“เครือข่ายดาวเทียม” อนาคตของการติดต่อ ดีกว่าสัญญานจากเสาโทรศัพท์ไหม?
จากข่าวที่ทั่วโลกได้ให้ความสนใจกัน T-Mobile ได้จับมือกับ Space X หรืออีลอน มัสก์ เพื่อร่วมมือกันสร้างเครือข่ายมือถือดาวเทียม ซึ่งทำให้พื้นที่ห่างไกลหรืออับสัญญาน ก็ยังสามารถติดต่อสื่อสารได้ เครือข่ายมือถือดาวเทียม คือ แตกต่างกับเครือข่ายมือถือทั่วไป เพราะดาวเทียมที่ไม่ต้องพึ่งพาเสาสัญญานเหมือนกับเสาโทรศัพท์ทั่วไป สัญญาณจากอุปกรณ์ดาวเทียมส่งตรงไปยังดาวเทียมที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะส่งสัญญาณไปยังเกตเวย์ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์ที่รับ โทรศัพท์ที่รับอาจเป็นโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ หรือโทรศัพท์แบบอื่นก็ได้ ความจริงที่ว่าสัญญาณดาวเทียมถูกส่งไปไกลกว่าพื้นโลกและไม่พึ่งพาเสาสัญญาณคือสิ่งที่ทำให้พวกเขามีประโยชน์ในพื้นที่ห่างไกล เช่น มหาสมุทร พื้นที่ทุรกันดาร ป่าและหุบเขาต่างๆ หรือแม้แต่ทะเลทรายก็ใช้ได้ โทรศัพท์ดาวเทียมในปัจจุบันจึงมีประโยชน์มากกว่าในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากโทรศัพท์เหล่านี้ไม่ต้องพึ่งพาเสาและเครือข่ายบนพื้นดินเพื่อใช้งาน เจ้าหน้าที่รับมือเหตุฉุกเฉินจำนวนมากต้องพึ่งพาโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมเพราะสามารถสื่อสารได้แม้ในระหว่างที่ไฟฟ้าดับ เครือข่ายมือถือ (เซลลูล่าร์) กับ เครือข่ายดาวเทียม ต่างกันอย่างไร? เนื่องจากปัจจุบันเครือข่ายดาวเทียมมีราคาสูงมาก จึงมักถูกใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น หรือพื้นที่ห่างไกล แต่การที่ T-Mobile ได้ร่วมมือกับ SpaceX เพื่อที่จะพัฒนาการใช้ดาวเทียมให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น ซึ่งในปี 2023 นี้จะทำการขยายและร่วมมือกับเครือข่ายโทรศัพท์ทั่วไปที่มีในปัจจุบันให้สามารถร่วมใช้งานดาวเทียมได้ ปัจจุบันการส่งข้อความ 1 ครั้งของโทรศัพท์ดาวเทียมต้องใช้เวลานานถึง 30 นาที ความหวังของคนทั่วโลกคงต้องรอการพัฒนาจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ เราอาจได้มีโอกาสใช้โทรศัพท์ดาวเทียมกันในชีวิตประจำวัน…