ในขณะที่สังคมไทยตื่นตัวกับกฎหมาย PDPA ที่มุ่งเน้นคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะมีการกำหนดโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ตามความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ประเด็นที่ต้องตระหนักไปพร้อมกัน ก็คือ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลภายในองค์กร และการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ทั้งจากภายในและภายนอก ที่อาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล ได้เช่นการจารกรรมข้อมูลส่วนบุคคลของธนาคาร โรงพยาบาล รวมทั้งความมั่นคงในภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ไปจนถึงความมั่นคงของประเทศ ที่นับวันปัญหาดังกล่าวจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เป็นภัยความมั่นคงระดับประเทศ หรือความเสียหายทางธุรกิจ เช่น กรณี Apple ได้ตรวจสอบความปลอดภัยและได้พบมัลแวร์ Pegasus ในไอโฟนของนักเคลื่อนไหวการเมืองไทยกว่า 30 คน หรือกรณี ที่ T-Mobileต้องจ่ายเงิน350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 12,800ล้านบาท เพื่อชดเชนให้ยุตืคดีที่ลูกค้าฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท ฐานปล่อยให้ถูกแฮกข้อมูลรั่วไหล 76.6ล้านคน
โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ที่มีการทำงานที่บ้านหรือเวิร์กฟรอมโฮม เพราะคนอยู่หน้าจอออนไลน์กันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทำให้ตกเป็นเหยื่อ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นคนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดถึงการติดตามไล่ล่าตัวผู้กระทำผิด และมักคิดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือตำรวจไซเบอร์เพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหานอกจากจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีของแต่ละองค์กรแล้ว ปัจจุบันไทยเรามีกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการโจตีทางไซเบอร์ โดยมีพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พ.ศ.2562
ทั้งนี้มีองค์กรที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พ.ศ.2562 คือ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. หรือ National Security Agency” (NCSA) ที่เข้ามาเป็นหน่วยงานกลางผู้สร้างกลไกขับเคลื่อนการทำงานด้านการดูแลและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่เป็นพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ เพื่อลดความเสี่ยงและบรรเทาความเสียหายจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
โดย พ.ร.บ.ไซเบอร์ได้ให้อำนาจ สกมช.ในการเข้าตรวจสอบหรือจัดการแก้ปัญหาการโจมตีไซเบอร์เฉพาะที่มีการถูกโจมตีระดับร้ายแรง และระดับวิกฤติ คือเมื่อมีการโจมตีระบบจนเกิดความเสียหายไม่สามารถทำงานต่อได้ และระบบล้มเหลวจนรัฐทำงานจากส่วนกลางไม่ได้
ที่วันนี้ มองเห็นความสำคัญและความรุนแรงของปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ที่ สกมช. จะเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่จะมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับปัญหาในอนาคต ทั้งนี้ทั้งนั้นภารกิจที่มีความสำคัญ ก็จำเป็นที่ยักษ์ จะต้องมีกระบอง ให้มีอำนาจและบทบาทในการจัดการได้อย่างแท้จริง
————————————————————————————————————————-
ที่มา : สยามรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 28 ก.ค.65
Link : https://siamrath.co.th/n/369059