รู้จัก อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี จากศัลยแพทย์ สู่ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า
ชื่อของ “อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกา เปิดปฏิบัติการส่งโดรนโจมตีเข้าใส่เป้าหมายและสามารถสังหารนาย “อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี” หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย “อัลเคด้า” วัย 71 ปีที่กบดานอยู่ในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถานได้สำเร็จ
อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี เป็นที่ต้องการตัวจากสหรัฐอเมริกามายาวนาน 21 ปี ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในเหตุก่อการร้ายของกลุ่มอัลเคด้า โดยมีเป้าหมายที่สหรัฐอเมริกาหลายครั้งโดยเฉพาะเหตุการณ์ก่อการร้ายด้วยการใช้เครื่องบินพาณิชย์พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือเหตุก่อการร้าย 9/11 เหตุการณ์ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 ราย
ประกาศจับเผยแพร่โดยสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา (เอเอฟพี)
ด้านสหรัฐอเมริกาตั้งค่าหัวซาวาฮิรี เอาไว้สูงถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 900 ล้านบาท นับเป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐอเมริกาต้องการตัวมากที่สุด
อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี คือใคร?
ชาวอเมริกันผู้ใช้ชีวิตผ่านเหตุการณ์ 9/11 อาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อของ ซาวาฮิรี แต่จะต้องคุ้นหน้าคุ้นตาซาวาฮิรี เป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นคนที่ปรากฏตัวเคียงข้าง “โอซามา บิน ลาเดน” อยู่บ่อยครั้ง
ซาวาฮิรี เป็นชาวอียิปต์ เกิดในวันที่ 19 มิถุนายน 1951 เติบโตในครอบครัวแพทย์และนักวิชาการ พ่อเป็นศาสตราจาย์ด้านเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยไคโร ขณะที่ปู่เป็น แกรนด์อิหม่าม ที่มหาวิทยาลัยอาซฮาร์ มหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์กลางด้านศาสนาของอียิปต์ โดยซาวาฮิรีถือว่าเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางค่อนบน ที่มีชีวิตสุขสบาย ในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศ
ซาวาฮิรีมีความสนใจเรื่องศาสนาตั้งแต่เด็กถูกปลูกฝังผ่านงานเขียนของนักเขียนชาวอียิปต์แนวสุดโต่ง ก่อนจะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มอิสลามนิกายซุนนี ตั้งแต่มีอายุได้ 15 ปี กลุ่มติดอาวุธใต้ติดที่มีเป้าหมายโค่นล้มรัฐบาลอียิปต์ “นอกรีต” ที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา รวมถึงรัฐบาลชาติอาหรับอื่นพร้อมกับแนวคิดตีความการปกครองด้วยศาสนาแบบสุดโต่ง
พร้อมกันนั้น ซาวาฮิรี ก็ร่ำเรียนและศึกษาจนจบแพทย์ศัลยกรรม มีคลินิกส่วนตัวเป็นของตัวเอง แต่ในเวลาเดียวกัน ก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการติดอาวุธใต้ดินไปด้วย จนถึงขั้นเคยเก็บสะสมอาวุธในคลินิกใจกลางกรุงไคโรก็เคยมีมาแล้ว
อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี (ซ้าย) ร่วมแถลงข่าวกับนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มอัลเคด้าในขณะนั้น ที่ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2004 (เอพี)
ซาวาฮิรี ถูกทางการอียิปต์จับกุมในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 หลังกลุ่มกองกำลังอิสลามญิฮาดกลุ่มหนึ่ง ลอบสังหาร “อันวา ซาดัต” ประธานาธิบดีอียิปต์ และ ซาวาฮิรี ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกอิสลามสุดโต่งหลายร้อยคนที่ถูกจับกุม และต้องถูกทารุณกรรมในคุกเป็นเวลานานถึง 3 ปี
พบกับโอซามา บิน ลาเดน
หลังได้รับอิสรภาพ ซาวาฮิรีเองก็เดินทางไปในหลายประเทศทั้งในภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง และด้วยประสบการณ์การอยู่ในกองกำลังติดอาวุธ ซาวาฮิรี ก็ได้ร่วมกับกองกำลังติดอาวุธอาหรับหลายกลุ่มร่วมกันขับไล่สหภาพโซเวียตที่จะพยายามยึดครองอัฟกานิสถานในช่วงกลางทศวรรษที่ 80
ในช่วงเวลานี้เองที่ ซาวาฮิรี ได้พบกับ “โอซามา บิน ลาเดน” ในวัยหนุ่ม ช่วยกันขับไล่กองกำลังสหภาพโซเวียตได้สำเร็จ และร่วมกันก่อตั้ง “กลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า” ในเวลาต่อมา
อัยมาน อัล-ซาวาฮิรี (ซ้าย) พูดขณะที่นายโอซามา บิน ลาเดน (ขวา) กำลังนั่งฟังอย่างตั้งใจ ในคลิปวิดีโอที่ถ่ายในสถานที่ซึ่งไม่เปิดเผยตำแหน่ง เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์เมื่อปี 2002 (เอพี)
ซาวาฮิรี ควบรวมเอากองกำลังติดอาวุธของตัวเองเข้ากับกลุ่มอัลเคด้า ใช้ประสบการณ์ และยุทธวิธีจากการเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธในอียิปต์ ฝึกฝนนักรบของกลุ่มอัลเคด้า ขณะที่บิน ลาเดน มาพร้อมกับสเน่ห์ของผู้นำและเงินทุนจำนวนมหาศาล ขับเคลื่อนกลุ่มอัลเคด้า ก่อเหตุโจมตีไปทั่วโลก
ขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มอัลเคด้า
หลังเหตุกาณร์ 9/11 สหรัฐอเมริกาเปิดฉากกวาดล้างกลุ่มอัลเคด้าในอัฟกานิสถาน ซาวาฮิรี มีบทบาทมากขึ้นในที่สาธารณะขณะที่บิน ลาเดน ซ่อนตัวจากสหรัฐอเมริกา ซาวาฮิรี ปรับเปลี่ยนการบริหารกลุ่มอัลเคด้าใหม่จากการปกครองรวมศูนย์ กลายสำนักงานใหญ่แบบ “แฟรนไชส์” ที่มีสาขาไปในหลายภูมิภาค ทั้งในอิรัก, ซาอุดีอาระเบีย, เยเมน, แอฟริกาเหนือ, โซมาเลีย รวมถึงในเอเชีย
อัมมาน อัล-ซาวาฮิรี ปราศรัยในโอกาสครบรอบ 11 ปีเหตุโจมตี 9/11 เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 กันยายนปี 2012 (เอเอฟพี)
หลังจากนั้นกลุ่มอัลเคด้า ก่อการร้ายครั้งใหญ่อีกหลายครั้งไม่ว่าจะเป็น เหตุระเบิดรถไฟในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ในปี 2004, เหตุระเบิดในกรุงลอนดอนปี 2005 เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 52 ราย รวมไปถึงความพยายามในการวางระเบิดเครื่องบินโดยสารของสหรัฐอเมริกาในปี 2009 ด้วย เมืองใหญ่หลายเมืองไม่ว่าจะเป็นบาหลี, มอมบาซา, ริยาด, จาการ์ตา, อิสตันบูล และอีกหลายต่อหลายที่ก็เคยถูกโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้ามาแล้ว
หลังจากบิน ลาเดน ถูกสหรัฐอเมริกาบุกสังหารในเมืองแอบบอตตาบัด ประเทศปากีสถาน ในปี 2011 ซาวาฮิรี ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มอัลเคด้าต่อในอีก 2 เดือนต่อมาเท่านั้น
ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
ปฏิบัติการสังหาร ซาวาฮิรี เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 31 กรกฎาคม เมื่อ ซาวาฮิรี เดินออกมาที่ระเบียงบ้านในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ซาวาฮิรี สูดอากาศอยู่บนระเบียงแบบที่เคยทำตามรายงานของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐ แต่ในวันนี้สหรัฐอเมริกาส่งโดรน โจมตีจากทางอากาศด้วยขีปนาวุธ “เฮลไฟร์” 2 นัด เข้าใส่ระเบียงบ้านที่ซาวาฮิรียืนอยู่อย่างจัง ทำให้ผู้นำกลุ่มอัลเคด้าเสียชีวิตในทันที
กลุ่มควันลอยขึ้นจากบ้านหลังหนึ่งในกรุงคาบูล หลังจากสหรัฐส่งโดรนโจมตีเข้าใส่อัมมาน อัล-ซาวาฮิรี หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า ที่กบดานอยู่ในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านา (เอเอฟพี)
นักวิเคราะห์ระบุว่าสหรัฐอเมริกาทราบจากแหล่งข่าวกรองถึงตำแหน่งซาวาฮิรี ในอัฟกานิสถานมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวกรองระบุว่าภรรยาและสมาชิกครอบครัวของซาวาฮิรี ย้ายไปอาศัยใน “เซฟเฮาส์” ในกรุงคาบูลเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนที่ ซาวาฮิรี จะเดินทางตามไป
ผลกระทบกับกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า
ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าแทน ซาวาฮิรี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าบุคคลที่มีโอกาสจะขึ้นดำรงตำแหน่งแทนซาวาฮิรี ได้ก็คือ “ซาอิฟ อัล-อาดิล” ที่บรรดาชาติตะวันตกหวั่นเกรงว่าจะเป็นผู้ที่สามารถดึงเอาสมาชิกอัลเคด้าที่เคยแยกตัวออกไปกลับมารวมตัวอย่างมีเอกภาพอีกครั้ง เนื่องจากสถานะ ประสบการณ์และบุคลิกผู้นำของ อัล-อาดิล
ซาอิฟ อัล-อาดิล อดีตผู้บัญชาการทหารอียิปต์ เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด ผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มอัลเคด้าเป็นคนต่อไป
อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้ากำลังเผชิญกับวิกฤตของการเปลี่ยนแปลงผู้นำและอนาคตของกลุ่มที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะช่วงเวลานี้มีกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่มที่ก่อตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ โดยกลุ่มเหล่านี้จะมีเป้าหมายไปในท้องถิ่นมากกว่าเป้าหมายระดับโลก
กลุ่มทาลิบันกับการให้ที่พักพิงซาวาฮิรี
เจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกายืนยันหนักแน่นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมว่า ทาลิบัน รับรู้ถึงการซ่อนตัวของ ซาวาฮิรี ในอัฟกานิสถานอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะไม่ชัดเจนว่า ซาวาฮิรี กบดานในอัฟกานิสถานนานเท่าใดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านที่ซาวาฮิรี ใช้กบดานนั้นก็เป็นของผู้ช่วยระดับสูงของนายซิราจุดดิน ฮัคคานี หนึ่งในผู้นำอาวุโสของกลุ่มทาลิบันที่เวลานี้ปกครองอัฟกานิสถานอยู่
แม้จะมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีสมาชิกทาลิบัน ขายข้อมูลให้กับสหรัฐอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้ประโยชน์จากการตายของซาวาฮิรี แต่ก็เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลทาลิบันที่เปิดรับผู้นำกลุ่มอัลเคด้าเข้าสู่ประเทศเพื่อวางแผนก่อการร้าย 9/11 ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 จุดชวนสงครามของสหรัฐอเมริกาในอัฟกานิสถานที่กินเวลายาวนาน 20 ปี
ขณะที่การสังหารซาวาฮิรี ได้ในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถานก็นำไปสู่ความกังวลของชาติตะวันตกด้วยเช่นกันว่ากลุ่มทาลิบันนั้นกำลังเปิดทางให้กลุ่มองค์กรติดอาวุธเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในประเทศมากขึ้นหลังจากสหรัฐถอนกำลังออกไปด้วยเช่นกัน
—————————————————————————————————————–
ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 2 ส.ค.65
Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3485427