ไบโอแล็บ ระเบิดเวลาที่ต้องรีบปลดชนวน

Loading

  มีหลายแนวคิดถูกหยิบขึ้นมาอธิบายการเกิดขึ้นของโควิด-19 หนึ่งในนั้นคือ โควิด-19 เกิดขึ้นภายในห้องทดลองทางชีวภาพหรือไบโอแล็บ แล้วเกิดการรั่วไหลหรือมีการจงใจปล่อยออกมาเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบเศรษฐกิจและการเมืองโลก   แน่นอนว่าคู่กรณีหลักในเรื่องนี้ย่อมหนีไม่พ้นจีนและสหรัฐ แต่จนถึงวันนี้คำกล่าวหาที่เกิดขึ้นต่อสองประเทศนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานหนักแน่นพอที่จะชี้ลงไปได้ว่าต้นทางของการระบาดมาจากไหนกันแน่   ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ หลายประเทศในโลกนี้มีการพัฒนาอาวุธชีวภาพเพื่อใช้ในการสงครามจริง เรื่องนี้คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่าการหาที่มาของโควิด-19 เสียอีก เพราะอาวุธชีวภาพมันเป็นระเบิดเวลาที่น่ากลัวเหลือเกิน หากมองในแง่ของการสงคราม     ข้อดีของอาวุธชีวภาพมี 4 อย่าง   1. อาวุธชีวภาพสามารถปิดเกมได้เร็ว เพราะแม้ใช้ในปริมาณน้อยก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับกำลังทหารและประชาชนได้ในวงกว้าง โดยไม่ส่งผลเสียหายเหมือนการใช้อาวุธประเภทอื่นเพื่อให้ได้ผลเช่นเดียวกัน เช่น การใช้ระเบิดนิวเคลียร์   2. มีต้นทุนในการผลิตและใช้ที่ต่ำ ด้วยปริมาณที่ไม่มาก จึงนำไปใช้ได้ง่าย ตรวจจับได้ยากจนกว่าจะสายเกินไปแล้ว ทั้งยังมีต้นทุนในการผลิตไม่สูงเมื่อเทียบกับอาวุธทำลายล้างประเภทอื่นที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับชีวิตในระดับเดียวกัน   3. สามารถสร้างได้ง่าย หากเทียบกับการพัฒนาอาวุธประเภทอื่น อาวุธชีวภาพสามารถสร้างได้ง่ายกว่า ไม่ต้องใช้องค์ความรู้สูง หากเป็นแบบที่ไม่ซับซ้อนมากก็ไม่ต้องใช้วัตถุดิบพิเศษ ประเทศที่ไม่ได้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากนักจึงสามารถพัฒนาและครอบครองอาวุธประเภทนี้ได้   4. สามารถกระจายไปใช้งานในหลายพื้นที่พร้อมกันได้สะดวก เนื่องจากเป็นอาวุธที่ใช้ปริมาณไม่มาก ไม่ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บมากนัก จึงสะดวกต่อการซุกซ่อนและเคลื่อนย้าย     ข้อจำกัดสำคัญของอาวุธชีวภาพมี 5 อย่าง…

เข้มแผนเผชิญเหตุรร.ชายแดน หลังเครื่องบินรบพม่า ‘ล้ำน่านฟ้าไทย’

Loading

  เลขาธิการ กพฐ. เข้มแผนเผชิญเหตุโรงเรียนตามเขตแนวชายแดน หลังเครื่องบินรบเมียนมาล้ำน่านฟ้าประเทศไทย เผย ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงในโรงเรียน   จากกรณีกองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 1 ลำ บินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าไทย บริเวณชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้านในฝั่งเมียนมา ประมาณ 4 รอบ ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนฉุกเฉินนั้น   เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงจนต้องส่งผลกระทบนักเรียนและครู และยังมีความปลอดภัยทุกคน โดยคิดว่าภาพรวมการดูแลรักษาความปลอดภัยจะอยู่ที่กระบวนการของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ แต่ในส่วนของสถานศึกษาโดยรอบเขตชายแดนตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปกำกับดูแลนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาแล้ว รวมถึงมีแผนเผชิญเหตุไว้อย่างรัดกุม   เพราะสถานศึกษาที่ตั้งอยู่เขตชายแดนจะมีมาตรการเฝ้าระวังเหตุ เช่น การจัดทำหลุมหลบภัย เป็นต้น หรือหากได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทหารในพื้นที่ให้รู้ล่วงหน้าก่อนโรงเรียนก็จะประกาศหยุดการเรียนการสอน   เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน และได้รับทราบว่าโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบวางมาตการแผนเผชิญเหตุไว้เป็นอย่างดี สำหรับโรงเรียนบริเวณตามตะเข็บแนวชายแดนเมียนมามีหลายแห่ง   ซึ่งจากการติดตามข้อมูลในขณะนี้ ยังไม่มีประเด็นอะไรที่น่ากังวลใจ…

มุกใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถามอาการหลังฉีดวัคซีน ล้วงข้อมูลส่วนตัว

Loading

  โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนอย่าหลงเชื่อ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ โทรถามอาการหลังฉีดวัคซีน ล้วงข้อมูลส่วนตัว   วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับแจ้งว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านสาธารณสุข เช่น ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โรงพยาบาลพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ไปยังประชาชน เพื่อสอบถามอาการ หลังฉีดวัคซีนโควิด   เบื้องต้น จากการตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่า ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์จริงของหน่วยงานนั้นๆ และหน่วยงานดังกล่าวไม่มีการโทรศัพท์ติดตามอาการภายหลังการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด   นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวด้วยว่า การติดตามอาการหลังฉีดวัควีนนั้น จะมีการติดตามผ่านแพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” ไม่มีการโทรศัพท์ติดตามอาการ จึงขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ บอกข้อมูลส่วนตัวใด ๆ กับผู้ที่โทรมาทั้งสิ้น   เนื่องจากอาจตกเป็นเหยื่อในการโอนเงิน หรืออาจถูกนำข้อมูลไปสวมรอยกระทำความผิดหรือก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ได้ และหากสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ขอให้สอบถามกับหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงโดยตรงก่อน    …

อารักขา สี จิ้นผิง เข้มข้น เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด

Loading

    อารักขาเข้มข้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี   อารักขา สี จิ้นผิง เข้มข้น เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด คาดว่าในวันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะเดินทางไปฮ่องกงเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ที่ฮ่องกงกลับคืนสู่ความปกครองของจีน โดยเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนเดินทางออกนอกแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ตั้งแต่เสิ่นเจิ้นห้ามบินโดรน แบนผู้สื่อข่าว 10 สำนัก เจ้าหน้าที่และ ส.ส. เริ่มกักตัว เพื่อความปลอดภัยจากโควิด   อารักขา สี จิ้นผิง เข้มข้น เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด   ตามรายงานระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะออกเดินทางจากแผ่นดินใหญ่โดยรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง ไปถึงเกาลูนตะวันตกบ่ายวันพฤหัสบดีที่…