“ล่อ – ลวง – หลอก โรแมนซ์สแกม” ปรากฎการณ์เปลี่ยวเหงายุคดิจิทัล
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ – เสน่ห์เล่ห์กลในเชิงจิตวิทยาทำให้มีผู้ตกหลุมพราง อาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบ “โรแมนซ์สแกม (Romance Scam)” คำหวานของคนแปลกหน้าที่ทำให้ใจหวั่นไหว หลอกให้หลงหลอกโอนเงิน ลวงให้รักสุดท้ายกลายเป็นมือที่ 3 ถือเป็น “ปรากฏการณ์การณ์เปลี่ยวเหงายุคดิจิทัล” ที่น่าสนใจยิ่ง รอบสัปดาห์ที่เป็นข่าวครึกโครมกรณี ชายวัยดึกอายุ 60 ปี ทักแชทลวงเหยื่อสาว 12 ราย เน้นสาวใหญ่ แม่ม่าย ลูกติด ล่อลวงมีเพศสัมพันธ์ เลี้ยงดูแบบสามีภรรยา แต่กลับตกเป็นเมียน้อยไม่รู้ตัว ทำให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวเข้าปรึกษาทนายคนดัง หวังดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งดูเหมือนไม่มีกฎหมายข้อใดเอาผิดได้ เพราะเป็นเรื่องความยินยอมของทั้งสองฝ่ายแต่แรก งานนี้ยิ่งไปออกรายการโหนกระแส ยิ่งเป็นข่าวเรียกเสียงฮือฮาวิจารณ์สนั่น อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าปรากฎการณ์ความเปลี่ยวเหงาของผู้คนในยุคดิจิทัล เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอ่อนไหวง่ายขึ้น และเทคนิคทางจิตวิทยาเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญของอาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบโรแมนซ์สแกมให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งเงินทองสนองกิเลสตัณหา งานวิจัยโครงการข้อจำกัดของกระบวนการยุติธรรมเพื่อป้องกันและปราบปรามพิศวาสอาชญากรรม (Romance Scam) และแนวทางสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน โดย ผศ.ดร.ทศพล ทรรศนกุลพันธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมด้านการปฏิสัมพันธ์ของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มีประชาชนจำนวนมากที่ใช้เทคโนโลยีในการหาคู่ หรือแสวงรัก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการกระทำความผิดที่เรียกว่า “Romance Scam” หรือ…