำงานอย่างหมดจดไม่ทิ้งร่องรอยความสัมพันธ์ระหว่างตัวสายลับและรัสเซียและโดยเฉพาะกับหน่วย GRU ให้ได้รู้
ซึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามโดยรัสเซียในการบุกเข้ายูเครน นอกเหนือจากนี้ทาง ICC กำลังสอบสวนรัสเซียในอาชญากรรมที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามรัสเซีย-จอร์เจียน เมื่อปี 2008 และได้ออกหมายจับชาย 3 คนที่ทำงานให้สาธารณรัฐโอสเซสเตียใต้ (South Ossetia)
ขณะที่โฆษกศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ซอนญา โรบลา (Sonia Robla) ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ทางศาลได้รับรายงานสรุปจากเจ้าหน้าที่ดัตช์ในเรื่องนี้แล้ว และรู้สึกขอบคุณต่อเนเธอร์แลนด์สำหรับปฏิบัติการที่สำคัญ และสำคัญที่สุดคือการสามารถเปิดโปงภัยคุกคามทางความมั่นคงได้สำเร็จ
นอกจากนี้ โรบลา กล่าวอีกว่า สำหรับเนเธอร์แลนด์ในฐานะประเทศเจ้าบ้านทำให้บทบาทของเจ้าหน้าที่ดัตช์มีความสำคัญในการปกป้องสำนักงานใหญ่ศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC เธอกล่าวอีกว่าทางศาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อภัยคุกคามประเภทนี้และจะยังคงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดัตช์ต่อไป
————————————————————————————————————-
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 17 มิ.ย.65
Link : https://mgronline.com/around/detail/9650000057785